FEATURE

รู้จัก รร.บ้านแสนสุข จ.สระแก้ว ตัวอย่างการบริหารจัดการผลผลิตอย่างยั่งยืนเพื่อนักเรียน และชุมชน

เปิดเทอมใหม่หลังปิดเทอมกันยาวๆ จากโควิด-19 น้องๆ โรงเรียนบ้านแสนสุข ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ยังยิ้มสดใส ร่างกายแข็งแรง กลับมาเรียนและทำกิจกรรมตามวิถีปกติใหม่ (New Normal) เพราะแม้ในช่วงปิดเทอมก็ไม่ลำบากเรื่องโภชนาการ และอาหารเหมือนกับในพื้นที่อื่นๆ จากการบริหารจัดการอย่างยั่งยืนของโรงเรียน

“โรงเรียนไม่เคยปิดครับ”

บรรจรงค์ วรเศรษฐสุขศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแสนสุข เล่าถึงการทำงานในช่วงปิดเทอมระยะยาวกว่าปกติจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา

ในช่วงโควิด-19 เราทราบว่าทุกคนลำบาก ทั้งเด็ก ผู้ปกครอง และชุมชน รวมถึงเด็กชายชอบ เราจึงไม่เคยปิดโรงเรียน แต่นำผลผลิตของโรงเรียนออกมาช่วยเหลือชุมชน และผู้ที่เดือดร้อนทั้งในรูปแบบของการทำอาหารกลางวันให้กับนักเรียน และชุมชน ไปจนถึงการนำผลิตผลของโรงเรียนไปแบ่งปันในตู้ปันสุขของชุมชน

ผ.อ.โรงเรียน บ้านแสนสุขเล่าว่า โรงเรียนมีโครงการต่างๆ เพื่อความมั่นคงทางอาหาร ทำให้เราสามารถพึ่งพาตนเองได้ และช่วยเหลือเด็กๆ ของเรา และชุมชนที่เราอยู่ได้ ทั้งแปลงผักปลอดสารพิษ แปลงปลูกแก้วมังกร กาแฟอาราบีกา และที่สำคัญคือมีโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันที่ได้รับการสนับสนุนโดยบริษัทเอกชนอย่างซีพีเอฟ และ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบทที่สามารถช่วยโรงเรียนและชุมชนได้มาก

เราได้นำไข่ไก่มาปรุงอาหารแจกจ่ายให้แก่เด็กนักเรียนและชุมชนวันเว้นวัน ทำให้เด็กๆ ไม่ประสบปัญหาทุพโภชนาการจากผลกระทบของการปิดเทอมยาวกว่าปกติ เด็กบางคนมารับข้าวห่อกลับไปทานที่บ้าน คนในชุมชนที่ยากไร้ ตกงานจากการถูกเลิกจ้าง รวมไปจนถึงเด็กๆ ชายขอบชาวกัมพูชา ก็สามารถมารับอาหารไปบรรเทาความเดือดร้อนได้ นอกจากนี้ยังได้นำเงินสำรองจากการจำหน่ายไข่ไก่มาซื้อวัตถุดิบ เช่น ข้าวสาร เพื่อใส่ในตู้ปันสุขของชุมชนช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน และซื้อเนื้อหมูมาปรุงอาหารเพิ่มนอกเหนือจากผลผลิตอื่นๆ จากโครงการของโรงเรียน

โรงเรียนบ้านแสนสุข เข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ในปีที่ผ่านมา ได้รับการสนับสนุนและถ่ายทอดความรู้การเลี้ยงไก่ไข่ จาก บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) และ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ส่งเสริมนักเรียนเลี้ยงไก่ไข่เพื่อนำผลผลิตไข่ไก่ส่งเข้าโครงการอาหารกลางวัน และผลผลิตไข่ไก่อีกส่วนหนึ่งจำหน่ายให้กับชุมชน โดยซีพีเอฟสร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่และปัจจัยการผลิต ทั้งพันธุ์สัตว์ อาหารสัตว์ ให้แก่โรงเรียน ผ่านระบบสมาชิกโครงการ รวมทั้งส่งเจ้าหน้าที่สัตวบาลให้ความรู้ คำปรึกษาในการเลี้ยงและการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ถูกต้องตามหลักวิชาการและการสุขาภิบาล โดยปัจจุบันมีโรงเรียนทั่วประเทศที่ร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนแล้วจำนวน 855 โรงเรียน

ผลผลิตไข่ไก่จากโครงการฯ ซึ่งเก็บผลผลิตได้วันละ 4 แผง (120 ฟอง) จะถูกนำมาจัดสรรเพื่อจำหน่ายให้แก่ชุมชน 3 แผง ในราคาย่อมเยาแผงละ 80 บาท ส่วนอีก 1 แผง เตรียมไว้สำหรับใส่ตู้ปันสุขของชุมชน โดยทุกๆ 5 วัน โรงเรียนจะนำไข่ไก่ใส่ถุงละ 5 ฟอง พร้อมข้าวสาร 1 กิโลกรัม จำนวน 30 ชุด ไปใส่ตู้ปันสุข ซึ่งในช่วงโควิดสามารถนำผลผลิตไข่ไก่และข้าวสารไปใส่ตู้ปันสุขทั้งหมด 7 ครั้ง เป็นการบริหารจัดการผลผลิตไข่ไก่ในโครงการฯ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในช่วงวิกฤติ และยังเป็นการจัดการการสูญเสียอาหาร ที่จะนำไปสู่การบริโภคอย่างยั่งยืนอีกด้วย” ผอ.โรงเรียนบ้านแสนสุข กล่าว

เด็กๆ และบุคลากรในโรงเรียนมีหน้าที่ในการร่วมดูแล บริหารจัดการโครงการฯ ภายใต้การสนับสนุนจากซีพีเอฟ

โรงเรียน บ้านแสนสุข เป็นโรงเรียนขนาดเล็กติดแนวชายแดนกัมพูชา (ตำบลคลองน้ำใส อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว) เปิดการเรียนการสอนระดับชั้นอนุบาลถึงประถมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบันมีข้าราชการครู 10 คน ลูกจ้าง 5 คน มีนักเรียนทั้งสิ้น 145 คน

ผ.อ. บรรจรงค์ เล่าว่าตอนที่มารับตำแหน่งที่นี่ครั้งแรกเมื่อ 3 ปีที่แล้ว สภาพโรงเรียนแตกต่างจากปัจจุบันมาก ทั้งโรงเรียนมีครูเพียง 4 คน มีอาคารที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้ และมีพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ แต่ด้วยความมุ่งมั่นของทุกคนที่โรงเรียน ทั้งครู นักเรียน และชุมชนโดยรอบ ทำให้เรามาถึงทุกวันนี้ได้ เป็นความเข้มแข็งของโรงเรียน และชุมชนที่จะเดินหน้าสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ภาพโรงเรียนในปี 2560 ที่ ผ.อ. บรรจรงค์ พบในวันแรกที่มาเข้ารับตำแหน่ง
ภาพปัจจุบันที่กำลังระดมทุนสร้างห้องสมุดพิพิธภัณฑ์ศาสตร์พระราชา
ภาพโรงเรียนในปัจจุบัน

นอกจากด้านอาหารแล้ว เรากำลังสร้างศูนย์ฝึกทักษะชีวิต และอาชีพ ผลิตได้ ขายเป็น เห็นคุณค่า ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้โรงเรียนโดยเราตั้งเป้าในการเป็นโรงเรียนที่มีคุณภาพครบทุกด้าน เป็นต้นแบบด้านทักษะชีวิตและอาชีพ เป็นต้นแบบการบริหารจัดการโดยชุนชน เพื่อชุมชน สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน และกำลังระดมทุนสร้างห้องสมุดพิพิธภัณฑ์ศาสตร์พระราชาเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับชุมชน

เราอยากให้บ้านแสนสุข เป็นโรงเรียน ที่มากกว่าคำว่า “โรงเรียน” สร้างคุณภาพเด็กให้มากกว่าคำว่า..เด็กเก่ง.. สร้างคุณภาพชุมชน ให้ได้มากกว่าคำว่า..ส่วนหนึ่ง… สร้างบรรยากาศ ให้ได้มากกว่าคำว่า..สวยงาม… และสร้างแหล่งเรียนรู้ ให้ได้มากกว่าคำว่า..ศูนย์เรียนรู้ เพราะบ้านแสนสุข คือความสุขที่เราสร้างได้ และผมจะมุ่งมั่นต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายต่างๆ ที่ตั้งไว้” ผ.อ.โรงเรียนบ้านแสนสุข กล่าวทิ้งท้าย

Related Posts

Send this to a friend