CRIME

มุกใหม่แก๊งคอลเซนเตอร์ปลอมเป็นตำรวจ วีดีโอคอลหลอกเหยื่อ

มุกใหม่แก๊งคอลเซนเตอร์ “ปลอมเป็น ตร.” วีดีโอคอลหลอกเหยื่อ คลิ๊กเดียว หมดบัญชี

วันนี้ (10 ก.ย. 65) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปอส.ตร.) หรือ ศูนย์ PCT เปิดเผยกรณีแก๊งคอลเซนเตอร์ นำคลิปตำรวจหญิงจาก Tiktok ไปสวมรอยเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ พร้อมส่งลิงก์ปลอมให้ ซึ่งหากผู้เสียหายหลงเชื่อ ส่งรหัสควบคุมกลับไป จะถอนเงินจนหมดบัญชี

สำหรับกรณีดังกล่าว คนร้ายได้ใช้วิธีโทรศัพท์หาเหยื่อโดย อ้างว่าเกี่ยวพันกับคดียาเสพติด ฟอกเงิน ฯลฯ จากนั้นจะขอไลน์ผู้เสียหาย อ้างว่าจะวีดีโอคอลหา เพื่อให้เหยื่อเชื่อว่าเป็นตำรวจจริง เมื่อวีดีโอคอลผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์หาผู้เสียหาย จะนำคลิปตำรวจหญิงนายหนึ่งขณะปฏิบัติหน้าที่ มาจากแอพพลิเคชั่น TikTok ที่เจ้าตัวโพสต์ไว้ โดยนำมาตัดต่อและเปิดวนไปมาให้ดูเป็นธรรมชาติ หลอกถามข้อมูลส่วนตัว ขอดูบัตรประชาชน โอนสายให้คุยกับสารวัตรบ้าง ผู้กำกับบ้าง ใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพื่อถ่วงเวลา

จากนั้นจะส่งหน้าหมายจับปลอมที่มีข้อมูลของเหยื่อครบทั้งหมด พร้อมกับลิงก์เว็บไซต์ปลอม ที่มีหน้าตาคล้ายกับตราสัญลักษณ์หน่วยงานดีเอสไอ ผ่านแอปพลิเคชั่นที่คนร้ายใช้ควบคุมโทรศัพท์จากระยะทางไกล แล้วให้เหยื่อทำธุรกรรมทางการเงิน โดยโอนเงินจากบัญชีหนึ่ง ไปไว้อีกบัญชีหนึ่ง ทำให้เห็นข้อมูลรหัสเข้าบัญชีธนาคารระหว่างทำธุรกรรม จากนั้นจะเข้าทำการโอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย ไปยังบัญชีคนร้าย

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ จึงได้แนะนำวิธีป้องกันตนเองเบื้องต้น ว่า ให้ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก หากมีเจ้าหน้าที่ของรัฐติดต่อหรือแสดงตัว ไม่ว่าเรื่องใดๆ ให้โทรสอบถามจากเบอร์กลางของหน่วยงานที่ถูกอ้างถึงนั้นๆ ทุกครั้ง , ห้ามกดลิงก์หรือติดตั้งแอปพลิเคชั่นที่ไม่ทราบที่มาที่ไป รวมถึงไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวใดๆ เมื่อรับสายจากต้นทางที่ไม่ทราบที่มาที่ไปชัดเจน , กรณีมีข้อความเลขรหัส เข้าเครื่องโทรศัพท์ไม่ทราบที่มาที่ไป ห้ามเผยแพร่บุคคลอื่นทราบ เพราะอาจเป็นเลขรหัสควบคุมเครื่องจากระยะไกล ที่เคยประชาสัมพันธ์ไปแล้วก่อนหน้านี้

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ยังย้ำว่า หน่วยงานของรัฐไม่มีนโยบายการติดตาม หรือดำเนินคดีผ่านการโทรศัพท์หรือวีดีโอคอลหาประชาชนทั้งสิ้น หากสงสัยเกรงจะตกเป็นเหยื่อสามารถปรึกษาได้ที่ สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือ ศูนย์ PCT 081-8663000 ผู้เสียหายสามารถแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com และสามารถติดตามรูปแบบการประชาสัมพันธ์กลโกงได้ที่ pctpr.police.go.th

Related Posts

Send this to a friend