น้ำป่าทะลักแม่สายอีก จี้รัฐเร่งแก้ระบบเตือนภัยรับมือน้ำท่วม

น้ำป่าทะลักแม่สายอีก จี้รัฐเร่งแก้ระบบเตือนภัยรับมือน้ำท่วม วอนส่งรัฐมนตรีบัญชาการด่วน นักวิชาการหวั่นสารพิษปนเปื้อน จี้เร่งตรวจสอบ
วันนี้ (24 พ.ค. 68) นายบัณฑิต พันธ์พลากร ว่าที่สมาชิกสภาเทศบาลเวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และประธานศูนย์เครือข่ายจัดการภัยพิบัติมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา) ให้สัมภาษณ์ว่าตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 23 พฤษภาคม ได้เกิดฝนตกหนักในอำเภอแม่สาย โดยน้ำป่าจากดอยช้างงูและถ้ำผาจมได้ไหลลงท่วมตลาดสายลมจอย น้ำบางส่วนไหลลงแม่น้ำสายทะลุพื้นที่ต่ำแล้วย้อนกลับมา ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ บางแห่งท่วมถึงระดับหัวเข่า อย่างไรก็ตามตอนเช้านี้ปริมาณน้ำได้ลดลงแล้ว
นายบัณฑิตกล่าวว่า ระบบการแจ้งเตือนและแผนรับมือน้ำท่วมใช้การไม่มีเลย เพราะโทรมาตรอยู่ที่ต้นน้ำและฝั่งพม่า แต่ครั้งนี้ฝนตกอยู่ในพื้นที่ ทำให้พื้นที่สายลมจอยที่เหมือนแอ่งกระทะไม่มีทางระบายน้ำเพราะยังมีดินโคลนติดอยู่ตั้งแต่น้ำท่วมครั้งก่อนและยังขุดลอกไม่แล้วเสร็จ
“สิ่งที่รัฐบาลควรแก้ไขด่วน คือระบบเตือนภัยใช้ไม่ได้เพราะน้ำไม่ได้เข้าจากต้นน้ำ ควรลอกรางระบายน้ำจากสายลมจอยให้ทะลุเหมืองแดง เพื่อให้น้ำมีทางไป ที่สำคัญคือรัฐบาลต้องเห็นเป็นเรื่องใหญ่ เพราะครั้งนี้น้ำท่วมแม่สายเป็นครั้งที่ 2 ของปีแล้ว รัฐบาลควรส่งรัฐมนตรีมาช่วยแก้ปัญหา เพราะในวันที่ 27-29 พฤษภาคม กรมอุตุแจ้ว่าจะเกิดฝนตกหนักและนานกว่านี้หากไม่ส่งใครมาช่วยบัญชาการ สถานการณ์จะรุนแรงกว่านี้ ไม่เช่นนั้นก็จะเหมือนเมื่อปีก่อน”
ดร.สืบสกุล กิจนุกร อาจารย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวว่าน้ำท่วมแม่สายอีกแล้ว ซึ่งมีสารโลหะหนักมาด้วยหรือไม่ ประชาชนต้องทำอย่างไร เป็นสิ่งที่ถามภาครัฐไปแต่ไม่เคยมีคำตอบ 1. ภาครัฐต้องประกาศแผนรับมือน้ำท่วมรอบใหม่ที่จะมาถึงอีกไม่นานจากนี้ 2. ภาครัฐต้องตรวจสอบซ้ำอีกครั้งว่าน้ำท่วมมีสารพิษปนเปื้อนมาด้วยหรือไม่
“ที่สำคัญคือต้องออกคำแนะนำให้ประชาชนว่าต้องทำตัวอย่างไรในสถานการณ์น้ำท่วมที่มีสารพิษปนเปื้อน โดยรัฐบาลต้องเร่งเจรจากกดดันให้ทางการเมียนมาและทหารว้าปิดเหมืองแร่ในต้นน้ำสายอย่างถาวร” ดร.สืบสกุล กล่าว