HEALTH

กรมอนามัย แนะเลี่ยงอาหารทะเลดิบๆ สุกๆ ช่วงหน้าร้อน

เสี่ยงอาหารเป็นพิษ แนะประชาชน เลือกซื้ออาหารที่สด-สะอาด ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค

วันนี้ (12 เม.ย. 66) กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ออกมาเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการกินอาหารทะเลสุก ๆ ดิบๆ โดยยึดหลัก ‘กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ’ เน้นทานอาหารที่ปรุงสุกแล้ว พร้อมแนะวิธีเลือกซื้ออาหารทะเลสด สะอาดจากจากแหล่งที่เชื่อถือได้ งดการใช้สารฟอร์มาลีนมาใช้รักษาความสดของอาหารทะเล

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ทะเลเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เช่นเดียวกับอาหารทะเลก็เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งนี้ อาหารทะเลเป็นอาหารสดที่เน่าเสียได้ง่าย ประชาชนควรเลือกซื้ออาหารทะเลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น ตลาดที่ได้มาตรฐาน ‘ตลาดสด น่าซื้อ’ ของกรมอนามัย และควรสังเกตอาหารทะเลที่จะซื้อ โดยดูจากลักษณะดังนี้

1.ปลา ต้องเลือกตัวที่มีเหงือกสีแดง ไม่เขียวคล้ำ เนื้อแน่น กดไม่บุ๋ม ไม่มีกลิ่นคาว ตาใส ไม่ช้ำเลือดหรือขุ่นเป็นสีเทา

2.ปู ต้องเลือกปูที่ยังไม่ตาย ตาต้องใส และขาต้องติดตัวปูครบทุกขา

3.กุ้ง ต้องมีเนื้อแน่น ไม่มีกลิ่นคาวเหม็นคล้ายกลิ่นแอมโมเนีย ครีบและหางต้องเป็นมันสดใส หัวกับตัวจะยังติดกันแน่น เพราะกุ้งที่ไม่สด หัวหรือส่วนที่เป็นเปลือกส่วนหัวจะไม่ติดกับตัว

4.แมงดา ต้องระวังในการเลือกซื้อ เนื่องจากแมงดาทะเลมี 2 ชนิด คือ แมงดาจานที่ไม่มีพิษ ส่วนแมงดาถ้วยหรือแมงดาไฟหรือเหรา เป็นแมงดาที่มีพิษ ต้องสังเกตให้ดีว่าเป็นแมงดาที่กินได้หรือไม่ได้ หากแยกไม่ออกไม่ควรกิน เพราะอาจเสี่ยงได้รับพิษ

5.แมงกะพรุน ซึ่งแมงกะพรุนที่กินได้ มี 2 ชนิด คือ แมงกะพรุนหนังและแมงกะพรุนจาน และควรระวังแมงกะพรุนไฟเพราะเป็นแมงกะพรุนมีพิษ

หากซื้ออาหารทะเลมาแล้วไม่นำมาปรุงกินทันที ควรล้างทำความสะอาดแยกเก็บใส่ตู้เย็น ที่ช่องแช่แข็ง อุณหภูมิติดลบที่ปรับตั้งได้ หากแช่ในอุณหภูมิ -1 ถึง 1 องศาเซลเซียส ระยะเวลาในการเก็บ ที่เหมาะสม 1-2 วัน เพื่อชะลอการเน่าเสีย ก่อนนำมาปรุงอาหารต้องล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง ที่สำคัญเน้นปรุงสุกด้วยความร้อน หลีกเลี่ยงการกินแบบดิบ ยึดหลัก ‘กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ’ ลดความเสี่ยงโรคอาหารเป็นพิษ และอุจจาระร่วง

“ทั้งนี้ กรมอนามัยขอให้ผู้ประกอบการงดใช้วิธีการที่ผิดเพื่อรักษาความสดและชะลอการเน่าเสียของอาหารทะเลด้วยการนำมาแช่สารฟอร์มาลีน ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะสารฟอร์มาลีนเป็นสารที่ห้ามนำมาใส่อาหาร หากกินอาหารที่ปนเปื้อนฟอร์มาลีนไปในปริมาณ 60-90 มิลลิกรัม จะทำให้เป็นพิษต่อระบบทางเดินอาหาร อาจมีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง หัวใจเต้นเร็ว แน่นหน้าอก ปากและคอแห้ง คลื่นไส้อาเจียน ถ่ายท้อง ปวดท้องอย่างรุนแรง กระเพาะอาหารอักเสบ เกิดแผลในกระเพาะอาหาร ปัสสาวะไม่ออก หมดสติ ถ้าปล่อยไว้อาจทำให้เสียชีวิตเพราะระบบหมุนเวียนเลือดล้มเหลว” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

Related Posts

Send this to a friend