BUSINESS

WeWork Labs เสริมทัพโครงการ SPACE-F ร่วมปั้นสตาร์ทอัพ ‘Food Tech’

WeWork Labs ประกาศความร่วมมือกับโครงการ SPACE-F (สเปซ-เอฟ) ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สนช. บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มีวัตถุประสงค์ในการสร้าง ecosystem ที่ยั่งยืน เพื่อปั้นสตาร์ทอัพฟู้ดเทคในประเทศไทย โดยเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโปรแกรม Incubator สำหรับสตาร์ทอัพที่อยู่ในระยะบ่มเพาะ และ Accelerator สำหรับบริษัทสตาร์ทอัพที่อยู่ในระยะเร่งการเติบโต ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ตั้งแต่วันนี้ – 31 ก.ค.62 นี้

 

ผู้สมัครจะต้องเป็นสตาร์ทอัพที่มีนวัตกรรมในด้านใดด้านหนึ่งดังนี้ คือ

  • ด้านอาหารเพื่อสุขภาพ (health and wellness)
  • โปรตีนทางเลือก (alternative proteins)
  • กระบวนการผลิตอาหารอัจฉริยะ (smart manufacturing)
  • บรรจุภัณฑ์แห่งอนาคต (packaging solution)
  • ส่วนผสมและอาหารใหม่ (novel food and ingredients)
  • วัสดุชีวภาพและสารเคมี (biomaterial and chemical)
  • เทคโนโลยีการบริหารจัดการร้านอาหาร (restaurant tech)
  • การตรวจสอบควมคุมคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร (food safety and quality) และบริการอัจฉริยะด้านอาหาร (smart food services)

SPACE-F เป็นโครงการในรูปแบบที่ไม่มีการถือหุ้นในบริษัทสตาร์ทอัพ ซึ่งผู้ก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพมีกรรมสิทธิ์ในไอเดีย และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของตนเอง และเมื่อโปรแกรมสิ้นสุดลงจะมีโอกาสพบปะกับนักลงทุนที่มีศักยภาพ ซึ่งรวมถึงบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), กองทุนร่วมลงทุน (Venture Capital) และองค์กรต่างๆ ที่มีหน่วยงานลงทุนในสตาร์ทอัพ (Corporate Venture Capital) สำหรับโปรแกรม Incubator มีระยะเวลาสูงสุด 15 เดือน และโปรแกรม Accelerator มีระยะเวลา 3-8 เดือน และด้วยความร่วมมือของ WeWork Labs ในครั้งนี้ บริษัทสตาร์ทอัพจะได้เรียนรู้และได้คำแนะนำจากทั้งเมนเทอร์ชาวไทยและชาวต่างชาติซึ่งมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในทุกแง่มุมเกี่ยวกับธุรกิจ

มิสเตอร์เอเดรียน ตัน หัวหน้าฝ่าย WeWork Labs ของ WeWork ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “WeWork Labs ร่วมสร้างมูลค่าด้วยการให้คำแนะนำ ให้ความรู้และเสริมสร้างความสามารถที่จำเป็นให้กับสตาร์ทอัพที่เข้าร่วมโครงการ SPACE-F และได้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญระดับโลกของ WeWork Labs ตลอดระยะเวลาของการเข้าร่วมโครงการ ถึงเวลาแล้วที่จะสร้างความก้าวหน้าในเทคโนโลยีทางด้านอาหารด้วยโครงการที่มีความร่วมมือของพันธมิตรที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ และเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เลือกประเทศไทยในการเปิดตัวโครงการความร่วมมือด้าน Food Labs program และมีส่วนได้ช่วยทำให้ไอเดียดีๆ จะเกิดขึ้นได้จริงในประเทศไทย”

WeWork Labs คือ แพลตฟอร์มด้านนวัตกรรมของ WeWork ที่ช่วยเหลือสตาร์ทอัพที่อยู่ในระยะเริ่มต้นและผู้ประกอบการวิสาหกิจ ซึ่งล่าสุดได้มีการเปิดตัวโครงการฟู้ด แลบส์ (Food Labs program) ซึ่งโครงการแรกที่มุ่งเน้นในเรื่องของอุตสาหกรรมอาหารโดยเฉพาะและมีเป้าหมายในการสนับสนุนการเติบโตของสตาร์ทอัพ ด้วยการดึงผู้ประกอบการ ผู้เชี่ยวชาญ และนักลงทุน มาร่วมสร้างคอมมิวนิตี้แห่งนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ความท้าทายในวงการอุตสาหกรรมอาหาร สำหรับในประเทศไทยนั้น WeWork Labs ได้ร่วมมือกับ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สนช., บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และมหาวิทยาลัยมหิดล ในการร่วมสร้างโครงการ SPACE-F ที่นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญของภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา เพื่อสร้าง ecosystem ด้วยการช่วยให้สตาร์ทอัพสามารถเข้าถึงแหล่งทรัพยากรไม่ว่าจะเป็นเรื่องไอเดียและปัจจัยต่างๆ ในการเติบโตธุรกิจ

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สนช. เปิดเผยว่า “เรามีเป้าหมายที่จะสร้างแพลตฟอร์มอันยอดเยี่ยมในการสนับสนุนและส่งเสริมสตาร์ทอัพ Deep Tech ทางด้านเทคโนโลยีอาหาร และเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ WeWork และใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม Food Labs ในการช่วยเร่ง สตาร์ทอัพให้เติบโตและก้าวไกลออกไปสู่ระดับนานาชาติ การนำจุดแข็งทางด้านนวัตกรรมของเรา ร่วมกับ WeWork Labs จะช่วยส่งเสริมให้เกิดความคิดริเริ่มใหม่ๆ ที่นำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พัฒนาความมั่นคงทางด้านอาหารระดับโลก การสร้างงานด้านนวัตกรรม และแสดงความสามารถของประเทศไทยในการแข่งขันบนเวทีระดับโลก”

ดร.ธัญญวัฒน์ เกษมสุวรรณ ผู้อำนวยการกลุ่มด้านนวัตกรรม บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราได้เล็งเห็นว่า นวัตกรรมในอุตสาหกรรมอาหารสามารถช่วยยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมอาหารไทยสู่สากล ความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นการเปิดลู่ทางใหม่เพื่อให้สตาร์ทอัพได้พิสูจน์ไอเดียของพวกเขา ทั้งนี้ เรามุ่งผลักดันประเทศไทยให้ก้าวไปสู่เวทีโลกและหวังว่าจะได้ต้อนรับคลื่นลูกใหม่ที่เป็นสตาร์ทอัพฟู้ดเทคที่จะเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมนี้”

SPACE-F ตั้งอยู่ที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง โดยจะให้บริการตั้งแต่ห้องแล็บ เครื่องมืออันทันสมัยที่จะช่วยให้การวิจัยและการพัฒนาทางความคิดเป็นไปได้อย่างสะดวก นอกจากนี้การขยายธุรกิจไปยังประเทศอื่นๆ ก็สามารถทำได้ง่ายขึ้นด้วยการเข้าถึงพื้นที่ทำงานของ WeWork Labs ได้ใน 60 แห่งทั่วโลก รวมถึงการสนับสนุนของเครือข่ายทั่วโลกของ บมจ. ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป และโปรแกรมของสนช. ที่ส่งเสริมสตาร์ทอัพสู่ตลาดต่างประเทศ

รองศาสตราจารย์ ดร.กัณยารัตน์ สุไพบูลย์วัฒน รองคณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ความเห็นว่า“ด้วยทรัพยากรที่เรามีอยู่ผนวกกับคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นแหล่งองค์ความรู้ที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ เรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนผู้นำอุตสาหกรรมในอนาคตด้วยการช่วยเสริมสร้างวิสัยทัศน์ให้กับพวกเขา เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการเสริมสร้างระบบ ecosystem คือสิ่งที่สำคัญซึ่งจะช่วยให้บริษัทสตาร์ทอัพสามารถเติบโตและสร้างผลงานได้”

ทั้งนี้ ประเทศไทยนับได้ว่า เป็นฮับของสตาร์ทอัพทั้งชาวไทยและนานาชาติ เนื่องจากมีค่าครองชีพที่ไม่สูงมากและมีการดำรงชีพที่ดี ประเทศไทยยังเป็นศูนย์กลางของบริษัทผู้ผลิตและให้บริการด้านอาหารจำนวนมาก จึงเป็นสถานที่ซึ่งเหมาะกับการริ่เริ่มนวัตกรรมด้านอาหาร และเพื่อเป็นการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เกิดนวัตกรรมภายในประเทศ นอกจากนี้ สตาร์ทอัพชาวต่างชาติที่เข้าร่วมในโครงการ SPACE-F สามารถยื่นขอสมาร์ทวีซ่ากับรัฐบาลไทยได้ ซึ่งจะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย ซึ่งจะช่วยดึงดูดสตาร์ทอัพชาวต่างชาติที่มีทักษะให้เข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น

ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดของคุณสมบัติต่างๆ ในการสมัครและขั้นตอนในการสมัครได้ที่
https://www.space-f.co/our-programs

Related Posts

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Send this to a friend