โสดอย่างมีสุขช่วงบั้นปลายชีวิต ให้วางแผนล่วงหน้า เทรนด์สวย-หล่อสตรองอย่างมีคุณค่า

เพราะชีวิตออกแบบได้ด้วยตัวเอง โดยเฉพาะผู้ที่เลือกเข้าสู่โหมด คนโสดแบบมีความสุข ที่ไม่วายเกิดสารพัดคำถามในหัวให้ต้องจัดการล่วงหน้า อย่างการอยู่ลำพังโดยไร้แพลนวิวาห์ ที่จำเป็นต้องเตรียมตัวเตรียมใจรับบทใช้ชีวิตลำพัง ทั้งการเตรียมสุขภาพให้แข็งแรง หรือแม้แต่การเตรียมเงินออม ไว้สำหรับใช้จ่ายในอนาคต หากต้องอยู่คนเดียว ซึ่งประเด็นเหล่านี้จำเป็นต้องวางแผนไว้เนิ่นๆ เพื่อให้หนุ่มๆสาวๆที่ไม่คิดมีคู่ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างแฮปปี้ โดยไม่เป็นภาระของลูกหลาน ขณะเดียวกันก็ยังสามารถ สร้างกลุ่มของคนโสดให้แข็งแรง และมีพลังได้อีกเช่นกัน เกี่ยวกับประเด็นนี้

The Reporters ได้สอบถามไปยัง “ผศ.ดร.พิมลพรรณ อิศรภักดี” นักวิชาการด้านประชากรและครอบครัว ให้ข้อมูลเกี่ยวคำแนะนำ ในการใช้ชีวิตโสดอย่างมีความสุข ที่เริ่มจากการเตรียมตัวเตรียมใจ เตรียมกำลังทรัพย์ รวมถึงการเตรียมพร้อมด้านสุขภาพ โดยการหันมาดูแลแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะกลุ่มโรคที่มาพร้อมกับอายุที่เพิ่มขึ้น เช่น โรคความดันโลหิต ที่เป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังหลายโรค พร้อมวิเคราะห์ถึงเทรนด์คนโสดในอนาคตไว้น่าสนใจ

ผศ.ดร.พิมลพรรณ ให้ข้อมูลว่า “สาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนยุคใหม่ เลือกที่จะไม่แต่งงาน หรือใช้ชีวิตโสดนั้น เกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น แม้แต่คนที่แต่งงานแล้วแต่ไม่มีลูกด้วยกัน สุดท้ายก็จะกลายเป็นต่างคนต่างอยู่ ซึ่งก็จัดอยู่ในหมวดคนโสดได้เช่นกัน และจากการสำรวจก็ยังพบว่า คนที่แต่งงานแล้ว เมื่อสามีหรือภรรยาเสียชีวิต คนกลุ่มนี้หากไม่แต่งงานใหม่ ก็จะกลายเป็นกลุ่มของคนโสดเช่นกัน รวมถึงกลุ่มคนยุคใหม่ที่มองว่าสังคมในปัจจุบันแย่ ดังนั้นถ้ามีลูกก็กังวลว่าลูกจะเติบโตมาในสภาพที่ไม่ดี ทำให้จึงไม่คิดที่จะแต่งงานและมีลูก นั่นจึงทำให้คนกลุ่มนี้เป็นโสด และกลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มคนที่คบหาดูกัน แต่ไม่คิดแต่งงานกัน ก็จัดอยู่ในกลุ่มคนโสดไปโดยปริยาย และจากปัจจัยที่กล่าวมานั้น ล้วนเป็นเหตุผลว่าในอนาคตแนวโน้ม ของคนโสดจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ และผู้หญิงที่โสดก็จะเยอะกว่าผู้ชาย ยกตัวอย่างหากภรรยาเสียชีวิต ผู้ชายก็มักจะแต่งงานใหม่มากกว่าผู้หญิงที่สามีเสียชีวิต นั่นจึงทำให้ผู้หญิงกลุ่มนี้จึงครองตัวเป็นโสด ประกอบกับสังคมไทยนั้น ผู้หญิงมักจะไม่กล้าเข้าหาผู้ชาย แต่ผู้หญิงมักจะรอให้ผู้ชายมาเลือก ซึ่งค่านิยมนี้ยังมีอยู่ในสังคมไทย นั่นจึงไม่แปลกที่เราจะพบเห็น ผู้หญิงอยู่เป็นโสดมากขึ้น”

คนโสดเตรียมพร้อมกำลังทรัพย์ หมั่นเก็บออมทีละนิด เทคนิคสะสมเงินไว้ใช้ในวัยเกษียณ

“สำหรับผู้ที่คิดว่าจะครองตัวเป็นโสด หรือเลือกที่จะไม่มีคู่ หากต้องการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข อันดับแรกแนะนำว่าให้เตรียมความพร้อมทั้งกายและใจ รวมถึงกำลังทรัพย์ หมายความว่าจำเป็นต้องวางแผนในการเก็บเงิน สำหรับดูแลตัวเองในอนาคต แต่เนื่องจากความพร้อม ของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน แต่เมื่อใดก็ตามที่เราเริ่มรู้สึกตัวเองว่า ตอนนั้นเราเริ่มพอมีเงินเก็บบ้างเล็กๆน้อยๆแล้ว ยกตัวอย่างอาจารย์พิมลพรรณนั้น สมัยก่อนเราเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัย ก็จะเริ่มเป็นสมาชิก ของสหกรณ์ในมหาวิทยาลัย ก็จะใช้วิธีเก็บเงินในรูปแบบ ของการซื้อหุ้นสหกรณ์ ที่เริ่มจาก 1,000 บาท แต่เมื่อเวลาผ่านไปเราได้เลื่อนตำแหน่ง และได้รับค่าตำแหน่งเพิ่มขึ้น ก็จะเพิ่มการซื้อหุ้นสหกรณ์ เป็น 2,000 และ 3,000 บาท พูดง่ายๆว่าเราจะเพิ่มการออมเงิน เมื่อเรามีความพร้อม ในตำแหน่งหน้าที่การงาน”

“แต่สำหรับกลุ่มคนทั่วไปนั้น สามารถใช้วิธีการซื้อสลากออกสิน ซึ่งเป็นรูปแบบของการออมเงิน ขณะเดียวกันก็ได้ลุ้นผลการออกสลากเช่นกัน ซึ่งเป็นการเก็บเงินโดยที่เรา ไม่ได้คาดหวังรางวัลใหญ่และไม่ได้หวังร่ำรวย แต่นั่นเป็นการออมเงินไปเรื่อยๆ อย่างมีความสุขไปพร้อมๆ กับการออกผลสลากนั่นเอง หรือจะเลือกเก็บออมเงิน ด้วยวิธีการซื้อประกันชีวิตออมทรัพย์ ในกรณีที่เมื่ออายุมากเราก็จะได้เงินปันผล มาไว้สำหรับใช้จ่ายและดูแลตัวเอง หรือเป็นการเก็บออมเงินด้วยการเก็บเล็กผสมน้อย”

“สำหรับคนที่เลือกอยู่เป็นโสดนั้น ควรจะต้องมีเงินออมเท่าไร จึงจะใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลาย ได้อย่างไม่ลำบากนั้น ซึ่งจริงๆแล้วจากผลการสำรวจประชากร ควรมีไม่ต่ำกว่าคนละประมาณ 7 ล้านบาท แต่เงินจำนวนดังกล่าวนั้น บางคนไม่สามารถเก็บได้หรือหาได้ หรือบางคนอาจจะตั้งเป้าว่า เมื่ออายุมากขึ้น จะต้องเดือนใช้เงินเดือนละประมาณ 3 หมื่นบาทในการดูแลตัวเองทุกอย่าง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเราอาจจะต้องใช้เงินมากกว่านั้น ที่สำคัญเงินจำนวนดังกล่าว อาจจะสูงเกินไปในบางคน หรือบางคนไม่สามารถหาได้ ดังนั้นสิ่งสำคัญเราต้องบริหารจัดการในลักษณะที่ว่า เราจะใช้จ่ายอย่างไรในแต่ละเดือน หากว่าเรามีเงินเก็บไม่ถึง 7 ล้านบาทมากกว่า พูดง่ายๆว่ามีเงินเท่าไรก็ใช้เท่านั้น เนื่องจากเราไม่สามารถกำหนดได้ตายตัว เพราะความพร้อมของแต่ละคน ในการเก็บออมเงินต่างกัน แต่สิ่งสำคัญการเก็บออมเงิน ตั้งแต่อายุยังน้อย ก็ยังเป็นเรื่องที่สำคัญค่ะ”

เตรียมสุขภาพให้พร้อม หมั่นพบแพทย์-ตรวจสุขภาพประจำดี ช่วยคัดกรองโรค เทรนด์โสดแบบสุขภาพดี

“การเตรียมสุขภาพก็เป็นสำคัญ ไม่แพ้การเก็บออมเงิน เพราะหากเมื่อเราอายุมากขึ้น แน่นอนว่าอาจจะมีอุบัติเหตุที่เราไม่คาดคิด เช่น ลื่นหกล้ม หรือโรคภัยไข้เจ็บที่เราไม่คิดว่าจะเป็นปัญหา เช่น โรคความดันโลหิต ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งประเด็นเหล่านี้เป็นสิ่งที่คนโสด ต้องให้ความใส่ใจ ด้วยการหันมาดูแลสุขภาพอย่างง่ายๆ เช่น การปรับเรื่องอาหารการกิน เพราะโรคความดันโลหิต นำมาซึ่งโรคเรื้อรังอีกหลายโรค หรือแม้แต่หากมีเพื่อนทักให้เราไปหาหมอ นั่นแปลว่าเราต้องเริ่มดูแลสุขภาพด้วยการไปพบแพทย์จริงๆ รวมถึงการหมั่นไปตรวจสุขภาพประจำปี ทั้งตรวจสุขภาพทุกๆ 6 เดือน หรือ 1 ปีครั้ง เพราะการตรวจสุขภาพ จะทำให้เรารู้สึกว่าอยากดูสุขภาพให้ดียิ่งๆขึ้นไป ตรงกันข้ามหากตรวจพบโรค ก็จะสามารถป้องกันและรักษาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ”

หมั่นออกกำลังกาย-ดูแลจิตใจ เทรนด์โสดแบบสายสตรองตัวจริง

“ที่ลืมไม่ได้คือการหมั่นออกกำลังกาย แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่คนโสดหลายคนไม่ชอบก็ตาม แต่สามารถเพิ่มการเคลื่อนไหวได้ เช่น การขี่จักรยาน ไปซื้อของหน้าปากซอย แทนการขับรถยนต์ไปซื้อ เพราะเสี่ยงต่อรถติดและทำให้เรานั่งหงุดหงิดอยู่ในรถ หรือเดินไปหน้าปากซอย เพื่อขึ้นรถไฟฟ้า หรือ บีทีเอสไปทำงาน เพื่อแก้ปัญหารถติด หรือลดความแออัดบนท้องถนน ส่วนการดูแลจิตใจนั้นก็สำคัญ โดยเฉพาะคนที่เป็นโสด ด้วยความไม่พร้อมในหลายๆอย่าง ดังนั้นนอกจากการทำใจแล้ว การหากิจกรรมทำเพื่อไม่ให้ตัวเองว่าง เช่น การท่องโลกอินเตอร์เน็ต หรือเล่นโซเชียล โดยที่ไม่ต้องทะเลาะกับคนอื่น หรือแม้แต่การช้อปปิ้งซื้อของ ในกรณีที่เราสามารถเก็บออมเงิน ไว้ใช้จ่ายได้ส่วนหนึ่ง สิ่งต่างๆเหล่านี้ ก็ทำให้เรามีความสุขได้ หรือถึงการทำบุญเล็กๆน้อยๆ ซึ่งไม่ใช่การทำบุญแบบลุ่มหลง ก็ช่วยทำให้เรารู้สึกสบายใจ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขเช่นกัน”

ท่องเที่ยวกับแก็งค์เพื่อนโสด ความสุขจากการรวมตัวเพื่อนสไตล์เดียวกัน

“การท่องเที่ยวกับแก็งค์เพื่อนโสด ก็เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจ ซึ่งตรงนี้เราอาจต้องสำรวจว่า เรากับเพื่อนมีไลฟ์สไตล์ที่เข้ากันได้หรือไม่ โดยเริ่มจากการโทรศัพท์ ไปชวนเพื่อนกินข้าวก่อน เพราะเป็นกิจกรรมที่ไม่ต้องใช้เวลาเตรียมตัวมากนัก เพราะถ้าคุยกันถูกคอและชอบเหมือนกันๆ ก็สามารถชวนกันไปเที่ยวต่อได้ หรือแม้แต่การคบเพื่อนต่างวัย เช่น เพื่อนรุ่นน้องที่ไม่ได้เจอกันนาน หรือเพื่อนรุ่นน้อง ที่พึ่งรู้จักกันช่วงหลังนั้น ก็ต้องดูไลฟ์สไตล์และนิสัยใจคอ ว่าชอบเหมือนกับเราหรือไม่ เพราะถ้าเรามุ่งไปหาเขา นั่นอาจแสดงให้เห็นว่าเราพุ่งไปที่เขา หรือต้องการไปเกาะเพื่อน ดังนั้นแนะนำว่าการทำกิจกรรมอะไรก็ตาม ที่เราสบายใจ และเป็นตัวของตัวเอง โดยที่ไม่ต้องพึ่งใครก็เป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขได้เช่นกัน”

ห้ามคิดว่าจะไม่มีใครดูแล ทัศนะคติที่คนโสดควรลดละเลิก เพื่อใช้ชีวิตได้อย่างแฮปปี้

“สิ่งที่คนโสดไม่ควรเก็บมาคิด หรือห้ามคิดนั้น คือการคิดว่าจะไม่มีใครดูแลตอนแก่ชรา เพราะเมื่อไรก็ตามที่เรามีการวางแผน การใช้ชีวิตดังกล่าวไว้ข้างต้น ก็ไม่จำเป็นต้องกังวัล นอกจากนี้การดูแลผู้ที่คาดว่าจะสามารถดูแลเราต่อได้ในอนาคต เช่น ญาติมิตร ก็เป็นสิ่งที่สามารถตอบโจทย์เรื่องนี้ได้ รวมถึงการใช้บริการบ้านพักคนชราแบบสมัครไป หรือแม้แต่การบ้านหรือคอนโดมิเนียม สำหรับผู้วัยโดยเฉพาะ ตรงนี้ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ในการมีเพื่อนมีสังคมในวัยเดียวกันได้แบบไม่รู้สึกโดดเดี่ยว ตรงกันข้ามยังทำให้คนโสดรู้สึกว่าตัวเองมีพลัง ในการทำสิ่งต่างๆได้ ท่ามกลางกลุ่มคนโสดเหมือนกัน”