ECONOMY

สมาคมไข่ไก่ฯ ประกาศตอบรับ 2 นโยบายกรมปศุสัตว์ เร่งส่งออกลดสต๊อกในประเทศ

นายมงคล พิพัฒสัตยานุวงศ์ นายกสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ ล่าสุดประกาศขานรับ 2 แนวทางกรมปศุสัตว์ โดยการเร่งผลักดันส่งออกไข่ไก่ ไปตลาดต่างประเทศ เพิ่มขึ้นจาก 1 ล้านฟอง เป็น 2 ล้านฟองต่อวัน ล่าสุดประเทศไต้หวัน ติดต่อขอซื้อไข่ไก่จากไทย เพื่อแก้ปัญหาในประเทศขาดแคลนและราคาสูง พร้อมกันนี้ได้เร่งระบายผลผลิต และสร้างสมดุลราคาในประเทศ มุ่งลดการขาดทุนของเกษตรกรผู้เลี้ยง จากราคาไข่ไก่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต

นายมงคล กล่าวว่า “ขณะนี้หลายประเทศประสบปัญหา ไข่ไก่ขาดแคลนจากสถานการณ์การระบาดของไข้หวัดนก เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน มาเลเซีย และเกาหลีใต้ เป็นต้น ทำให้ผลผลิตไข่ไก่ไม่เพียงพอ กับความต้องการบริโภคในประเทศ จึงเป็นโอกาสดีที่ผู้ผลิตไข่ไก่ของไทย จะเจรจาเปิดตลาดส่งออกไปยังประเทศดังกล่าว เพื่อเพิ่มปริมาณส่งออก และนำเข้าเงินตราต่างประเทศมากขึ้น คาดว่าเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2566 ไทยจะส่งออกไข่ไก่ได้เพิ่มขึ้น จากปกติวันละ 1 ล้านฟอง เป็น 2 ล้านฟองต่อวัน เชื่อว่าภายใน 1-2 สัปดาห์ สถานการณ์ราคาในประเทศจะดีขึ้น”

“ไข้หวัดนก ทำให้หลายประเทศขาดแคลนไข่ไก่ และราคาสูงมาก เนื่องจากผู้ผลิตบางส่วนในประเทศดังกล่าวข้างต้น เลิกกิจการเนื่องจากภาระต้นทุน การผลิตที่สูงขึ้นต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสของไทยในการขยายตลาดส่งออกไข่ไก่ในช่วงนี้ โดยเฉพาะไต้หวัน ที่ติดต่อเข้ามาขอซื้อไข่ไก่จากไทย จากที่ปกติไทยมีตลาดส่งออกหลัก คือ ฮ่องกงและสิงคโปร์” ก่อนหน้านี้ประเทศอินเดียเตรียมส่งออกไข่มาก เป็นประวัติการณ์จำนวน 50 ล้านฟอง ให้กับมาเลเซียที่ประสบปัญหาขาดแคลนไข่เฉียบพลัน เนื่องจากราคาอาหารสัตว์พุ่งสูงขึ้น จากสงครามยูเครน ทำให้เกษตรกรรายย่อยจำนวนมาก จำเป็นต้องลดกำลังการผลิตลง ขณะที่ญี่ปุ่นประสบปัญหาขาดแคลนไข่ไก่ เนื่องจากไข้หวัดนกแพร่ระบาดใน 47 จังหวัดของประเทศ และต้นทุนการเลี้ยงเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาขายส่งไข่ขนาดกลางในกรุงโตเกียว ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 อยู่ที่ 335 เยน (ประมาณ 86 บาท) ต่อกิโลกรัม สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 81

สำหรับสถานการณ์ตลาดไข่ไก่ ในประเทศเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2566 จากสภาพอากาศหนาวเย็น ส่งผลแม่ไก่ให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น จึงมีผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น เป็นผลให้ราคาย่อตัวลงไปด้วย ประกอบกับกำลังซื้อในประเทศลดลง ตามภาวะเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งขณะนี้ราคาไข่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงประสบกับภาวะขาดทุน โดยราคาไข่คละหน้าฟาร์มอยู่ที่ 3.20 บาทต่อฟอง ขณะที่ราคาต้นทุนการผลิตไข่ไก่ ไตรมาสที่ 4/2565 อยู่ที่ 3.47 บาทต่อฟอง

“ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ผู้เลี้ยงไก่ไข่ประสบปัญหา ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นมากกว่า 30% ทั้งจากวัตถุดิบอาหารสัตว์ น้ำมันเชื้อเพลิง และพันธุ์สัตว์ ขณะที่ราคาไข่ไก่ไม่มีเสถียรภาพ สวนทางกับต้นทุนการผลิต ทำให้ผู้เลี้ยงขาดทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และอาจเลิกเลี้ยง ซึ่งจะทำให้เกิดการขาดแคลนไข่ไก่ในอนาคตได้ หากไม่มีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร”

นอกจากนี้กรมปศุสัตว์ ยังขอความร่วมมือผู้เลี้ยงไก่ไข่ทุกราย ให้เร่งปลดแม่ไก่ยืนกรง ไม่ให้มีอายุเกิน 80 สัปดาห์ ยกเว้นรายย่อยที่เลี้ยงต่ำกว่า 30,000 ตัว ส่วนผู้เลี้ยงรายใหญ่ 100,000 ตัวขึ้นไปไม่ให้เกิน 78 สัปดาห์ และขอให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ ช่วยผลักดันการส่งออก หรือปลดไก่ไข่ยืนกรงก่อนกำหนด

Related Posts

Send this to a friend