ค้นบ่อจระเข้เถื่อน ยึดจระเข้กว่า 160 ตัวหลังชาวบ้านผวากลัวจระเข้หลุด

ตำรวจสอบสวนกลางตรวจค้นบ่อจระเข้เถื่อน ยึดจระเข้กว่า 160 ตัวหลังชาวบ้านผวากลัวจระเข้หลุด

กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานประมงจังหวัดปราจีนบุรี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.นัธทวัฒน์ สุรนารถ สว.กก.2 บก.ปทส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.4 กก.2 บก.ปทส. ร่วมกันจับกุม นายสมโชค (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่เพาะพันธุ์ได้ โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 18 ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562” และความผิดฐาน “ไม่แจ้งประกอบกิจการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม ตามมาตรา 78 (2) ตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558”

พร้อมตรวจยึดของกลาง จระเข้น้ำจืด (Crocodylus siamensin) จำนวน 145 ตัว จระเข้น้ำเค็ม (Crocodylus porosus) จำนวน 15 ตัว โดยจับกุมได้ที่บ้านพักในพื้นที่ หมู่ที่ 21 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปทส. ได้รับร้องเรียนจากชาวบ้าน ในพื้นที่ ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีว่ามีบ่อจระเข้ตั้งอยู่ในลักษณะไม่ปลอดภัย เกรงว่าจระเข้อาจหลุดออกจากบ่อ เกิดอันตรายต่อบุคคลทั่วไปได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบว่าบ่อจระเข้ที่เกิดเหตุ มีรั้วกั้นบ่อเป็นเพียงสังกะสีและแผ่นกระเบื้องมุงหลังคาลักษณะทรุดโทรม ไม่
ปลอดภัย เมื่อมองทะลุระหว่างรั้วจึงพบจระเข้อยู่ในบ่อดังกล่าวจริง

นอกจากนี้บ่อดังกล่าวยังอยู่ห่างจากถนนสาธารณะของหมู่บ้านเพียง 50 เมตร จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อยื่นคำร้องขอหมายค้นบ่อจระเข้ดังกล่าว

ต่อมาวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปทส.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานประมงจังหวัดปราจีนบุรีจึงได้นำหมายค้นจากศาลจังหวัดกบินทร์บุรีที่ 41/2565 ลงวันที่ 7 พ.ย.65 เพื่อเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว เมื่อไปถึง พบนายสมโชคฯ อ้างตัวเป็นเจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอเข้าตรวจสอบ

พบบ่อเลี้ยงจระเข้ จำนวนทั้งหมด 2 บ่อ ซึ่งภายในบ่อมีจระเข้น้ำจืดจำนวน 145 ตัว ความยาวเฉลี่ย 2.5 เมตร และจระเข้น้ำเค็ม จำนวน 15 ตัว ความยาวเฉลี่ย 3 เมตร รวมทั้งหมด 160 ตัว จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาไม่มีใบอนุญาตเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันพิจารณาแล้วมีความเห็นว่าการกระทำดังกล่าวความผิดฐาน “มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่เพาะพันธุ์ได้ โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 18 ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562”และความผิดฐาน “ไม่แจ้งประกอบกิจการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าจับกุมผู้ต้องหาและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังตะเคียน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ในส่วนของจระเข้ทั้งหมด 160 ตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำส่งสำนักงานประมงจังหวัดปราจีนบุรีเพื่อดูแลรักษาต่อไป

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และยอมรับว่าเลี้ยงจระเข้มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 โดยเลี้ยงไว้เพื่อการค้า