รวบแล้ว 1 ใน 4 โจรปล้นทอง อ.พบพระ
รวบแล้ว 1 ใน 4 โจรปล้นทอง อ.พบพระ ด้านภรรยาเหยื่อปล้นทอง ขอเจ้าของร้านเยียวยา หลังยิงสามีเสียชีวิต เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นโจร
วันนี้ (16 ก.พ. 56) ศาลอนุมัติหมายจับ 4 คนร้ายปล้นทอง ร้านทองกรุงเทพ 4 ในพื้นที่ตำบลพบพระ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก โดยได้ของกลางเป็นทองรูปพรรณ น้ำหนัก 182 บาท และอยู่ระหว่างหลบหนี ประกอบด้วย 1.นายวรพงษ์ แซ่ท้าว 2.นายเต้อ แซ่ท้าว 3.นายคึ แซ่ท้าว และ 4.นายวิชัย แซ่ว่าง
ข้อมูลทางการสืบสวนของตำรวจ พบว่า คนร้าย 3 คน ลงมือก่อเหตุ ส่วนอีก 1 คน ทำหน้าที่เก็บปืนและนำปืนมาคนอีก 3 คน ในวันปล้น และเป็นคนนำรถกระบะสีขาว ที่จอดทิ้งแนวพรมแดนไปซ่อน
ทั้งหมดถูกออกหมายจับในข้อหา “ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป โดยมีอาวุธปืนและใช้อาวุธปืน , ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว , ยิงปีนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน”
ล่าสุดมีรายงานว่า ชุดสืบสวน สภ.พบพระ ร่วมกับสืบสวนภาค 6 นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปราบปราม เข้าจับกุม 1 ในผู้ต้องหา คาบ้านพักที่บริเวณบ้านรวมไทยพัฒนาที่ 16 ตำบลรวมไทย อ.พบพระ เบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ร่วมก่อเหตุ
ด้านนางติ่นหม่า วิน อายุ 33 ปี ภรรยานายอากา อายุ 30 ปี ลูกค้าร้านทองในอำเภอพบพระ ต.ตาก ที่เสียชีวิตในระหว่างเกิดเหตุคนร้ายปล้นทอง ร้องเรียนองค์กรช่วยเหลือแรงงานเมียนมาที่ชายแดนไทย-เมียนมาว่า ก่อนเกิดเหตุได้ไปซื้อสร้อยคอทองคำให้ลูก และระหว่างเลือกขนาดความยาวสร้อยอยู่นั้น พบคนร้ายสวมหมวกนิรภัยเข้ามา และใช้อาวุธปืนยิงใส่กระจก ทำให้ตนและสามีหลบเข้าไปซ่อนตัวใต้เคาน์เตอร์ของร้าน เพราะวิ่งออกทางหน้าร้านไม่ได้ ส่วนลูกๆเจ้าของร้านหลบไปด้านหลังร้าน สักพักโจรได้ออกจากร้านไปแล้ว ทางบิดาเจ้าของร้านออกมาเปิดประตูพร้อมกับอาวุธปืนอยู่ในมือ สามีจึงรู้ว่าปลอดภัยแล้วจึงลุกยืนขึ้น ทำให้บิดาเจ้าของร้านตกใจใช้อาวุธปืนยิงใส่สามีต่อหน้าตนเองจนเสียชีวิต หลังจากนั้นทางลูกๆออกมาบอกว่า ไม่ใช่คนร้ายเป็นลูกค้า
นางติ่นหม่า วิน กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าเป็นเหตุการณ์ปล้นร้านทอง แต่การเสียชีวิตของสามี กลายเป็นข่าวว่าเจ้าของร้านใช้อาวุธปืนยิงโจรปล้นร้านทอง ทำให้ตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรม และทางเจ้าของร้านยังไม่มาพูดคุยเจรจากับทางตนเองในเรื่องของการเยียวยา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้าใจว่า เจ้าของร้านยิงโจร
สำหรับสามีภรรยาคู่นี้ เป็นชาวเมืองพะโค ประเทศเมียนมา เข้ามาเป็นแรงงานอยู่ใน อ.พบพระ สามีเข้ามาทำงานประมาณ 10 ปีแล้ว ส่วนภรรยาทำงานได้ 6 ปี เป็นแรงงานที่เข้ามาตามข้อตกลง MOU ใช้หนังสือเดินทางประเภทแรงงาน
