‘อัจฉริยะ’ บุกอัยการนนท์ ขอให้นำคดี แซน ให้การเท็จ ประกอบสำนวนก่อนสั่งฟ้องคดีหลัก

‘อัจฉริยะ’ บุกอัยการนนท์ ขอให้นำคดี แซน ให้การเท็จ ประกอบสำนวนก่อนสั่งฟ้องคดีหลัก ลั่น ยังมีหลักฐานเด็ดอีก 2 ชิ้น ไม่กังวลถูกฟ้องกลับ แต่หวั่น ตร.ใช้อำนาจข่มเหง
วันนี้ (11 พ.ค. 65) เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้าพบพนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี เพื่อสอบถามความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาปรึกษาอัยการ เพื่อขอให้รอคดีที่ตนเองแจ้งความแซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ ข้อหาให้การเท็จฯ นำมาประกอบในสำนวนก่อนการสั่งฟ้อง วันที่ 27 พ.ค.นี้ เพราะผลสรุปในคดีดังกล่าว อาจจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้คดีหลักเปลี่ยนได้ ทั้งนี้คิดว่าทันกรอบเวลาสั่งฟ้องแน่นอน
หากพบว่าแซนให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานจริง โจทย์ที่ตำรวจตั้งไว้ว่าแตงโมตกท้ายเรือจะถือว่าไม่เป็นความจริง และคดีหลักต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ ซึ่งมั่นใจว่าพยานหลักฐานที่ตนเองยื่นกับพนักงานสอบสวนมีความแน่นหนา เพราะมีพยานผู้เชี่ยวชาญหลายแขนงที่เห็นพ้องว่า แตงโมไม่ได้ตกจากท้ายเรือ
นอกจากนี้ยังมีหลักฐานเด็ดอีก 2 ชิ้นที่ยังไม่เปิดออกมา ส่วนหนึ่งตำรวจยังไม่มี และอีกส่วนชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่พยานบนเรือนำเสนอให้พนักงานสอบสวนนั้นเป็นเรื่องเท็จ
โดยหลักฐานอีก 2 ชิ้น เป็นตัวอย่างทรายจากทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน โดยนำมาประกอบกันกับทรายที่ตนเองเก็บมาว่ามีลักษณะเดียวกันหรือไม่ รวมทั้งสัปดาห์หน้าจะนำนักประดาน้ำไปถ่ายภาพใต้น้ำว่าจุดที่พบศพมีทรายอยู่หรือไม่ และจะหาพยานจากบุคคลที่พบเห็นเหตุการณ์ แต่ตำรวจไม่ได้นำมาประกอบในสำนวนด้วย
ส่วนการที่ออกมาเคลื่อนไหวในคดีแตงโม คิดว่าไม่กระทบใคร เพราะตนเองก็ตามหาความจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ตามกำลัง และทำได้เพียงนำหลักฐานให้พนักงานสอบสวน ส่วนจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้นขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนทั้งหมด
นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า ติดใจที่ตำรวจไม่ตรวจสารเสพติดแซนคนเดียว ทั้งที่แซนคือตัวหลักที่อ้างว่าเห็นแตงโมตกท้ายเรือ สำหรับประเด็นที่จะถูกฟ้องกลับหรือดำเนินคดีนั้น ไม่กังวล แต่เกรงว่าจะถูกตำรวจจะใช้อำนาจข่มเหงมากกว่า ยืนยันว่าสิ่งที่ตนเอง พูดเป็นความจริง อะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่เป็นไรจะรับผิดชอบในคำพูดของตัวเอง หากตำรวจจะมาดำเนินคดีภายหลัง ก็พร้อมรับผิดทางกฎหมายอยู่แล้ว