ขนส่งทางบก ดีเดย์ 1 ม.ค. 65 ผู้ขับรถบรรทุกวัตถุอันตราย ต้องมีหนังสือรับรองการขับ

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า การขนส่งวัตถุอันตรายในประเทศไทยมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการขนส่งเชื้อเพลิง ซึ่งหากระหว่างการขนส่งเกิดอุบัติเหตุขึ้น ย่อมนำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สิน และสิ่งแวดล้อม ได้มากกว่าอุบัติเหตุในการขนส่งสินค้าทั่วไป

เพื่อให้ผู้ขับขี่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับคุณสมบัติของวัตถุอันตราย รวมถึงแนวทางและวิธีระงับความเสี่ยงและความเป็นอันตรายของวัตถุอันตรายเมื่อเกิดการรั่วไหล กรมการขนส่งทางบกจึงได้ดำเนินการตามความตกลงระหว่างประเทศด้านการขนส่งสินค้าอันตรายที่ประเทศไทยเป็นภาคี โดยกำหนดให้ผู้ขับรถบรรทุกสินค้าที่เป็นวัตถุอันตรายทั้ง 9 ประเภท คือ ประเภทที่ 1 วัตถุระเบิด , ประเภทที่ 2 แก๊ส , ประเภทที่ 3 ของเหลวไวไฟ , ประเภทที่ 4 ของแข็งไวไฟ , ประเภทที่ 5 สารออกซิไดซ์ , ประเภทที่ 6 สารพิษ และสารติดเชื้อ , ประเภทที่ 7 วัสดุกัมมันตรังสี , ประเภทที่ 8 สารกัดกร่อน และประเภทที่ 9 วัตถุอันตรายเบ็ดเตล็ด ต้องมีหนังสือรับรองการขับรถวัตถุอันตราย ควบคู่กับใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถชนิดที่ 4

สำหรับการจะได้รับหนังสือรับรองการขับรถวัตถุอันตรายนั้น ต้องผ่านการอบรม และทดสอบจากหน่วยงานที่กรมการขนส่งทางบกมอบหมาย โดยมี 4 หลักสูตรอบรม ประกอบด้วย หลักสูตรขั้นพื้นฐาน ที่ผู้ขับรถขนส่งสินค้าวัตถุอันตรายทุกประเภทต้องผ่านการอบรม และทดสอบในหลักสูตรขั้นพื้นฐานทุกคน และหลักสูตรพิเศษอีก 3 หลักสูตร สำหรับผู้ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ขับรถวัตถุอันตรายประเภทที่ต้องการความเชี่ยวชาญเพิ่มเติม ประกอบด้วย หลักสูตรพิเศษสำหรับการขนส่งวัตถุอันตรายในรูปแบบแทงค์ , หลักสูตรพิเศษสำหรับการขนส่งวัตถุอันตรายประเภทที่ 1 วัตถุระเบิด และหลักสูตรพิเศษสำหรับการขนส่งวัตถุอันตรายประเภทที่ 7 วัสดุกัมมันตรังสี

ส่วนหนังสือรับรองการขับรถวัตถุอันตราย มีลักษณะเป็นบัตรสมาร์ทคาร์ดขนาดเดียวกับใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถ เพื่อให้สะดวกต่อการพกพา มีอายุไม่เกิน 3 ปี โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป ผู้ขับรถวัตถุอันตราย (ท.4) ต้องเข้ารับการอบรมและทดสอบตามหลักสูตรอบรม ที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด ตามประเภทและลักษณะการบรรทุกวัตถุอันตราย