เวิลด์แบงก์ คาด GDP ไทยปีนี้โต 2.9% แนะรัฐปรับนโยบาย
นายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ประจำประเทศไทย กล่าวถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ว่า จะฟื้นตัวดีขึ้นจากแรงกระตุ้นของการบริโภคภาคเอกชน และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว หลังจากมีการผ่อนคลายข้อจำกัดต่างๆ โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยประมาณ 6 ล้านคน โดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังของปี คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าของครึ่งปีแรก
เวิลด์แบงก์ยังประเมินว่า เศรษฐกิจไทยจะกลับไปสู่ระดับก่อนการระบาดของโควิด-19 ในช่วงไตรมาส 4/2565 จึงคาดว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ในปี 2565 จะขยายตัวที่ 2.9% ส่วนปี 2566 ขยายตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 4.3% ขณะที่ปี 2567 คาดว่าจะขยายตัวที่ระดับ 3.9%
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความท้าทายของเศรษฐกิจ จากความเสี่ยงของโควิด-19 ที่อาจกลับมาระบาดอีกระลอกได้ ซึ่งจะกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวและทิศทางอัตราเงินเฟ้อ โดยในเดือนพฤษภาคม อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 7.1% ทะลุกรอบเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ 1-3% เป็นระดับที่สูงสุดในรอบ 13 ปี คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไป จะอยู่ที่ระดับ 5.2% ส่งผลกระทบกับครัวเรือนยากจนเป็นหลัก โดยประเมินว่า ราคาอาหารและน้ำมันที่เพิ่มขึ้นทุก 10% จะส่งผลให้ครัวเรือนมีความยากจนมากขึ้น 1.5 เท่า
เวิลด์แบงก์ยังมองว่า การควบคุมราคาสินค้า มีผลในระดับหนึ่ง แต่ไม่ใช่มาตรการที่มีประสิทธิภาพที่สุด และไม่ได้ยั่งยืน เพราะไม่มีการจัดสรรมาตรการให้ตรงกลุ่มเป้าหมายที่ควรได้รับประโยชน์ รัฐจึงควรพิจารณาเครื่องมืออื่นควบคู่ไปด้วย ส่วนความท้าทายจากนโยบายภาคการคลังที่ต้องติดตาม คือหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น 10%