มหกรรมกัญชาขอนแก่น เผยการนำกัญชา กัญชง มาเป็นส่วนผสมอาหาร สร้างรายได้
มหกรรมกัญชา ขอนแก่น “สร้างสุขภาพ สร้างรายได้” ประสบผลสำเร็จ เผยการนำกัญชากัญชง มาเป็นส่วนผสมอาหาร สร้างรายได้ ทั้ง ไส้กรอก ไก่ย่าง พร้อมทั้งมีการการจับคู่ต่อยอดทางธุรกิจ ครั้งหน้าจัดต่อเขตสุขภาพที่ 10 จังหวัดศรีสะเกษ วันที่ 8-10 เม.ย. 65
วันนี้ (3 เม.ย. 65) ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น (KICE) จ.ขอนแก่นหลังจากที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มาเปิดงานอย่างเป็นทางการ พบว่า บรรยากาศการจัดงานประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ เขตสุขภาพที่ 7 วันที่ 3 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของงาน ยังคงมีประชาชนทั้งในจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียงเดินทางมาร่วมงานอย่างต่อเนื่อง รวม 3 วันมีคนเข้าร่วม 9,186 คน ในงานมีการเสวนาวิชาการเกี่ยวกับกัญชงและกัญชา ให้บริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์
รวมทั้งจัดบูธนิทรรศการแสดงผลงาน จำหน่ายสินค้า ทั้งผลิตภัณฑ์และอาหารที่ใช้กัญชงและกัญชาเป็นส่วนประกอบ โดยร้านที่ได้รับความสนใจจากลูกค้า คือ “วิสาหกิจชุมชนดอนเมืองเศรษฐกิจใหม่” นำเมนูไก่ย่างยอดอ่อนกัญชา มาจำหน่ายให้ประชาชนที่มาเดินเที่ยวชมงาน และ ร้านโสเหล่แคนนาบิส นำผลิตภัณฑ์จากกัญชามาจัดแสดงและวางจำหน่าย โดยเมนูเด่นคือ “ไส้กรอกกัญชา สูตรคุณแม่” โดยได้รับความนิยมเลือกซื้ออย่างคักคึก
น.ส.สิริณัฏฐ์ พศิการัศมิ์ ผู้จัดจำหน่ายไส้กรอกกัญชา สูตรคุณแม่ ร้านโสเหล่แคนนาบิส กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของการทำไส้กรอกกัญชา สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ร้านเปิดร้านอาหารแบบนั่งชิล แต่พบสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ร้านต้องปิดชั่วคราว ร้านจึงหาวิธีการสร้างรายได้ในช่วงวิกฤตโควิด-19 กระทั่งไปรู้จักกับกลุ่มผู้ปลูกกัญชาถูกกฎหมาย จึงทดลองนำเอากัญชามาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม โดยลองผิดลองถูก กระทั่งมีไอเดีย ทดลองนำใบกัญชามาเป็นส่วนผสมของไส้กรอก ซึ่งเป็นอาหารที่ชื่นชอบของชาวอีสาน โดยมีสัดส่วนการผลิต หากใช้เนื้อหมู 10 กิโลกรัม จะใช้ใบกัญชาประมาณ 3 กิโลกรัม
“ความพิเศษของไส้กรอก คือ มีความนัวอยู่แล้ว เมื่อใส่กัญชาเข้าไปจะช่วยให้รสชาติกลมกล่อม ทานแล้วได้ประโยชน์กับร่างกาย สามารถต่อต้านโรคได้หลายหลายอย่าง โดยจำหน่ายแพ็คละ 69 บาท ใน 1 แพ็คมีไส้กรอก 3 ชิ้นนำไปปิ้งหรือนำเข้าเตาอบได้ ผู้ที่สนใจไส้กรอกกัญชา สามารถสอบถามได้ที่เพจเฟซบุ๊ค“โสเหล่กัญ” หรือสอบถามที่ โทร 087-6399444 หรือ 061-9645966 ซึ่งร้านรับตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ” น.ส.สิริณัฏฐ์ กล่าว
น.ส.ณิฐ์ภาวรรณย์ แตงเอี่ยม ประธานวิสาหกิจชุมชนดอนเมืองเศรษฐกิจใหม่ กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของการคิดค้นเมนูไก่ย่างยอดอ่อนกัญชา เริ่มจากในชุมชนเห็นว่าวัตถุดิบต่างๆทั้งหมู เนื้อ โดยเฉพาะไก่ เป็นทางเลือกอีกทางหนึ่ง โดยคิดว่าทำอย่างไรให้ไก่กับกัญชาที่จะออกมาในอนาคตเป็นเมนูที่มีคุณภาพ จึงร่วมมือกับบริษัทที่ปลูกกัญชาอย่างถูกกฎหมาย ผลิตเมนูไก่ย่าง โดยไม่ใช่ ไก่ย่างธรรมดาที่นำใบกัญชามาแปะแล้วย่าง แต่ใช้ใบยอดอ่อนของกัญชามาเป็นส่วนผสมหลักในการหมักไก่ โดยใช้สัดส่วนไก่ 100 ตัวต่อยอดอ่อนกัญชา 2 กิโลกรัม นำมาผสมกับสมุนไพรตัวอื่นแล้วหมักให้ซึมเข้าเนื้อไก่ โดยหมักเป็นเวลา48 ชั่วโมง ก่อนนำมาอบในเตาหมุนที่ออกแบบเป็นพิเศษ จะไม่ทำให้เนื้อไก่แข็งเกินไป หมุนจนไก่สุก เมื่อไก่สุกแล้วนำมาฟรีซที่อุณหภูมิ -40 องศา และบรรจุสามารถเก็บไว้ได้นานถึง 6 เดือน
“สิ่งสำคัญ คือ ไม่ใส่สารกันบูด ไม่ใส่ผงชูรส จึงได้เมนูไก่ที่ปลอดภัย รับประทานได้ง่าย นำเอายอดอ่อนกัญชามาเป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งสร้างความแปลกใหม่ให้เมนูอาหาร สามารถรับประทานได้ทุกที่ทุกเวลาเพียงนำไก่ย่างยอดอ่อนสมุนไพรเข้าเตาไมโครเวฟเพียง 2 – 5 นาที ก็รับประทานได้ จะได้เนื้อไก่นุ่มกับกลิ่นของสมุนไพรกัญชา โดยใบยอดอ่อนของกัญชาจะอยู่ในทุกอณูของเนื้อไก่ สาเหตุที่ใช้ยอดอ่อนของกัญชา เนื่องจากเป็นส่วนที่มีความหอมเพราะอยู่ใกล้ส่วนดอกมากที่สุด เมื่อนำมาหมักในเนื้อไก่จะทำให้ผู้บริโภคไม่รู้สึกว่าได้รับสารที่ทำให้เกิดอาการมึนเมามากเกินไป โดยใบยอดอ่อนที่ใช้จะเป็นใบสดเท่านั้น
งานนี้เป็นที่แรกที่กลุ่มนำมาเปิดตัวและวางจำหน่าย เพื่อให้ประชาชนนำไปต่อยอดและรับไปขายได้ทั่วประเทศ แต่จะมีสูตรที่เป็นความลับ ซึ่งกลุ่มเรารับสอนการหมักไก่สูตรนี้ด้วย สำหรับราคาจำหน่ายตัวละ299 บาท ส่วนน่องและสะโพก ราคาแพ็คละ 120 บาท โดยมีน้ำจิ้มที่มีส่วนผสมของยอดอ่อนกัญชาด้วยสำหรับไก่ที่ใช้เป็นไก่ที่มีคุณภาพจากเบทาโกร ซึ่งผู้บริโภคเชื่อถือได้ทั้งความสะอาดและคุณภาพ ทุกเพศทุกวัยสามารถรับประทานได้ ผู้สนใจติดต่อได้ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนดอนเมืองเศรษฐกิจใหม่ โทร 085-4462444 หรือ 0616649494″ น.ส.ณิฐ์ภาวรรณย์กล่าว
นายคำผัน จันทจร ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มปลูกพืชสมุนไพรฯ ต.แวงน่าง อ.เมือง จ.มหาสารคาม เปิดเผยว่า ผลตอบรับงานกัญชาถือว่าค่อนข้างดี มีหลายบริษัทติดต่อซื้อวัตถุดิบไปแปรรูป ซึ่งอนาคตของกัญชามองว่ายังสามารถไปต่อได้อีก แต่ตอนนี้กลุ่มยังคงมีข้อจำกัด ในเรื่องทุน อยากให้รัฐบาลจัดหาสถาบันการเงินมาช่วยปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้ เพื่อให้สามารถนำเงินมาต่อยอดผลิตภัณฑ์ รวมถึงจัดอบรม มีนักวิชาการเกษตรมาช่วยดูแลหากเกิดปัญหาโรคและแมลงต่างๆที่อาจเกิดขึ้น และหาช่องทางการตลาดให้เพื่อสร้างรายได้ให้กับทางกลุ่ม
สำหรับการจัดงาน วิชาการกัญชาทางการแพทย์ ปลดล็อกกัญชา กัญชง สร้างสุขภาพ สร้างรายได้ ครั้งต่อไปจะจัดขึ้นในเขตสุขภาพที่ 10 ที่จังหวัดศรีสะเกษ ระหว่างวันที่ 8-10 เมษายน 2565
