‘ภราดร’ เผย เร่งระบายน้ำลงทุ่ง 2 ฝั่ง รับ ยันเร่งเยียวยาน้ำท่วม
‘ภราดร’ เผยเขื่อนภูมิพลจ่อเต็มความจุใน 2 วัน เร่งระบายน้ำลงทุ่ง 2 ฝั่ง หวั่นกระทบพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา – ยันเร่งเยียวยาผู้เดือดร้อน
วันนี้ (11 พ.ย. 68) นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุมการบริหารจัดการน้ำเมื่อวานนี้ ว่า ประเมินสถานการณ์การค่อนข้างน่าเป็นห่วงและตัวเลขที่ประเมินกัน คือ ประมาณ 90 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ขณะที่การระบายของเขื่อนภูมิพล ประมาณ 45 – 48 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน นั่นหมายความว่าเกินเขื่อนภูมิพล จะต้องรับน้ำสะสมประมาณ 40 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ขณะที่ความจุของเขื่อนเหลืออยู่ที่ประมาณ 100 กว่าล้านลูกบาศก์เมตร นั่นหมายความว่าหากปล่อยสถานการณ์แบบนี้ไปอีก 3 วัน เขื่อนภูมิพลจะเต็มความจุ แต่ก็เหลืออีก 2 วัน จากนี้ เขื่อนก็จะเต็ม และ หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เขื่อนภูมิพลจะต้องระบายน้ำเพิ่มเพื่อป้องกันไม่ให้เขื่อนเต็มจาก 45 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน อาจจะต้องระบายขึ้นไปอีก 50 – 55 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวันเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้เขื่อนเต็ม ดังนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ระดับน้ำในแม่น้ำปิงจนถึงแม่น้ำเจ้าพระยาจะต้องสูงขึ้นโดยอัตโนมัติ และสถานการณ์ด้านล่างก็ที่แย่พอสมควรแล้ว กรมชลประทานจะระบายน้ำ อยู่ที่ 2,800 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน หากเป็นแบบนั้น ต้องหาวิธีการในการระบายน้ำเพิ่ม ซึ่งได้มีการพูดคุยหาทางแก้ไข โดยไปดูที่เขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งปริมาณน้ำในเขื่อนยังไม่มากเท่าเขื่อนภูมิพล ทำให้สามารถลดการระบายน้ำ ของเขื่อนสิริกิติ์ได้ ทำให้การเติมน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาลดลงได้ โดยกรมชลประธานได้ตกลงและรับปากว่า จะระบายน้ำออกทางฝั่งตะวันตกและตะวันออกมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อเขื่อนภูมิพลที่ระบายเพิ่ม จะทำให้การระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาคงอยู่ที่ระดับเดิมได้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อมาคือพื้นที่ซ้ายและขวา ทั้งฝั่งตะวันตก และตะวันออก ที่รับน้ำอาจจะได้รับผลกระทบบ้าง ซึ่งได้กำชับ ว่าการปล่อยน้ำเข้าทุ่ง โดยได้กำชับว่าต้องเข้าไปในปริมาณที่พอสมควร ไม่ให้ชาวบ้านที่อยู่ในทุ่งต้องเดือดร้อน เป็นพื้นที่เก็บน้ำชั่วคราว ถ้าน้ำในระดับแม่น้ำเจ้าพระยาลงแล้ว ก็ปล่อยน้ำจากทุ่ง
ส่วนได้มีการพูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ จ.อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา แล้วหรือไม่ หลังชาวบ้านทะเลาะกัน นายภราดร ยอมรับว่า ใช่ จึงเป็นเหตุทำให้ต้องมีการพูดคุยกันเมื่อวาน ร่วมกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งเฝ้าดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหาแนวทางแก้ไขสถานการณ์อย่างเร่งด่วน ส่วนมาตรการเยียวยาเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องเยียวยาอยู่แล้ว โดยจะเร่งทยอยอนุมัติเป็นล็อต ๆ เพื่อไม่ให้เสียเวลา ขณะนี้กำลังพิจารณามาตรการเพิ่มเติมเพื่อดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบยาวนาน เช่น จ.อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ที่อยู่ในน้ำหลายเดือน ที่เป็นมาตรการช่วยเหลืออยู่แล้ว
ส่วนมีการพูดถึงน้ำที่จะเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพมหานครหรือไม่ นายภราดร ระบุว่า อย่างที่เห็นถ้าไม่เร่งระบายน้ำหาที่เก็บหรือที่อยู่ให้น้ำ น้ำถึงกรุงเทพมหานครแน่นอน จึงจำเป็นต้องนำน้ำไปเก็บในระบบชลประทานคือในทุ่งให้ได้มากที่สุด
นายภราดร ยังกล่าวถึงการพิจารณามาตรการในการช่วยเหลือประชาชนเพิ่มเติม เช่น การดีดบ้าน ด้วยว่า กำลังพิจารณากันอยู่ รวมถึงพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะ จ.พระนครศรีอยุธยา และ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง และอีกหลายอำเภอ
