BUSINESS

‘ลอรีอัล’ เผย ยืนหนึ่งตลาดความงามโลก เติบโต 2 หลัก ทำยอดขายทั่วโลก 7,000 ล้านชิ้น ในปี 65

ไตรมาสแรก 66 โตถึง 13% ย้ำจุดยืนด้านการพัฒนานวัตกรรมความงาม ควบคู่พันธสัญญาด้านความยั่งยืน มุ่งสู่อันดับ 1 ในไทย

บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย นายแพทริค จีโร กรรมการผู้จัดการบริษัท ลอรีอัล ประเทศไทย พม่า ลาว และกัมพูชา เผยถึง แนวโน้มอุตสาหกรรมความงามปี 2566 ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมสรุปผลประกอบการทั่วโลกในปี 65 และเผยกลยุทธ์และปัจจัยเดินหน้าผลักดัน ลอรีอัล ประเทศไทย สู่บริษัทความงามอันดับ 1 ของไทยตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการพัฒนานวัตกรรมเพื่อความงามควบคู่กับการขับเคลื่อน “พันธสัญญาด้านความยั่งยืน”

แพทริค เปิดเผยว่า ในปี 65 ที่ผ่านมา ตลาดความงามทั่วโลกเติบโตต่อเนื่อง 6 % ด้วยมูลค่าตลาดรวมกว่า 2.5 แสนล้านยูโร หรือราว 9.4 ล้านล้านบาท ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวยังครองส่วนแบ่งการตลาดไว้ได้สูงที่สุดที่ 41 % ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 22 % ผลิตภัณฑ์กลุ่มเมคอัพยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ 16 % ด้านกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำหอมมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 11 % โดยในประเทศไทย ตลาดความงามมีขนาดเป็นอันดับต้นๆ ในภูมิภาค SAPMENA (เอเชียแปซิฟิกใต้ ตะวันออกกลาง และ แอฟริกาเหนือ)

สำหรับ “ลอรีอัล กรุ๊ป” ยังคงยืนหนึ่งในตลาดความงามในฐานะบริษัทความงามชั้นนำของโลก ด้วยตัวเลขการเติบโตอย่างต่อเนื่องในระดับโลกที่ 10.9 % คิดเป็นมูลค่า 3.83 หมื่นล้านยูโร และทำยอดขายทั่วโลกได้สูงถึง 7,000 ล้านชิ้น และด้านธุรกิจอีคอมเมิร์ซของลอรีอัลขยายตัว 8.9 % ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 28 % เปอร์เซ็นต์ ของรายได้ทั่วโลก ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านดิจิทัลที่ยังคงเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ และได้เริ่มต้นไตรมาสที่ 1 ปี 66 อย่างแข็งแกรงด้วยการเติบโตที่ 13 %

นายแพทริค กล่าวว่า “ความสำเร็จในปี 65 ที่ผ่านมา ทั้งในระดับโลกและในประเทศไทยได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมความงามของ ลอรีอัล กรุ๊ป ด้วยตัวเลขที่เติบโตถึง 10.9 % ด้วยปัจจัยสนับสนุนและเทรนด์จากทั่วโลกที่ผู้คนมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรม ประสิทธิภาพและคุณภาพสูง รวมถึงผลิตภัณฑ์พรีเมียมมีระดับแบบจับต้องได้”

ขณะเดียวกัน ลอรีอัล ประเทศไทย ก็มุ่งสู่การเป็นบริษัทความงามอันดับ 1 ในไทยโดยในปี 65 สามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจากหลายแบรนด์และเติบโตภาพรวมด้วยเลขสองหลัก นับเป็นความภาคภูมิใจของเราที่ได้ขับเคลื่อนตลาดความงามไทยด้วยแบรนด์ระดับโลก 15 แบรนด์ ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ปัจจัยความสำเร็จนี้มาจากทั้งนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงที่มาจากการวิจัยและพัฒนาระดับโลก การทำงานด้านดิจิทัลเพื่อเข้าถึงเพื่อผู้บริโภคในทุกช่องทาง รวมถึงการทำงานร่วมกับลูกค้าและพันธมิตรทั้งออนไลน์และออฟไลน์ในการผลักดันแคมเปญเพื่อข้อเสนอที่ดึงดูด และมอบประสบการณ์ที่ดีสำหรับผู้บริโภคชาวไทยในทุกเซ็กเมนต์” นายแพทริค กล่าว

สำหรับภาพรวมตลาดความงามในประเทศไทยปี 65 มีมูลค่ารวมราว 1.49 แสนล้านบาท นำโดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวถึงราว 60 % ผลิตภัณฑ์ดูแลผม 20% เครื่องสำอาง 14% และน้ำหอม 6% โดยมีแนวโน้มเติบโตสองหลักด้วยผู้บริโภคชาวไทยให้ความสำคัญกับการดูแลผิวและชอบลองนวัตกรรมใหม่ๆ

นางสาวอรอนงค์ ประทักษ์พิริยะ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการองค์กรและสื่อสารสัมพันธ์ ลอรีอัล ประเทศไทย กล่าวว่า นอกจากการมุ่งสู่อันดับ 1 ในประเทศไทย ลอรีอัลยังเร่งการทำงานด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยมีการเพิ่มเป้าหมายและขยายโครงการต่างๆ อาทิ โครงการสอนทักษะอาชีพเสริมสวยเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่มีการหารือแผนความร่วมมือกับกรมกิจการสตรีเพื่อเพิ่มจำนวนผู้อบรมเพื่อสร้างอาชีพ การอบรมสร้างความตระหนักเกี่ยวกับสัญญาณเตือนภัยความรุนแรงในคู่รักจากโครงการ Abuse is Not Love จากแบรนด์ YSL Beauty ร่วมกับมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และโครงการ Solidary Sourcing ที่นอกจากจะจัดจ้างผู้ด้อยโอกาสแล้วยังได้ขยายการจัดซื้อไปสู่กลุ่มบริษัท SMEs และบริษัทเล็กที่มีสตรีหรือ LGBTQ เป็นเจ้าของ เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการในกลุ่มนี้เข้าถึงจัดซื้อจัดจ้างของบริษัทมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ นายแพทริค ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายใต้พันธสัญญาด้านความยั่งยืน หรือ “L’Oréal for the Future” ลอรีอัลยังได้นำปรัชญา Green Sciences มาใช้ในการวิจัยสูตรผลิตภัณฑ์อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนสำหรับปี 2030 เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมโลก โดยเปลี่ยนผ่านสู่การใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติถึง 61% และตั้งเป้าสู่ 95% ภายในปี 2030 พร้อมทั้ง จัดทำแคมเปญรีไซเคิลขยะภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรหลายรายในประเทศไทย รวมถึงสนับสนุนสตรีในสายงานวิทยาศาสตร์และกลุ่มผู้ขาดโอกาสทางสังคมอย่างต่อเนื่องทั้ง โครงการทุนวิจัย “เพื่อสตรีในงานวิทยาศาสตร์” และจัดทำโครงการจัดจ้างผู้ขาดโอกาสทางสังคม มอบโอกาสที่เท่าเทียมทางอาชีพ กระจายโอกาสในการทำงานสู่วิสาหกิจขนาดกลางและย่อม สร้างอาชีพและรายได้ที่มั่นคงให้กับกลุ่มผู้พิการและผู้สูงอายุเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับชุมชน พร้อมขับเคลื่อนสู่ยุคใหม่ด้วยการพัฒนาอย่างรอบด้าน ผสานอุตสาหกรรมความงามเข้ากับเทคโนโลยี AI และ Data เพื่อกำหนดอนาคตอุตสาหกรรมความงาม รวมทั้งส่งเสริมความหลากหลายด้วยแนวคิด “Beauty for Each” ความงามที่เข้าถึงและตอบโจทย์ผู้บริโภคจากทั่วโลกที่มีภูมิหลัง วัฒนธรรม และความต้องการอันหลากหลาย และทุ่มทุนด้านวิจัยและพัฒนานวัตกรรมมากกว่า 1,000 ล้านยูโร ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่า 3% ของรายได้ต่อปี เพื่อนำเสนอนวัตกรรมความงามอันล้ำสมัยออกสู่ท้องตลาด โดยได้รับการจดสิทธิบัตรแล้วทั้งสิ้น 561 ชิ้น

“ในตลาดความงามที่ไม่เคยหยุดยิ่ง ทุกๆ ความท้าทายคือโอกาส ลอรีอัลพร้อมจะเดินหน้าอย่างมั่นคงเพื่อย้ำความเป็นบริษัทความงามอันดับ 1 ของโลก และผลักดันลอรีอัลประเทศไทยสู่อันดับ 1 ในไทย โดยจะนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีความงามอย่างไม่หยุดยั้ง และส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการอันยอดเยี่ยมให้กับผู้บริโภค ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนพันธสัญญาด้านความยั่งยืน อันจะสร้างประโยชน์ทั้งแก่แวดวงอุตสาหกรรม สังคม และสิ่งแวดล้อม อันสอดคล้องกับเป้าหมายในการสร้างสรรค์ความงามที่ขับเคลื่อนโลกของลอรีอัล” นายแพทริค กล่าวทิ้งท้าย

Related Posts

Send this to a friend