มาเซราติ เปิดตัวสองรถใหม่ ปิดฉากเครื่องยนต์ วี 8 หลังจำหน่ายแล้วกว่าแสนคัน
มาเซราติ เปิดตัว กิบลี 334 อัลติมา (Ghibli 334 Ultima) และเลวานเต้ วี8 อัลติมา (Levante V8 Ultima) ครั้งแรกที่งานกู๊ดวูด เฟสติวัล ออฟ สปีด (Goodwood Festival of Speed) งานเทศกาลมอเตอร์สปอร์ตและรถแข่งประจำปีในประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นการส่งท้ายซูเปอร์คาร์รุ่นติดตั้งเครื่องยนต์ วี8 หลังมียอดจำหน่ายไปแล้วมากกว่า 100,000 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวมาเซราติ 5000 จีที (Maserati 5000 GT) ครั้งแรกเมื่อปี 1959
นอกจากนี้ ยังมี มาเซราติ กรันทูริสโม โทรฟิโอ (Maserati GranTurismo Trofeo) ที่มาพร้อมขุมพลัง 542 แรงม้าจากเครื่องยนต์เน็ททูโน วี 6 (Nettuno V6) ซึ่งมีจุดเด่นที่นวัตกรรมระบบจุดระเบิดที่มีหัวเทียนแบบคู่ ที่พัฒนามาจากระบบของรถแข่งฟอร์มูลาวัน
ภายในงาน ยังมีโซนจัดแสดง มาเซราติ กรันทูริสโม วันออฟ พริสมา (Maserati GranTurismo One Off Prisma) และ มาเซราติ กรันทูริสโม โฟลกอเร (Maserati GranTurismo Folgore) รถยนต์ไฟฟ้าโมเดลใหม่ที่พัฒนามาจากรถแข่งฟอร์มูลา อี (Formula E) ใช้แบตเตอรี่ 800 โวลต์ วิ่งไกลถึง 450 กิโลเมตรในการชาร์จเพียงครั้งเดียว และเพิ่มระยะทางวิ่งถึง 100 กิโลเมตรเมื่อชาร์จเร็วในเวลาเพียง 5 นาที ในส่วนรถยนต์ไฟฟ้าที่นำมาจัดแสดงในเทศกาลนี้ ได้แก่ มาเซราติ เกรคาเล่ โฟลกอเร (Maserati Grecale Folgore) รถเอสยูวีหรูขนาดกลาง ติดตั้งแบตเตอรี่ 105 กิโลวัตต์ ที่ใช้เทคโนโลยี 400 โวลต์ และสามารถวิ่งได้ระยะทาง 310 ไมล์
อีกหนึ่งซูเปอร์คาร์ ได้แก่ มาเซราติ เอ็มซี20 แชโล (MC20 Cielo) กลับมาแสดงพลังอีกครั้งในการเข้าร่วมการแข่งรถขึ้นเขา โดยมีรอสโซ วินเชนเต (Rosso Vincente) เป็นผู้ขับ มีอัตราน้ำหนักต่อแรงม้ามหาศาล แชสซีที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ หลังคาเปิดประทุนใส วางขุมพลังเน็ททูโน วี 6 ที่พัฒนามาจากรถแข่งฟอร์มูลาวัน ให้พลังสูงถึง 621 แรงม้า
