หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย และนาย เดชา ทนายของ “แพรวา” นำแคชเชียร์เช็ค 41.7 ล้าน พร้อมค่าธรรมเนียมศาล วางต่อศาลแพ่งเพื่อชดใช้ ขาดอีก 8 แสน รอวางเพิ่มเติมอีกภายใน 28 ส.ค.นี้
นายกรรชัย ผู้รับมอบอำนาจ เปิดเผยว่า เพื่อให้เรื่องนี้ได้จบสิ้น เนื่องจากคดีมีความยืดเยื้อมานานมาก สมควรแก่การเวลาที่ญาติฝั่งผู้เสียหาย ทั้งผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บได้รับการเยียวยา โดยครอบครัวแพรวาตัดสินใจยืมเงินจากญาติพี่-น้อง จนได้ตามจำนวนกว่า 41 ล้านบาทที่นำมากับศาลในวันนี้ แต่ยังขาดเงินอีกกว่า 8 00,000 บาทเนื่องจากเข้าใจตัวเลขคาดเคลื่อน ซึ่งภายใน 2-3 วันนี้จะนำเงินมาวางเพิ่มเติมให้ครบ ยืนวันทุกอย่างจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในวันที่ 28 ส.ค.นี้
ส่วนสาเหตุที่ก่อนหน้านี้ครอบครัวแพรวาไม่ใช้วิธีการกู้ยืมเงินเพื่อเยียวค่าเสียหาย เนื่องจากเป็นเรื่องของกระบวนการทางกฎหมายที่อยู่ในช่วงต่อสู้ทางคดีทำให้ตัวเลขของเงินเยียวยาของแต่ละศาลไม่เท่ากัน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองได้รับโฉนดมาจากครอบครัวของแพรวาเพื่อเป็นตัวกลางในการจำหน่ายแต่ก็ติดขัดเรื่อยมา
ทั้งนี้ สำหรับเงินที่ฝ่ายจำเลยต้องชำระหนี้ตามคำพิพากษาฎีกา ทั้งสิ้น 42,637,810.40 บาท เป็นต้นเงินตามจำนวน 25,781,137 บาท ดอกเบี้ย คำนวณจนถึงวันที่ 6 ส.ค.62 เป็นเงินจำนวน 16,650,023.40 บาท และค่าทนายความ ที่ศาลกำหนดชั้นฎีกา รวมกับค่าฤชาธรรมเนียมใช้แทนโจทก์ชั้นฎีกาอีกจำนวน 186,650 บาท ค่าขึ้นศาลใช้แทนในนามโจทก์ที่ 17 ด้วยจำนวน 20,000 บาท ซึ่งวันนี้ผู้รับมอบอำนาจได้นำแคชเชียร์เช็ค จำนวน 41,755,050.79 บาท พร้อมเงินค่าธรรมเนียมศาล 20,000 บาท ทำให้ขาดเงินอีกกว่า 800,000 บาท
นายโอภาส อนันตสมบูรณ์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง กล่าวว่า จำนวนเงินที่ทางครอบครัวของแพรวาจะต้องนำมาชำระเพิ่มเติมนั้น ก็จะต้องนับดอกเบี้ยด้วยเช่นกัน โดยดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ซึ่งจะนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะจ่ายครบ ส่วนขั้นตอนการจ่ายเงินคืนผู้เสียหายแต่ละรายศาลมีบัญชีไว้อยู่แล้วว่าจะต้องจ่ายให้ผู้เสียหายรายละเท่าใด โดยหากเงิน 800,000 บาทที่เหลือมาครบแล้วก็จะนำจ่ายผู้เสียหายได้ทันที
ทั้งนี้ อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง ยังได้กล่าวขอบคุณฝ่ายจำเลยที่ทำให้เรื่องนี้จบลงเสียทีและยืนยันว่าศาลให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายและขอให้สังคมเข้าใจ