ด้านนางสาวพิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ด้านทรัพยากรบุคคล ซีพีเอฟ กล่าวว่า ในส่วนของพนักงานมีการเฝ้าระวังโรคระหว่างการปฏิบัติงาน เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของพนักงาน และ กระบวนการผลิตเดินหน้าโดยไม่หยุดชะงัก รวมทั้งส่งเสริมให้เกษตรกรในโครงการส่งเสริมอาชีพและคู่ค้าปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันโรคตามมาตรฐานสากลให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่การผลิต
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้พนักงานสามารถทำงานที่บ้าน (Work from Home) โดยขึ้นกับความเหมาะสมของงาน และมีมาตรการป้องกันที่เข้มงวดด้านสุขอนามัยตลอดเวลา ตั้งแต่ที่บ้าน การเดินทางไป-กลับ การปฏิบัติตัวในระหว่างทำงาน การรับประทานอาหาร การรักษาระยะห่างทางสังคม (social distancing) ระยะห่างทางบุคคล (Physical Distancing) และมีการสื่อสารให้พนักงานรับทราบข้อมูลข่าวสารสถานการณ์อย่างทั่วถึง และมีกรอกข้อมูลการเดินทางในแอพพลิเคชั่น CPF Connect ตรวจสอบและติดตามข้อมูลการเดินทาง สำหรับการประเมินความเสี่ยงได้ทันท่วงที
สำหรับพนักงานที่ปฏิบัติงานในไลน์การผลิต ต้องผ่านการคัดกรองอุณหภูมิร่างกาย เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในพื้นที่และจุดที่สัมผัสบ่อย รวมถึงเพิ่มการขนส่งด้วยระบบสายพาน ลดการสัมผัสของพนักงาน ตลอดจนจัดที่พักให้แรงงานต่างชาติอยู่ในหอพัก และมีรถรับส่งจากที่พักถึงโรงงาน เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญในเรื่องช่องทางจำหน่ายให้ถึงมือผู้บริโภคตามมาตรฐานความปลอดภัย โดย ซีพี เฟรชมาร์ท มีแนวทางการบริหารจัดการในร้านให้ถูกสุขอนามัยและการใช้บริการของลูกค้าอย่างเคร่งครัดตาม 9 มาตรการ ในโครงการ “ซีพี เฟรชมาร์ท สะอาด ปลอดภัย รวมใจต้านโควิด-19” ใช้เป็นแนวปฏิบัติทุกสาขาทั่วประเทศ พนักงานในร้านต้องสวมหน้ากากอนามัยและสวมถุงมือระหว่างปฏิบัติ การทำความสะอาดบริเวณที่สัมผัสบ่อย เช่น ถาดรับเงิน ที่จับประตู พร้อมทั้งขอความร่วมมือกับลูกค้าทุกคนสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล และตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าร้าน และส่งเสริมให้ลูกค้าใช้สั่งซื้อและชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ และใช้บริการส่งสินค้าถึงบ้านแทน