PEOPLE

‘กิ๊ป ต้นน้ำเพชร’ นักสู้หญิงแห่งบางกลอย

นางกิ๊ป ต้นน้ำเพชร ชาวบ้านบางกลอย 1 ใน 22 ซึ่งถูกจับในข้อหากระทำผิดฐานยึดถือหรือครอบครองที่ดิน แผ้วถาง เผาป่าหรือกระทำใดๆ ให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ไปจากเดิม และถูกนำตัวไปคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางเขากลิ้ง จ.เพชรบุรี 2 คืน ได้เล่าสถานการณ์ตอนที่เจ้าหน้าที่อุทยานแก่งกระจานขึ้นไปจับกุมเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ให้สำนักข่าว The Reporters ฟังว่า 

นี่เป็นเนื้อหาบางช่วง บางตอน ที่เธอเล่า

“มีเจ้าหน้าที่เกลี้ยกล่อม ครั้ง 3 แต่ไม่ลงมา จนครั้งที่ 4 ตอนที่เขายังไม่เห็นผู้นำหมู่บ้านขึ้นไปก็จะใช้ความรุนแรงกับเรา เช่น ดึงกระชาก เมื่อผู้ใหญ่บ้าน (บางกลอย) เข้ามาเขาก็ทำเป็นอ่อนน้อมถ่อมตนกับชาวบ้าน” 

“เขาใช้ความรุนแรงกับพวกเรา บางคนถูกเจ้าหน้าที่อุทยานเอาผ้ามัดไว้และพอมาถึงข้างล่างก็แอบเอาเก็บเพราะกลัวคนอื่นเห็น ชาวบ้านโดนมัด 5 คน”

“เราไม่ได้ปั๊มลายนิ้วมือเพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด พื้นที่ที่เราไปทำไร่ เป็นไร่ซากของบรรพบุรุษ เราไม่ได้ไปรุกพื้นที่ใหม่ ต้นไม้ยังขึ้นเหมือนเดิม เราไม่ได้ใช้รถไปไถ เราใช้ครอบครัววัดว่าจะถางไร่ได้เท่าไร ไม่ได้วัดว่าใครได้พื้นที่กี่ไร่ แต่ภาพที่มองไร่ซากกว้างเพราะหลายครอบครัว เราไม่ได้ทำลายป่า ถ้าเราทำลายป่า ปู่ย่าบรรพบุรุษอยู่มานานทำไมป่าไม่หาย แต่คนกรุงเทพป่าหายไปไหนหมด”

เหมือนกับเราถูกหลอก เราไปยื่นหนังสือมาแล้ว รัฐมนตรีก็รับปาก

นางกิ๊ป ต้นน้ำเพชร

“ครั้งนี้ก็ใช้ความรุนแรงเหมือนปี 54 เพียงแต่ครั้งนี้ไม่มีเผาบ้าน เพราะยังไม่ได้สร้างบ้าน เรื่องโทรศัพท์พอเจ้าหน้าที่ไปถึงก็ยึดไปหมดเลย ขนาดโทรศัพท์ของช่วยผู้ใหญ่บ้านยังถูกยึด เขาไม่ยอมให้ถ่ายภาพ  เจ้าหน้าที่จะดูว่าถ่ายอะไรไว้บ้าง อันไหนที่ดูรุนแรงเจ้าหน้าที่ก็ลบออก” 

“ออกจากเรือนจำครั้งนี้เราก็จะกลับขึ้นไปอีก เป็นพื้นที่บรรพบุรุษ ขึ้นไปอีกถ้าจะจับก็ยิงเลย ไม่ต้องเอามาติดคุกให้ทรมาน รู้สึกโกรธแค้นมาก ลูกต้องอดนม”

ออกจากเรือนจำครั้งนี้เราก็จะกลับขึ้นไปอีก เป็นพื้นที่บรรพบุรุษ ขึ้นไปอีกถ้าจะจับก็ยิงเลย ไม่ต้องเอามาติดคุกให้ทรมาน รู้สึกโกรธแค้นมาก ลูกต้องอดนม

นางกิ๊ป ต้นน้ำเพชร

“ตอนแรกเราเรียกร้องให้ลูกอยู่กับแม่ในห้องขังเพราะเด็กยังไม่อดนม อายุแค่ 7 เดือน แต่เขาไม่ยอม พอออกไปเด็กเป็นไข้เพราะไม่เคยกินนมผง ตอนแรกที่ขึ้นไป ถ้าจับก็จับให้หมด ยิงก็ยิงให้หมด เราจะได้ไม่ลงมา สุดท้ายก็จับแค่ครึ่งเดียว ชาวบ้านยอมตายหมดทุกคน ถ้าตายที่บ้านดีกว่าเราต้องมาตายเพราะความลำบากในพื้นที่จัดสรร” 

“พื้นที่จัดสรรทำไร่หมุนเวียนไม่ได้ ต้องทำซ้ำๆ ไม่สอดคล้องวิถีชีวิต ต้องใช้ยาใช้ปุ๋ย เราเคยปลูกกล้วย ปลูกมะนาว น้ำไม่ถึงก็ตาย”

“เรารู้ว่าเขาไม่ให้เราขึ้น แต่เราจะขึ้น”

Related Posts

Send this to a friend