ผญบ.ปิล็อก เตรียมนำ 5 พรานลอบล่าเสือโคร่งในเขต อช.ทองผาภูมิ เข้ามอบตัวที่ สภ.ปิล็อก
ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิลาดตระเวนพบพราน 5 คน ลักลอบล่าเสือโคร่งในพื้นที่อุทยาน โดยทั้งหมดไหวตัวทัน หลบหนีการจับกุมไปได้ พบเพียงซากเสือ หนังที่ถูกถลกแล้ว อาวุธปืน และอุปกรณ์ทำผิดอีกจำนวนหนึ่ง รวมถึงซากวัวที่ถูกใช้เป็นเหยื่อล่อเสือ
วันนี้ (13 ม.ค. 65) นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ แจ้งว่าได้รับการประสานจากผู้ใหญ่บ้านปิล็อก จะนำตัวผู้ลักลอบล่าเสือในป่าทองผาภูมิ 5 คน มามอบตัวที่ สภ.ปิล็อก ช่วงบ่ายวันนี้ โดยข้อมูลว่าสุดยังยืนยันว่า เป็นชาวบ้านหมู่บ้านปิล็อกทั้งหมด ไม่มีเจ้าหน้าที่ไปเกี่ยวข้องกับการเข้ามาลักลอบล่าเสือ แต่ยังต้องลงพื้นที่เข้าตรวจสอบพยานหลักฐาน และดูการพาผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัวอีกครั้ง
สำหรับของกลางที่นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ นำไปมอบให้กับพนักงานสอบสวน สภ.ปิล๊อก เพื่อใช้เป็นหลักฐานติดตามจับกุมกลุ่มนายพรานทั้ง 5 คน มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ประกอบด้วย ซากเสือโคร่งเพศผู้กับเพศเมีย จำนวน 2 ซาก , อาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก , ปลอกกระสุนปืนลูกซอง 5 ปลอก , อาวุธปืนแก๊ป 2 กระบอก , อาวุธปืนยาวขนาด .22 ติดลำกล้อง 1 กระบอก , เครื่องกระสุนปืนลูกตะกั่ว 176 ลูก , ดินปืน 2 ขวด กับอีก 1 ถุง พร้อมเครื่องกระสุนปืน ขนาด.22 จำนวน 50 นัด, แผ่นแก๊ป 150 นัด , ซองพัสดุบริษัทขนส่ง มีชื่อผู้รับพัสดุระบุชื่อ “ดาว คงจิตรวิวัฒน์” และซองบรรจุยาลดความดัน 1 ซอง ผู้ป่วยชื่อ “นางโพเจ๊ะ” ไม่มีนามสกุล และระเบิดปิงปองอีก 22 ลูก
ส่วนการแจ้งความร้องทุกข์ ได้มอบหมายให้ นายวันชัย สูนคำ และ นายอุเทน บัวโรย เจ้าพนักงานพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เป็นผู้แจ้ง โดยได้แจ้งความกล่าวหาผู้กระทำผิดตามพรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14(2) และมาตรา 31(6) ในข้อหา “ร่วมกันเก็บหาของป่า อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต” และตามพรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 19(3) มาตรา 43 ฐาน “ร่วมกันล่อ หรือนำสัตว์ป่าออกไป หรือกระทำให้เกิดอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการใด ฐานร่วมกันเข้าไปดำเนินการกิจการใดๆ เพื่อหาประโยชน์” ตามมาตรา 19(6) และมาตรา 44 ฐาน “ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์ หรือจับสัตว์ หรืออาวุธใดๆเข้าไป” ตามมาตรา 19(7) และมาตรา 45 ฐาน “ยิงปืนหรือทำให้เกิดระเบิด หรือจุดดอกไม้เพลิง” ตามมาตรา 19(8)และมาตรา 44 ฐาน “ทิ้งสิ่งที่เป็นเชื้อเพลิงซึ่งอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้” ตามมาตรา 19(9) และมาตรา 44 และตามพรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ฐาน “ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่า”ตามมาตรา 17 และมาตรา 92
