PEOPLE

‘ยศชนัน’ พร้อมชู นโยบายนำวิทยาศาสตร์ – เทคโนโลยีแก้ปัญหาให้ประชาชนทุกมิติ

‘ยศชนัน’ เผย ไทย เผชิญปัญหาเศรษฐกิจ – ภูมิรัฐศาสตร์ พร้อมชู นโยบายนำวิทยาศาสตร์ – เทคโนโลยีแก้ปัญหาให้ประชาชนทุกมิติ เริ่มตั้งแต่คนรากหญ้า ยัน สานต่อนโยบายเก่า หากเป็นประโยชน์กับประชาชน มั่นใจ หากจะเดินหน้าแก้ปัญหาต้องมีความสามัคคี บอก ร่วมรัฐบาล ปชน. – ภท. ได้ หากมีแนวนโยบายตรงกัน ย้ำ ต้องแก้ปัญหาสแกมเมอร์โดยไทยเป็นเจ้าภาพ ชี้ เหตุปะทะชายแดน ต้องยึดกรอบโลกล้อมกัมพูชา

นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กับ The Reporters ถึงการเข้ามาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย โดยเป็นบุตรหลานของตระกูลชินวัตร และวงศ์สวัสดิ์ ว่า ตนเองถือว่าเป็นความได้เปรียบ วันนี้เรามีจุดยืน และหลักของเรา เราอยากสร้างประเทศไทยไปข้างหน้า สิ่งที่เรามีคือวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี รวมถึงคนในวงการนี้ ก็มีความสามารถเช่นเดียวกัน ทำไมถึงไม่ชวนคนเหล่านี้มาการเมืองที่ดี เพื่อทำให้โครงสร้างพื้นฐานของประเทศ สามารถเปลี่ยนไปได้ เรื่องวิทยาศาสตร์ คือเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องสิ่งแวดล้อม ก็คือเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องหลักที่ทำก็คือเรื่องเกี่ยวกับปากท้อง ดังนั้น ทุกอย่างเชื่อมโยงกันหมด

ส่วนในอดีตเป็นอาจารย์ และนักวิทยาศาสตร์จะสามารถปรับเปลี่ยนตัวเองมาเป็นนักการเมืองที่ติดดิน ตามแนวคิดของพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ นายยศชนัน กล่าวว่า บางคนมองว่าตนเองไม่ได้ติดดิน แต่การทำงานของตนเองทั้งชีวิต เกิดมาจากการไปสมัครงานที่มหาวิทยาลัย และเริ่มเป็นอาจารย์ มีการเขียนขอทุนงานวิจัยตามแล็บต่าง ๆ ได้ลงพื้นที่ ตนเองทำงานกับคนพิการเยอะ เกี่ยวกับการให้โอกาสความเท่าเทียมในการเข้าถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ ถือเป็นข้อได้เปรียบด้วยซ้ำ เพราะเราเคยลงพื้นที่กับที่บ้านหลายครั้งในสมัยที่ลงเล่นการเมือง เราเคยลงสมัคร สส. เมื่อ 10 ปีที่แล้ว และพอเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง แต่สำคัญที่สุดคือการที่เราจะเคลื่อนพีระมิดไปได้ ต้องเคลื่อนจากฐาน เพราะฉะนั้น สิ่งที่ตนเองพยายามพูดตลอด คือเรื่องการเริ่มต้นจากรากหญ้า หากวันนี้รากหญ้าขับเคลื่อนไม่ได้ ไม่มีใครที่อยู่บนยอดสามารถไปได้ เพราะฉะนั้น วิสัยทัศน์ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าวันนี้ปัญหาของโลกเปลี่ยนไปแล้ว ในปี 2540 เป็นปัญหาเรื่องเศรษฐกิจของประเทศไทย แต่เศรษฐกิจโลกไม่ได้มีปัญหา ในขณะเดียวกัน ปัจจุบันมีปัญหาตั้งแต่เศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงทางสภาพพูมิอากาศ, technology distribution, ปัญหาเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ เราจึงจำเป็นต้องเพิ่ม New Growth Engine กลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ของสิ่งที่มีอยู่เดิม ที่อาจไม่ทันสมัยมากนัก ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น โดยวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นสิ่งที่เราถนัดอยู่แล้ว สุดท้ายแล้ว จะเป็นเป็นตัวดึงดูดการลงทุนเข้ามา เรามีความจำเป็นต้องเตรียมคน และเตรียมกฎกติกาให้พร้อมในส่วนนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนว่ารากหญ้าไม่ทิ้ง และข้างบนก็ไม่ทิ้ง

เมื่อถามว่า จะสามารถสื่อสารสิ่งเหล่านี้ ไปถึงคนและประชาชนให้เชื่อมั่นในตัวเองได้ใช่หรือไม่ นายยศชนัน ระบุว่า เราเปิดตัวมาหนึ่งอาทิตย์ตอนนี้มีคนเริ่มจำสไลด์ตนเองได้แล้ว ก็แสดงว่าคนเข้าใจ

ส่วนความคาดหวังในการกู้คะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยกลับมานั้น นายยศชนัน กล่าวว่า เราหวังว่าเราจะกลับมาทำนโยบายที่เราเคยอยากทำอยู่แล้ว และทุกคนเห็นเป็นแนวทางเดียวกันว่าประเทศไทยต้องเปลี่ยนแปลงทั้งระบบ ทั้งองคาพยพ เราต้องทันสมัยขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องดูแลคนรากหญ้า หากมีโอกาสตนเองก็เข้ามา ไม่ได้มีปัญหาว่าคะแนนนิยมจะเป็นอย่างไร แต่การที่เราได้บอกในสิ่งที่เราจะทำให้ประชาชนเข้าใจไปทีละขั้นนั้น ให้เห็นว่าสิ่งนี้ที่เรามองว่าเป็นสิ่งเพ้อฝัน เช่น การทำในสิ่งที่เราคิดว่าประเทศไทยทำไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร ก็ไปมีพาร์ทเนอร์เป็นต่างประเทศในการทำงานร่วมกัน เป็นกลไกด้านการลงทุน เพื่อให้มีวิทยาการนี้เข้ามา ประเทศไทยสามารถซึมซับได้เลย แต่ขณะเดียวกัน จะทำอย่างไรที่จะดึงเข้ามาได้ เป็นขั้นตอนที่เรามีประสบการณ์ และคิดว่าเราจะสามารถทำได้

ส่วนการดูแลพี่น้องประชาชน ทางพรรคมีความเข้มแข็งตรงนี้อยู่แล้ว เพียงแต่นำวิทยาการใหม่ ๆ มาเสริมมูลค่า ให้มีมูลค่าสูงขึ้น การนำเทคโนโลยีปรับปรุงพันธุ์ดิน พันธุ์พืช เป็นสิ่งที่ควรต้องทำ การดูแลการทำนาของพี่น้องประชาชน การดูแลระบบน้ำทั้งวงจร เป็นเรื่องที่ต้องทำ และตนเองมองว่าเป็นเรื่องเดียวกันกับที่ดูแลคนรากหญ้า ในการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในทุกรูปแบบ

นายยศชนัน ยังกล่าวถึงการสานต่อนโยบายจากรัฐบาลที่แล้วที่ยังทำไม่สำเร็จ ว่า หากเรามาเป็นรัฐบาลได้อีกครั้ง เราอยากผลักดันต่อเนื่อง เพราะมีบางอย่างใกล้จะสำเร็จแล้ว แต่ยังขาดโอกาสที่จะไปต่อ สิ่งนี้จำเป็นที่จะต้องทำต่อ เพื่อไม่ให้พี่น้องประชาชนสูญเสียโอกาส ในขณะเดียวกัน ในเรื่องเศรษฐกิจเรามีสองปรัชญา คือ การดึงดูดเม็ดเงินเข้ามา และการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถหมุนเวียนได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงการใด ต้องขึ้นอยู่กับงบประมาณ บริบท และความรู้สึกของประชาชน ซึ่งตนเองมองว่าสำคัญกว่า โดยเรามีการทยอยเปิดตัวนโยบาย เพื่อจะได้ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน

ส่วนเรื่องเงินดิจิทัล วอลเล็ต เราจะทยอยดูว่าปัจจุบันปัญหาของพี่น้องประชาชนอยู่ตรงไหนบ้าง หากยังจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็ต้องดูว่านโยบายไหน ที่จะสามารถทำได้ในงบประมาณส่วนนั้น เป้าหมายของประชาชนไม่ใช่เรื่องเงิน 10,000 บาท แต่เป้าหมายคือให้ประชาชนอยู่ดี กินดี และสามารถที่จะไปข้างหน้าได้

สำหรับการสร้างความเชื่อมั่นในการฟื้นเศรษฐกิจนั้น ต้องเริ่มต้นจากการเชื่อมั่นในตนเอง เรายกเครื่องเพื่อไทย เพื่อทำให้ในแต่ละนโยบาย สามารถปรับเข้ากับสมัยใหม่ การทำความเข้าใจกับระบบรัฐราชการ เพื่อให้เราสามารถฟื้นฟูศรัทธาของคนที่มีต่อรัฐได้ และการทำความเข้าใจของเรากับต่างประเทศ ซึ่งเป็นทุกส่วนที่จำเป็นต้องทำด้วยกันทั้งองคาพยพ และตนเองเชื่อว่าปัจจุบันเรามองนโยบายของรัฐบาลเป็นส่วนใหญ่ แต่ความเป็นจริงแล้ว แต่กระทรวงก็มีวิสัยทัศน์ และมีโครงการดี ๆ เยอะ ภาคเอกชนก็มีโครงการดี ๆ เราเริ่มเดินทางไปพูดคุยกับหลายภาคส่วนทั้งพาณิชย์ และอุตสาหกรรม จะพบว่าทำไมจะสานต่อโครงการดี ๆ ถึงแม้จะไม่ได้คิดโดยเรา แต่ถ้าประเทศชาติได้ประโยชน์ เราก็มีความจำเป็นต้องช่วยเขาในการสานต่อส่วนนี้

“ผมมีความมั่นใจว่า การจะแก้ไขปัญหาที่มันซับซ้อน ไม่สามารถทำได้ด้วยพรรคการเมืองเดียวด้วยซ้ำ ไม่สามารถทำได้ด้วยคนคนเดียว แต่มีความจำเป็นต้องพาองคาพยพทั้งหมดไปด้วยกัน ด้วยความสามารถมัคคี” นายยศชนัน กล่าว

นายยศชนัน กล่าวถึงจุดยืนในการแก้ไขปัญหา สถานการณ์ไทย – กัมพูชา ว่า ตั้งแต่มีปัญหาหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้ส่ง สส. ในพื้นที่ให้เปิดศูนย์รับเรื่องประสานงาน และในขณะเดียวกัน คนขาดรายได้ นอกจากการชดเชยแล้ว จะต้องหาสิ่งที่ให้ประชาชนทำแล้วมีรายได้อีก และหากกลับเข้าไปในพื้นที่แล้วไม่สามารถทำอาชีพได้ ก็ต้องดูแลในส่วนนี้ด้วย ก็น่าจะมีการพิจารณาเรื่องนี้เป็นพิเศษ

นายยศชนัน กล่าวต่อว่า จุดยืนของเราในระยะแรกการรักษาธิปไตยสำคัญที่สุด โดยการดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และทหาร คู่ขนานกันไป และอีกส่วนคือต้องทำให้โลกรู้ โดยต้องชื่นชมทหารว่าทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ สิทธิมนุษยชน และกฎของยูเอ็น เราจะสื่อสารเรื่องนี้ออกไป เพื่อให้โลกมองเห็นว่าเราทำถูกต้อง ทำตามกฎ และกรอบของกฎหมายการ ทำให้โลกล้อมกัมพูชาไว้ จะทำให้เขาอ่อนแอลง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการปราบปรามสแกมเมอร์ ไม่หมด ไม่เลิก ทั่วโลกเดือดร้อนกับเรื่องนี้ เราเป็นศูนย์กลางที่จะสามารถกำจัดเรื่องนี้ได้อย่างสิ้นซาก สิ่งที่ต้องต้องทำคือการเป็นพี่ใหญ่ในการรวมประเทศต่าง ๆ เข้ามาช่วยกัน หากต่างประเทศเข้ามาช่วยกับเราแล้ว จะเห็นว่าเราคือผู้ถูกกระทำอย่างชัดเจน อย่างสหรัฐอเมริกาเก่งในเรื่องการดูเส้นทางเงิน หากเข้ามาดูก็จะเห็นแล้ว ในขณะเดียวกัน การเปิดรับจีนที่เก่งเรื่องยุปกรณ์ต่างๆ และการอพยพ ก็ให้มาช่วยดูแลระบบนี้ทั้งระบบ และใช้เทคโนโลยีไซเบอร์ในการป้องกันประเทศ ก็จะลดการเสี่ยงอันตรายของทหาร สิ่งเหล่านี้ต้องทำขนานกันไป และตนเองมั่นใจว่าเมื่อเราตัดวงจรสแกมเมอร์ได้ครบแล้ว เรื่องนี้จะน้อยลง และสิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากการที่เราไปจัดการสแกมเมอร์

ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาว สุดท้ายแล้วต้องเดินเรื่องการทหาร พร้อมกับการทูต ต้องมีสัดส่วนเท่ากัน ทุกครั้งที่มีการเจรจา ต้องมีการร่วมมือของทหารเข้าไปด้วย โดยต้องเป็นการเจรจาแบบสองฝ่าย จะมีผู้สังเกตการณ์ก็ได้ แต่ต้องไม่ยกระดับเรื่องนี้เป็นเรื่องนานาชาติ เป็นเรื่องที่เราบริหารจัดการได้ ตามกรอบโลกล้อมกัมพูชา ทำทุกอย่างให้ถูกต้อง ซึ่งสันติภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความสำคัญกับประเทศไทยที่เราเป็นศูนย์กลาง ดังนั้น หากมีปัญหาในส่วนไหน ก็จะกระทบกับเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ และเราจะทำให้ประชาชนเห็นว่า สันติภาพในส่วนนี้ จะสามารถทำให้ทั่วโลกก้าวไปข้างหน้าได้

นายยศชนัน ย้ำว่า การปราบปรามสแกมเมอร์ เราต้องเป็นพี่ใหญ่ ต้องเป็นเป็นเจ้าภาพ เชิญต่างประเทศมาดู เพราะอธิปไตยนี้เป็นของเรา การทำแบบนี้ จะสามารถทำให้โลกล้อมผู้ร้ายได้ง่ายขึ้น และบางครั้งเราอยู่เฉย ๆ ทุกคนก็จะสามารถจัดการให้เรา เป็นสิ่งที่เรามีมีความจำเป็นต้องทำอย่างเร่งด่วน

ส่วนจุดยืนในการร่วมรัฐบาลนั้น เราพร้อมจับมือกับทุกพรรค ด้วยแนวทางที่มีการขับเคลื่อนนโยบายแบบเดียวกัน เราต้องการเสถียรภาพ ถ้าเราได้เป็นรัฐบาลที่มีเสียงข้างมากได้ก็ดี สามารถที่จะคุมเสียงได้ แต่หากจะต้องร่วมรัฐบาล จำเป็นต้องเลือกพรรคการเมืองที่จะมาร่วมกับเรา ต้องเป็นไปในแนวทางที่เราทำนโยบายที่สัญญากับพี่น้องประชาชนได้ ก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยที่ฟังเสียงพี่น้องประชาชนเป็นหลัก

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทย จะสามารถร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาชนได้หรือไม่ นายยศชนัน กล่าวว่า ได้หมด หากพูดถึงเรื่องแนวทางการทำนโยบายในทุกมิติ ไม่ว่าจะในเชิงสังคม เชิงการแก้รัฐธรรมนูญ เศรษฐกิจ ถ้าไปกันได้ ก็สามารถร่วมได้หมดทุกพรรค เช่นเดียวกับพรรคภูมิใจไทย หากในวันนี้มีมิติเดียวกันในการทำหลายสิ่งหลายอย่างให้พี่น้องประชาชน แล้วสามารถส่งมอบนโยบายออกไปได้ทันที ถ้ามีการตกลงกันเรื่องนี้ก็สามารถร่วมได้หมด

“ประเทศไทยณปัจจุบัน เราอยู่ในปัญหาที่หลากหลายมาก เป็นปัญหาใหญ่ นอกจากปัญหาเศรษฐกิจแล้ว ยังมีปัญหาทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ การเข้ามาของเทคโนโลยีต่าง ๆ สิ่งนี้เองทำให้พรรคเพื่อไทยตั้งเป้าว่า วันนี้เราจะเปลี่ยนโครงสร้างประเทศ ให้เป็นประเทศที่สามารถเติบโตได้ด้วยเศรษฐกิจรายได้สูง บนพื้นฐานของประชาชน สิ่งที่ต้องทำคือเราจำเป็นต้องทำให้พี่น้องประชาชน กินดี อยู่ดี พี่น้องชาวรากหญ้าเป็นส่วนสำคัญ พี่น้องที่เคยทำงานอยู่ จะทำงานได้ง่ายขึ้น และสร้างโอกาสใหม่ ๆ สุดท้ายคือการสร้างความเชื่อมั่นดูแลเรื่องคน เรื่องโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ทำให้ประเทศไทยไปข้างหน้าได้“ นายยศชนัน กล่าวทิ้งท้าย

Related Posts

Send this to a friend