รมว.ยุติธรรม แถลงข่าวความคืบหน้าการยึดทรัพย์กลุ่มขบวนการผู้ค้ายาเสพติด
วันนี้ (10 มี.ค. 63) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อํานวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ศอ.ปส.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รักษาการแทน เลขาธิการ ปปง. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. พ.ต.ท.ไพศิษฎ์ สังคหะพงศ์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นายวีรภัทร ลำปาง นักตรวจสอบภาษีชำนาญการพิเศษ กรมสรรพากร และนายอุทัย สินมา รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดียาเสพติด สำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าการยึดทรัพย์กลุ่มขบวนการผู้ค้ายาเสพติด
นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า ศอ.ปส. แต่งตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินเพื่อติดตามยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติดเป็นการบูรณาการทำงานร่วมกันหลายหน่วยงาน ในอดีตที่ผ่านมาทราบว่ายาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำมีมูลค่ากว่า 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐอเมริกาแต่การดำเนินการยึดทรัพย์ขบวนการยาเสพติดในแต่ละปียึดได้จำนวนน้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณยาเสพติดที่มีอย่างมหาศาล
ศอ.ปส. จึงเน้นไปที่การจับกุมเครือข่ายรายใหญ่ระดับประเทศ อาทิ กลุ่มเครือข่ายมันทุกเม็ด หรือกลุ่มยาเสพติดเล่าต๋า เป็นต้น โดยจะตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินเป็นหลัก ซึ่งแตกต่างจากการจับกุมผู้ค้าหรือผู้เสพแล้วสอบสวนขยายผลเหมือนอดีตที่ผ่านมา ส่วนเครือข่ายระดับจังหวัดมีเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอยู่แล้วเพียงจะมีการประสานข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีข้อมูลอยู่หลายเครือข่าย คาดการณ์สิ้นเดือน มี.ค.นี้จะมีการแถลงเป็นกรณีตัวอย่าง
ด้าน พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รักษาการแทน เลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า คณะทำงานที่จัดตั้งขึ้นมาดังกล่าวเชื่อว่าจะเป็นหลักในการขยายผลติดตามยึดทรัพย์ รวมทั้ง ป้องกันปราบปรามจับกุมผู้เกี่ยวข้องต่างๆ เพื่อตัดวงจรยาเสพติด ซึ่งทาง ปปง. มีความพร้อมด้านการสนับสนุนข้อมูลและอุปกรณ์เทคโนโลยี วิเคราะห์เส้นทางการเงินเพื่อนำไปรวบรวมเป็นพยานหลักฐานเอาผิดเกี่ยวกับกฎหมายฟอกเงินด้วย ส่วนเกรงว่าอาจมีการเชื่อมโยงเครือข่ายประเทศเพื่อนบ้านแล้วโยกย้ายทรัพย์สินไปต่างประเทศนั้นจะมีการตรวจสอบตามขั้นตอนเพราะพบว่าบางรายมีการขนเงินไปต่างประเทศไม่ทราบสาเหตุ
ส่วนทาง พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. เผยว่า สำหรับ บช.ปส. ดำเนินการสืบสวนเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายและมีข้อมูลเครือข่ายต่างๆ อยู่เป็นจำนวนมากแต่ปัญหาที่ผ่านมายึดทรัพย์กลุ่มนายทุนได้เพียงส่วนหนึ่ง แต่เมื่อบูรณาการ่วมกันหลายหน่วยงานเชื่อว่าจะยึดทรัพย์ได้ปริมาณมากพร้อมขยายผลไปยังกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดด้วย
