AROUND THAILAND

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ เผยข้อมูลการบริหารจัดการน้ำ เร่งจัดหาน้ำบาดาลแก้ภัยแล้ง

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ล่าสุดรายงานสถานการณ์ และการบริหารจัดการน้ำ ประจำวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ภายใต้การดำเนินงานตาม 10 มาตรการเพื่อรองรับสถานการณ์ การขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง ปี 2565/66 ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ กรมทรัพยากรน้ำบาดาลลงพื้นที่ ในการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้ง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และก่อสร้างให้เป็นไปตามแผนงาน ในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภูและจังหวัดขอนแก่น

พร้อมกันนี้ได้รายงานสภาพอากาศรายภาค โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศหนาวเย็นและมีลมแรง ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออก มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขณะที่ภาคใต้มีฝนเพิ่ม ตลอดจนสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ และแผนการจัดสรรการใช้น้ำ รวมถึงจัดโครงการฝึกอบรม การสอบเทียบเครื่องมือตรวจสภาพอากาศฝนหลวง 2 ชนิด ประกอบด้วย เครื่องตรวจอากาศชั้นบนชนิดทำงานอัตโนมัติ ความถี่ 1680 MHz และเครื่องตรวจอากาศแบบชนิดคลื่นสั้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานได้พัฒนาความรู้ ความเข้าใจสามารถใช้เครื่องมือทำงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับผลการดำเนินงานตาม 10 มาตรการ รองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำ ฤดูแล้ง ปี 2565/66กรมทรัพยากรน้ำบาดาลลงพื้นที่ ติดตามการดำเนินงานโครงการ จัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อตรวจสอบและติดตามการดำเนินงานก่อสร้างให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนด ณ บ้านหนองโสน หมู่ที่ 12 ตำบลกุดดินจี่ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู และบ้านหนองแวง หมู่ที่ 7 ตำบลยางคำ อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น

ส่วนสภาพอากาศพบบริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลงกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออก มีอากาศเย็นในตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยตอนบนทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร และอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ขณะที่สถานการณ์แหล่งน้ำทั่วประเทศ ประกอบด้วย

1.แหล่งน้ำทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำใช้การ 33,552 ล้าน ลบ.ม. (58%) แบ่งเป็น แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38 แห่ง ปริมาณน้ำใช้การ 26,721 ล้าน ลบ.ม. (56%) ขนาดกลาง 369 แห่ง ปริมาณน้ำใช้การ 3,692 ล้าน ลบ.ม. (73%) และขนาดเล็ก 139,903 แห่ง ปริมาณน้ำใช้การ 3,139 ล้าน ลบ.ม. (62%)

2.พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยฯ และเขื่อนป่าสักฯ) ปริมาณน้ำใช้การ 10,104 ล้าน ลบ.ม. (56%)

ด้านผลการจัดสรรน้ำ (สะสมตั้งแต่ 1 พ.ย.ถึงปัจจุบัน) ประกอบด้วย

1.อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถจัดสรรน้ำ ได้มีจำนวน 35 แห่ง มีปริมาณน้ำใช้การทั้งสิ้น 26,569 ล้าน ลบ.ม. (56%) มีแผนการจัดสรรน้ำ 21,913 ล้าน ลบ.ม.ปัจจุบันมีการจัดสรรน้ำแล้ว 11,766 ล้าน ลบ.ม. (54%)

2.พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีแผนการจัดสรรน้ำ 8,600 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีการจัดสรรน้ำแล้ว 4,894 ล้าน ลบ.ม. (57%)

Related Posts

Send this to a friend