PUBLIC HEALTH

‘อนุทิน’ ย้ำ ไทยจัดหายาฟาวิฯ เต็มที่ มีทั้งผลิตเอง และนำเข้าจากต่างประเทศ

จากกรณีที่ชมรมแพทย์ชนบท ออกมาให้ข่าวว่าขณะนี้ กำลังเกิดปัญหา ยาฟาวิพิราเวียร์ ขาดแคลนนั้น ล่าสุด วันนี้ (28 มี.ค. 65) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นข้างต้นว่า

สำหรับยาฟาวิพิราเวียร์ เป็นยาสำคัญในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ทางองค์การเภสัชกรรม (อภ.) มีสารตั้งต้นในการผลิตได้เองในประเทศ พร้อมกับมีการนำเข้ามาจากต่างประเทศด้วย ทั้งนี้ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ.รายงานว่า ได้ติดตามดูแลการจัดส่งยาฟาวิไปยังสถานพยาบาลทั่วประเทศอย่างใกล้ชิด

นอกจากนั้นเรายังได้จัดหายาตัวอื่นๆ ทั้ง ยาเรมเดซิเวียร์ ยาโมลนูพิราเวียร์ และยาแพกซ์โลวิด เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ตามระดับความรุนแรงของอาการ การใช้ยาต่างๆ ข้างต้นนั้นจะมีแนวทางใช้ตามอาการของผู้ติดเชื้อ

“ยาฟาวิพิราเวียร์ เราได้กระจายอย่างทั่วถึง เราไม่มีทางเก็บยาไว้ในสต๊อกโดยที่ยังมีความต้องการใช้ ทางส่วนกลางจะส่งยาไปที่จังหวัด ทั้งนี้ การบริหารจัดการจะอยู่ในระดับจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เป็นเรื่องของการประสานงานระดับพื้นที่”

เมื่อถาม ถึงการประเมินสถานการณ์โรคระบาดในช่วงสงกรานต์ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังเน้นย้ำมาตรการส่วนบุคคล โดยประชาชนที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ให้ Self-Clean up ตัวเองให้ห่างจากความเสี่ยง เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้เป็นต้นไป เพื่อที่การเดินทางกลับบ้าน หรือไปต่างจังหวัด จะได้เกิดความปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงก่อนเดินทางไปพบผู้สูงอายุ ที่สำคัญคือ วัคซีนเข็มกระตุ้น (บูสเตอร์ โดส) หากใครรับเข็มที่ 3 นานมากกว่า 3 เดือน ให้ไปรับเข็มที่ 4 ได้เลย

เมื่อถามถึงความคิดเห็นในกรณีการเสนอให้มีการเล่นสาดน้ำในถนนข้าวสาร นายอนุทิน กล่าวว่า คิดว่าเรายังมีความจำเป็นในการลดความเสี่ยงหลายด้าน โควิด-19 ไปกับคน ติดได้จากการสัมผัส ใช้ภาระร่วมกัน ดังนั้น การสาดน้ำที่ต้องมีการสนุกสนาน ก็เป็นความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม มาตรการสงกรานต์ปีนี้ ไม่ได้ปิด ยังสามารถพบปะกันได้

ขอให้อดทนอีกสักปี เรากำลังเดินเข้าสู่โรคประจำถิ่น ที่ไม่ใช่การประกาศไปอย่างเดียว แต่ต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนด้วย เราตั้งใจจะเข้าสู่โรคประจำถิ่น ก็พยายามอย่าไปเพิ่มความเสี่ยงในปัจจัยอื่นๆ แล้วเมื่อเป็นโรคประจำถิ่นแล้ว ทุกอย่างก็จะคลี่คลายไปได้มาก

เมื่อถามถึงความพยายามจะให้ โควิด -19 เป็นโรคประจำถิ่น นายอนุทิน ตอบว่า ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ใช่เพียงการติดเชื้ออย่างเดียว แต่ยังต้องมีความพร้อมด้านสาธารณสุข จำนวนผู้เสียชีวิต จำนวนการครองเตียง และผู้ป่วยติดเชื้อที่ใช้ท่อช่วยหายใจ ทั้งนี้ ถ้าติดเชื้อหลักแสนราย แน่นอนว่าควบคุมได้ยาก แต่ต้องควบคุมไม่ให้เกิดอาการหนัก รักษาหายในเวลาอันสั้น มีระบบสาธารณสุขรองรับ

Related Posts

Send this to a friend