ART & CULTURE

CSTD ประเทศไทย ร่วมกับ กระทรวงวัฒนธรรม จัดงาน “CSTD ครั้งที่ 8” พาร์ท 2 เฟ้นหาเยาวชนนักเต้น

สถาบัน The Commonwealth Society of Teachers of Dancing หรือ CSTD ประเทศไทย ร่วมกับ กระทรวงวัฒนธรรม, สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย, สถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย และ สถาบัน CSTD ประเทศออสเตรเลีย จัดการแข่งขันศิลปะการเต้นระดับประเทศ “CSTD Thailand Dance Grand Prix ครั้งที่ 8” Part 2 (ซีเอสทีดี ไทยแลนด์ แดนซ์ กรังด์ ปรีซ์ ครั้งที่ 8 พาร์ท 2) ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี

นางสาววัลลภา ปัจฉิมสวัสดิ์ ผู้แทนสถาบัน “CSTD ประเทศไทย” กล่าวว่า “สถาบัน CSTD ประเทศไทย มีความตั้งใจในการพัฒนาศิลปะด้านการเต้น พร้อมยกระดับมาตรฐานการเต้นในประเทศไทย เพิ่มพูนศักยภาพบุคลากรทางด้านศิลปะการเต้น โดยจัดการแข่งขัน CSTD Thailand Dance Grand Prix ที่ประเทศไทยเป็นประจำทุกปีต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 8 โดยในปีนี้ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากกระทรวงวัฒนธรรม และซีเอสทีดี ประเทศออสเตรเลีย พร้อมจัดการแข่งขันแบ่งเป็น 2 พาร์ท เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการความปลอดภัยต่อสถานการณ์โควิด-19 สำหรับพาร์ท 1 Solos & Championships จัดขึ้นเมื่อปลายปี 2564 ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันประเภทเดี่ยว ในรูปแบบออนไลน์ แต่ยังคงความเข้มข้นในการแข่งขันเช่นเดิม โดยผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม อยู่บนมาตรฐานระดับสากล ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จ มีผู้เข้าแข่งขันมากถึง 38 สถาบันจากทั่วภูมิภาค และมีเยาวชนเข้าแข่งขันถึง 520 ระบำ มาพร้อมรูปแบบการเต้นที่หลากหลายกว่า 11 สไตล์”

สำหรับการแข่งขัน “CSTD Thailand Dance Grand Prix ครั้งที่ 8” Part 2 นี้ ประกอบไปด้วยรูปแบบการแข่งขัน แบบ 2-3 คน (Duos/Trios), แบบกลุ่มขนาดเล็ก 4-6 คน (Ensembles), กลุ่มใหญ่เกิน 30 คน (Troupes) โดยมีผู้เข้าแข่งขันจากกว่า 38 สถาบันการเต้นทั่วประเทศ รวม 150 ระบำ 35 รอบการแข่งขัน ระยะเวลา 2 วัน ในรูปแบบการเต้นที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น บัลเลต์, ระบำประจำชาติ, คอนเท็มโพรารี่ แดนซ์, แจ๊สแดนซ์, บัลเล่ต์ ลาลีเคิล, แท็ปแดนซ์, ฮิปฮออป, ร้องและเต้น, เต้นเล่าเรื่องราว เป็นต้น ซึ่งผู้ชนะจากเวทีนี้จะได้เป็นตัวแทนเยาวชนไทย เข้าร่วมแข่งขัน ศิลปะการเต้นนานาชาติภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก (CSTD Asia Pacific Dance Competition) พร้อมเผยแพร่วัฒนธรรมไทยผ่านศิลปะด้านการเต้นในระดับสากล รวมถึงนำสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการแข่งขัน ไปต่อยอดทางการศึกษาและการทำงานในอนาคต ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นสร้างแรงจูงใจให้เยาวชนไทยรู้สึกภาคภูมิใจในวัฒนธรรมไทยมากขึ้นอีกด้วย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/cstdthailand

Related Posts

Send this to a friend