AROUND THAILAND

คปภ.เปิดสำนักงานแห่งใหม่ สำนักงาน คปภ. ภาค 6 (ชลบุรี)-สำนักงาน คปภ.จังหวัดชลบุรี

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริม การประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารที่ทำการ สำนักงาน คปภ. ภาค 6 (ชลบุรี) และสำนักงาน คปภ.จังหวัดชลบุรี แห่งใหม่ ณ อาคารสำนักงานเลขที่ 209/53 – 54 หมู่ 3 ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี โดยมี นายนิติ วิวัฒน์วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวต้อนรับ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ภาคประชาชน ตลอดจนสื่อมวลชนร่วมงานและแสดงความยินดี

ดร.สุทธิพล กล่าวว่า “จากภารกิจของสำนักงาน คปภ. ภาค 6 (ชลบุรี) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นหน่วยงานของสำนักงาน คปภ. มีภารกิจสำคัญในการกำกับ และส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย รวมถึงการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชน ด้านการประกันภัย เพื่อให้ผู้เอาประกันภัย ประชาชน และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่รับผิดชอบ ได้รับบริการที่ดีมีประสิทธิภาพและทั่วถึง สำนักงาน คปภ.ภาค 6 (ชลบุรี) และสำนักงาน คปภ.จังหวัดชลบุรี เดิมตั้งอยู่ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดชลบุรี ต่อมาได้ย้ายที่ทำการมาอยู่ที่ อาคารสำนักงานเช่า 3 ชั้น เลขที่ 1/28-29 หมู่ 3 ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี”

“แต่ด้วยภารกิจของสำนักงานที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับการขยายตัว ของภาคอุตสาหกรรมประกันภัย ทำให้พื้นที่เดิมมีจำกัดที่จะรองรับ ภารกิจงานและการให้บริการ จึงได้มอบนโยบายให้ไปหาที่ทำการแห่งใหม่ จนทำให้สามารถไปจัดซื้ออาคาร เพื่อเป็นที่ทำการแห่งใหม่ เป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เลขที่ 209/53 -54 หมู่ 3 ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี มีพื้นที่ใช้สอย 350 ตารางเมตร ซึ่งเพียงพอและเหมาะสม สำหรับการปฏิบัติภารกิจงานที่เป็นสัดส่วน มีพื้นที่ให้บริการประชาชนกว้างขวางมากขึ้น มีห้องไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ห้องพิจารณาข้อพิพาทด้วยวิธีอนุญาโตตุลาการ ห้องประชุม และศูนย์สอบนายหน้าประกันภัย ทั้งนี้เพื่อรองรับภารกิจของสำนักงาน และการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมประกันภัย รวมถึงให้สามารถอำนวยความสะดวกในการให้บริการประชาชน ผู้เอาประกันภัย และผู้มีส่วนได้เสีย รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ที่มาติดต่อขอรับบริการได้อย่างสะดวก รวดเร็วมีประสิทธิภาพ และมีมาตรฐานในการให้บริการมากยิ่งขึ้น”

“สำหรับในการปฏิบัติงานของสำนักงาน คปภ. ภาค 6 (ชลบุรี) และสำนักงาน คปภ.จังหวัดชลบุรี (แห่งใหม่) นี้ จะนำระบบเทคโนโลยี เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ มีระบบฐานข้อมูลด้านการประกันภัย มีการเชื่อมโยงฐานข้อมูล กับหน่วยงานเครือข่าย โดยสำนักงาน คปภ.ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ กับหน่วยงานต่างๆ เช่น กรมการขนส่งทางบก รวมถึงหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ที่เกี่ยวข้องในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สำนักงานคณะกรรมการนโยบาย เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หอการค้าไทยและสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออก) เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาบริการด้านการประกันภัย และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ในการพิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นการเพิ่มศักยภาพของพนักงาน ลดต้นทุนและลดระยะเวลาในการปฏิบัติงาน เพื่อให้ผู้ใช้บริการมีความพึงพอใจมากขึ้น อันจะสร้างความเชื่อมั่นในระบบประกันภัย และภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร”

“ที่ทำการใหม่ของสำนักงาน คปภ. ภาค 6 (ชลบุรี) และสำนักงาน คปภ.จังหวัดชลบุรี แห่งนี้ จะสามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ผู้เอาประกันภัย และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้ได้รับบริการที่ดี และสามารถสร้างความเชื่อมั่น ให้กับประชาชนผู้ใช้บริการด้านการประกันภัย รวมทั้งพนักงานผู้ปฏิบัติงานในสังกัด จะสามารถปฏิบัติงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของสำนักงาน คปภ.ที่ให้ความสำคัญในเรื่องการให้บริการประชาชน ทั้งในด้านการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจ ด้านการประกันภัยที่ถูกต้อง รวมทั้งการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัย เพื่อให้ประชาชนได้รับการบริการที่สะดวก รวดเร็ว และเป็นธรรม ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นและศรัทธา ในระบบประกันภัยยิ่งขึ้น”

“สำหรับข้อมูลของธุรกิจประกันภัย ที่สำคัญของจังหวัด ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน คปภ. ภาค 6 (ชลบุรี) พบว่าในปี 2565 มีเบี้ยประกันภัยรับรวมกว่า 122,827 ล้านบาท คิดเป็น 13.87 ของเบี้ยประกันภัยทั้งประเทศ แยกเป็นเบี้ยประกันชีวิต 85,619 ล้านบาท เบี้ยประกันวินาศภัยกว่า 37,208 ล้านบาท คิดเป็นอัตราถือครองกรมธรรม์ประกันชีวิต ร้อยละ 78.59 อัตราผู้ถือครองกรมธรรม์ประกันวินาศภัย ร้อยละ 52.36 จะเห็นได้ว่าธุรกิจประกันภัย ภาพรวมของจังหวัดภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน คปภ.ภาค 6 (ชลบุรี) ซึ่งเป็นกลุ่มจังหวัดในพื้นที่ EEC รวมด้วย มีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น และธุรกิจประกันภัยเป็นธุรกิจ ที่มีศักยภาพและมีบทบาทที่สำคัญ ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ของประเทศชาติเป็นอย่างมาก ตลอดจนสามารถเสริมศักยภาพให้กับโครงการพัฒนาพื้นที่ EEC ได้เป็นอย่างดียิ่ง”

“ในส่วนของจังหวัดชลบุรี ปี 2565 มีเบี้ยประกันภัยรับรวมกว่า 33,433 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 5.06 เมื่อเทียบกับปีก่อน แยกเป็นเบี้ยประกันชีวิตกว่า 22,363 ล้านบาท เบี้ยประกันวินาศภัย 11,070 ล้านบาท มีบริษัท/สำนักงานตัวแทน-นายหน้าประกันภัย 138 แห่ง จำนวนตัวแทน-นายหน้าประกันภัย 1,065 คน ธนาคารพาณิชย์ 327 แห่ง จะเห็นได้ว่าธุรกิจประกันภัยภาพรวมของจังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในจังหวัดกลุ่มพื้นที่ EEC และสำนักงาน คปภ.ได้ใช้เป็นที่ตั้งศูนย์ EEC ด้านการประกันภัยของสำนักงาน คปภ.ภาค 6 (ชลบุรี) (Region 6 Insur-EEC Center) มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 และธุรกิจประกันภัยมีบทบาทสำคัญช่วยเสริมศักยภาพ และเพิ่มขีดความสามารถ ให้กับภาคอุตสาหกรรมภาคธุรกิจ และผู้ประกอบการ รวมทั้งสร้างความมั่นคง ในการประกอบการอาชีพของประชาชน”

ด้านนายนิติ วิวัฒน์วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า “สำนักงาน คปภ.เป็นหน่วยงานที่มีบทบาท หน้าที่ที่สำคัญอย่างยิ่งในการกำกับ ส่งเสริมพัฒนาธุรกิจประกันภัย ในการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ และการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ ด้านการประกันภัยตามสัญญาประกันภัย ให้กับประชาชนชาวชลบุรี และประชาชนทั้งประเทศ รวมถึงกระตุ้นเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนน นำรถเข้าสู่ระบบการประกันภัย และใช้ระบบประกันภัยเ ป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยง เมื่อมีอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จึงเชื่อว่าการเปิดสำนักงาน คปภ.ภาค 6 (ชลบุรี) และสำนักงาน คปภ.จังหวัดชลบุรี แห่งใหม่ และเพิ่มขีดความสามารถ ด้านเทคโนโลยีให้สำนักงานแห่งนี้ จะช่วยให้การติดตามบริษัทประกันภัย ให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน แก่ผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วขึ้น ซึ่งจะช่วยคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนได้มากขึ้น รวมทั้งส่งผลในการพัฒนาจังหวัดชลบุรี ได้อย่างดียิ่ง”

Related Posts

Send this to a friend