แจ้ง 4 ข้อหา ศิษย์คนสนิทสมเด็จพระวันรัต โกงเงินวัดเกือบ 200 ล้านบาท
แจ้ง 4 ข้อหา ศิษย์คนสนิทสมเด็จพระวันรัต โกงเงินวัดบวรฯ – วัดวชิรธรรมาราม เกือบ 200 ล้านบาท
วันนี้ (3 เม.ย. 65) หลังจากชุดสืบสวนจับกุมตัว นายเนย ผู้ต้องหาในคดียักยอกเงินจากบัญชีของวัดบวรนิเวศวิหารและวัดสาขา หลังจากสมเด็จพระวันรัต อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรฯ มรณภาพเมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา ไปใช้ส่วนตัวเป็นเงินจำนวนมาก นายเนยได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างกับชุดสืบสวนว่า เงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่สมเด็จพระวันรัตมอบให้ไว้ใช้จ่ายส่วนตัว ไม่ได้ฉ้อโกงมาแต่อย่างใด
แต่เนื่องจากหลักฐานที่วัดมอบให้กับตำรวจ มีความชัดเจนว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดเพราะเป็นเงินที่ถูกโอนจากบัญชีวัดมาเข้าบัญชีส่วนตัวของนายเนย เบื้องต้นจึงได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้ รวม 4 ข้อหา คือ “ฉ้อโกง , ลักทรัพย์ , ปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม , ฟอกเงิน” โดยชุดสืบสวนกองปราบฯ อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลเกี่ยวกับทรัพย์ของนายเนย ร่วมกับ ป.ป.ง. เพื่อนำทรัพย์สินกลับคืนวัด
สำหรับคดีนี้ เริ่มขึ้นช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา นายเนยใช้อุบายหลอกให้สมเด็จพระวันรัตลงลายมือชื่อในใบถอนเงิน จากนั้นนำใบถอนเงินฉบับดังกล่าวมาเขียนจำนวนเงินตามที่ตนต้องการ แล้วนำไปแสดงต่อพนักงานธนาคารเพื่อถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากของวัดชิรธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยาจนเมื่อต้นเดือนมกราคม 65 นายเนยยังคงใช้อุบายหลอกให้สมเด็จพระวันรัตลงลายมือชื่อในใบถอนเงินแล้วนำไปเขียนจำนวนเงินตามที่ตนต้องการอรกครั้ง แต่ในครั้งนี้ได้มอบหมายให้ผู้ใกล้ชิดของสมเด็จพระวันรัตอีกคน เป็นผู้นำใบถอนเงินฉบับดังกล่าวไปแสดงต่อพนักงานธนาคาร เพื่อถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากของวัดวชิรธรรมาราม แล้วให้ผู้ที่ได้รับมอบหมายทำธุรกรรมซื้อแคชเชียร์เช็ค สั่งจ่ายให้แก่นายเนยก่อนจะฝากเข้าบัญชีเงินฝากของตน
ต่อมา วัดวชิรธรรมารามตรวจพบการทุจริตของนายเนย จึงร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนกองปราบฯ เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายเนยตามกฎหมาย โดยเชื่อว่า นายเนยน่าจะทุจริตเอาเงินหรือทรัพย์สินอื่นใดของวัดบวรนิเวศวิหารด้วย พระธรรมวชิรญาณ รักษาการเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร-สมุทรปราการ (ธรรมยุติ) จึงมีคำสั่งให้ตรวจสอบทรัพย์สินของสมเด็จพระวันรัต อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร
จากการตรวจสอบ พบว่าสมเด็จพระวันรัตได้เปิดบัญชีเงินฝากส่วนตัวและบัญชีที่เกี่ยวข้องกับวัดบวรนิเวศวิหาร หลายบัญชี โดยช่วงเดือนตุลาคม 2564 นายเนยได้นำสมุดบัญชีเงินฝากและบัตรประจำตัวประชาชนของสมเด็จพระวันรัต พร้อมโทรศัพท์มือถือของนายเนย มอบให้บุคคลใกล้ชิดสมเด็จพระวันรัตอีกคนหนึ่ง พร้อมสั่งการให้บุคคลดังกล่าวนำไปติดต่อธนาคาร ขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลโทรศัพท์ที่ใช้ทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หลังจากนั้น นายเนยได้ใช้โทรศัพท์มือถือของตนเองทำธุรกรรมโอนเงินจากบัญชีเงินฝากของสมเด็จพระวันรัตและบัญชีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดบวรนิเวศวิหาร มายังบัญชีเงินฝากของตนเอง เป็นเหตุให้วัดวชิรธรรมารามได้รับความเสียหายประมาณ 80 ล้านบาทเศษ ส่วนวัดบวรนิเวศวิหารได้รับความเสียหายประมาณ 110 ล้านบาทเศษ รวมความเสียหายของทั้ง 2 วัด ประมาณ 190 ล้านบาท
