FEATURE

เช็คสภาพอากาศ เลือกทำกิจกรรมใต้ต้นไม้รอบล้อม ไลฟ์สไตล์เติมเต็มความสุขรับมือฝุ่น PM2.5

ทำกิจกรรมนอกบ้านอย่างไร เพื่อให้มีสมาชิกในครอบครัว มีความสุขท่ามกลางฝุ่น PM 2.5 พุ่งสูงขึ้น เป็นสิ่งที่ผู้ปกครองหลายคนตั้งคำถาม เพราะการที่อุดอู้อยู่ในบ้านนั้น เป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนเกิดความเครียดได้ง่าย ไม่ต่างจากช่วงที่โควิด-19 ระบาด โดยเฉพาะในเด็กเล็กๆที่อายุน้อยกว่า 8 ปี ที่มักจะเครียดได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ เพราะเด็กจะต้องตื่นเช้าไปโรงเรียน หรือเรียนออนไลน์ หรือใช้ชีวิตคร่ำเคร่งจากการเรียน ก่อนถึงวัยเรียนจริงเป็นต้น ดังนั้นพ่อแม่หลายคนที่กำลังมองหากิจกรรม เพื่อให้ลูกน้อยผ่อนคลาย และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ท่ามกลางมลพิษ ซึ่งอันที่จริงแล้วสามารถทำได้ แต่ทั้งนี้จะต้องอยู่ในขอบเขต ของคำเตือนจากหน่วยงานรัฐ เช่น การเช็คข้อมูลสภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน การสวมหน้ากากอนามัยกันฝุ่น  PM2.5 ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

The Reporters ได้สอบถามไปยัง “ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศุภลักษณ์ เข็มทอง” นักกิจกรรมบำบัด คณะกายภาพบำบัด ม.มหิดล ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกกิจกรรม เพื่อสร้างความผ่อนคลายให้เด็กๆ และสมาชิกในครอบครัว ที่สามารถทำได้ควบคู่ ไปกับการติดตามข่าวสาร การเฝ้าระวังตัวเองให้ห่างไกลจากฝุ่น PM2.5 โดยเน้นการป้องกันตัวเอง ตามคำแนะนำของภาครัฐ เช่น การเช็คสภาพอากาศ และเลือกกิจกรรมที่ปลอดภัย แม้ต้องออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านในช่วงนี้

“ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศุภลักษณ์ ให้ข้อมูลว่า “ อันที่จริงในปัจจุบันนั้นเด็กๆ มักจะต้องออกไปเรียนพิเศษ ในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว ผู้ปกครองสามารถพาลูกๆออกนอกบ้านได้ แต่ทั้งนี้เราต้องเน้นในเชิงการป้องกันตามคำแนะนำ เช่น การสวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น PM2.5 ที่สำคัญสภาพอากาศเป็นสิ่งที่สามารถเช็คได้ จากแอพพลิเคชั่นต่างๆว่าตอนนี้ค่า ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่เราอยู่เป็นอย่างไร ดังนั้นก่อนจะพาลูกออกนอกบ้าน จำเป็นต้องเช็คสภาพอากาศก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนการทำกิจกรรม เช่น ถ้าเช็คสภาพอากาศแล้วพบว่า สถานที่ที่จะเราไปนั้นมีสีส้ม จริงๆแล้วก็ยังสามารถออกไปนอกบ้านได้ (ยกเว้นสีแดงที่ควรทำกิจกรรมในบ้าน) แต่ให้เน้นว่าสถานที่ที่จะพาเด็กๆไปนั้นมีความปลอดภัย และเคยทำกิจกรรมที่นั่น ที่สำคัญต้องเป็นพื้นที่ที่มีลักษณะโปร่ง มีต้นไม้เยอะ

ทำกิจกรรมใต้ต้นไม้ในวันที่ค่าฝุ่นละอองมีสีส้ม ตัวช่วยกรองฝุ่นพิษ เพิ่มออกซิเจนสู่ปอดทำให้เด็กแข็งแรงจากการวิ่งเล่น

พ่อแม่สามารถพาลูกไปทำกิจกรรม ในบริเวณที่มีต้นไม้เยอะได้ หากเช็คอาการแล้วว่าสภาพอาการปรากฎเป็นสีส้ม เช่น “พาลูกไปนั่งอ่านหนังสือหรือทำการบ้าน” ใต้ต้นไม้ หรือแม้แต่การที่เด็ก “วิ่งเล่น” บริเวณที่มีต้นไม้เยอะก็สามารถทำได้เช่นกัน เนื่องจากต้นไม้จะเป็นตัวช่วยกรองฝุ่นพิษ และเพิ่มออกซิเจนให้กับเด็กๆเวลาที่เล่นใต้ต้นไม้ หรือผู้ปกครองสามารถพาลูกไป “สนามเด็กเล่น” ที่ปลูกต้นไม้ใหญ่รอบล้อม ก็ไม่เพียงลดความเครียดให้เด็ก แต่ยังกระตุ้นให้เด็กได้เคลื่อนไหวร่างกาย ซึ่งจะส่งผลต่อพัฒนาการ การเจริญเติบโตของเด็ก ทำให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆแข็งแรง ผ่านการวิ่งเล่น แต่ถ้าหากกิจกรรม จะต้องมีการรับประทานอาหารร่วมกัน แนะนำว่าควรรับประทานอาหารในอาคารจะดีที่สุด

สร้างความผ่อนคลายให้เด็ก ด้วยกิจกรรมนอกบ้านในที่ร่ม ไม่เครียดไม่ฝุ่นดีต่อใจดีต่อสุขภาพ

อีกกิจกรรมหนึ่งที่จะช่วยลดความเครียด ให้กับเด็กเล็กที่อายุน้อยกว่า 8 ปี คือการพาลูกๆไปดูนิทรรศการศิลปะ หรือการแสดงดนตรี รวมถึง ดนตรีพื้นบ้านที่จัดในร่ม รวมถึงกิจกรรมเต้นรำในชมรมต่างๆที่จัดในอาคารปิดเช่นเดียวกัน หรือหากครอบครัวไหนที่ต้องพาลูกเล็ก ไปเรียนพิเศษนอกบ้าน ก็ให้เด็กๆเล่นอยู่ในอาคารโดยไม่ให้วิ่งเล่นในสนาม นอกจากนี้ผู้ปกครองสามารถให้ลูกว่ายน้ำได้เช่นกัน แต่ควรเลือกการว่ายน้ำแบบอินดอร์ หรือ เลือกสระว่ายน้ำที่อยู่ร่ม หรืออยู่ในอาคารซึ่งมีหลังคา เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กสัมผัสกับแสงแดด เพราะในช่วงที่มีคำเตือนเกี่ยวกับฝุ่น PM2.5 นั้น การที่เด็กสัมผัสกับแสงแดด จะทำให้เด็กเกิดการระคายเคืองที่ระบบทางเดินหายใจ ทำให้เหนื่อยง่ายและหายใจไม่สะดวก ทำให้ฝุ่นละอองขนาดเล็กเข้าไปที่ปอดได้ง่าย ดังนั้นการว่ายน้ำในสระ ที่ตั้งอยู่ในอาคารจะดีที่สุด “เพราะการงดพาเด็กไปนอกบ้าน หรือไม่พาลูกๆไปไหนเลย จะเป็นตัวกระตุ้นให้เด็กเกิดความเครียด คล้ายคลึงกับตอนที่กักตัวช่วงโควิด-19 ระบาด ที่สำคัญเด็กเล็กๆที่อายุน้อยกว่า 8 ปี มักจะเครียดได้ง่ายกว่าวัยผู้ใหญ่ เพราะเด็กจะต้องตื่นนอนแต่เช้าเพื่อไปโรงเรียน หรือแม้แต่การเรียนออนไลน์อยู่บ้านเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะครอบครัวไหน ที่ให้ลูกเล็กเรียนเร็วกว่าวัย เด็กๆก็มักจะถูกครูป้อนความรู้ให้ก่อนวัยเรียน ดังนั้นจึงแนะนำว่าผู้ปกครอง สามารถชวนลูกหลานทำกิจกรรมที่เด็กๆชื่นชอบทั้งในและนอกบ้าน ภายใต้การป้องกันตัวเองเป็นสิ่งที่ดีที่สุด หรือหากครอบครัวไหน เลือกทำกิจกรรมอยู่ในบ้าน ก็สามารถทำได้เช่นกัน เช่น พาลูกเล่นเกมกับคุณพ่อคุณแม่ หรือเล่านิทานให้ลูกฟัง ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้เด็ก เกิดความสบายใจและไม่เครียด”

ทำกิจกรรมในบ้านอย่างสร้างสรรค์ แนะผู้ปกครองอยู่ใกล้ชิดและเป็นตัวอย่างให้ลูก

สำหรับครอบครัวไหนที่เลือกทำกิจกรรมในบ้าน เพราะเป็นกังวลเรื่องฝุ่นพิษจิ๋วนั้น หากผู้ปกครองให้เด็กๆ “เล่นแท็บแล็ต” แนะนำว่าหากลูกอายุน้อยกว่า 5 ปี ใน 1 วันนั้น ไม่ควรให้เด็กเล่นแท็บแล็ตเกิน 2 ชั่วโมง เพราะจะทำให้สายตาของเด็กเสื่อมเร็วขึ้น เช่น เด็กมีปัญหาสายตาสั้นเร็วขึ้น รวมถึงผู้ปกครองก็จะสายตาสั้นไปด้วย ดังนั้นผู้ปกครองจำเป็นต้องจำกัดเวลา ให้เด็กเล่นอุปกรณ์ดังกล่าวไม่เกินครั้งละ 30 นาที และให้เบรคไปทำกิจกรรมอย่างอื่น ส่วนครอบครัวไหนที่ให้ลูกเลือก ”กิจกรรมทำอาหาร” นั้น แม้ว่าปัจจุบันจะมีอุปกรณ์สำหรับทำอาหาร ให้เด็กเล็กเกิดความปลอดภัยมากขึ้น แต่พ่อแม่ไม่ควรปล่อยให้เด็ก ทำอาหารอยู่ในห้องครัวเพียงลำพัง เพราะเสี่ยงเกิดอันตรายจากเตาไฟหรือมีดบาด ที่สำคัญหากเป็นเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 8 ปี ช่วงวัยนี้เด็กมักจะชอบให้มีต้นแบบในการทำอาหาร ดังนั้นหากพ่อแม่ทำอาหารให้เด็กดูเป็นตัวอย่าง และให้เด็กๆทำตาม ก็จะทำให้เกิดการเรียนรู้ได้จริงๆครับ”

Related Posts

Send this to a friend