’โฆษก กต.‘ เผย ‘มาริษ’ แจง UN ปมกัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดในเขตไทย
’โฆษก กต.‘ เผย ‘มาริษ’ แจง UN ปมกัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดในเขตไทย กระทบทหาร-พลเรือน ย้ำ ไทยยึดมั่นอนุสัญญาออสตาวา-กฎหมายมนุษยธรรม
วันนี้ (28 ส.ค. 68) ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ที่นครเจนีวา เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ลอบวางทุ่นระเบิด และการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ โดยฝ่ายกัมพูชาให้นานาประเทศ และประชาคมระหว่างประเทศได้ทราบ ซึ่งเมื่อวานนี้ (27 ส.ค. 68) นายมาริษ ได้พบกับ นางสาวอิชิกาวะ โทมิโกะ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรญี่ปุ่นประจำการประชุมด้านการลดอาวุธ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรืออนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 โดยมี นางสาวแคโรลีน เมลานี เรกิมบัล หัวหน้าสำนักงานกิจการลดอาวุธแห่งสหประชาชาติ (UNODA) ณ นครเจนีวา เข้าร่วมหารือ รวมทั้งได้พบกับเอกอัครราชทูตประเทศต่าง ๆ ในคณะกรรมการการปฏิบัติตามอนุสัญญาออตตาวา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ในกรอบอนุสัญญา
นายมาริษ กล่าวอีกว่า ความมุ่งมั่นของไทยในการปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาออตตาวา โดยได้แบ่งปันข้อมูลสำคัญ และพัฒนาการล่าสุดเกี่ยวกับสถานการณ์ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การค้นพบทุ่นระเบิดใหม่ที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางไว้ในพื้นที่อธิปไตยของไทย ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บและทุพพลภาพจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา ฝ่ายไทยเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศดำเนินการทุกอย่างที่จะนำกัมพูชากลับสู่การปฏิบัติตามอนุสัญญาอย่างสมบูรณ์ในฐานะรัฐภาคีที่มีความรับผิดชอบ รวมทั้งร่วมมือกับไทยในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด
ทั้งนี้ นายนิกรเดช กล่าวว่า นายมาริษได้ประกาศเข้าร่วมโครงการรณรงค์ของเลขาธิการสหประชาชาติว่าด้วยการลดอาวุธเพื่อมนุษยธรรม และปฏิบัติการทุ่นระเบิด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันยาวนานของไทยต่อการลดอาวุธเพื่อมนุษยธรรม และกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ยังได้เข้าพบกับ นางนาดา อัลนาชีฟ รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ซึ่งได้ชี้แจงพัฒนาการล่าสุดในสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาเพิ่มเติมจากที่ไทยเคยมีหนังสือถึงข้าหลวงใหญ่ฯ มาแล้ว 2 ฉบับ ร้องเรียนการละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ และตราสารสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศที่สำคัญ โดยกัมพูชา เช่น กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ รวมถึงการลักลอบวางทุ่นระเบิดในเขตไทย รวมถึงการใช้พลเรือน สตรี และเด็ก เป็นแนวหน้ายั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้าบริเวณชายแดน
นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า นายมาริษได้แสดงความยึดมั่นของไทยต่อข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยกัมพูชา และเห็นพ้องกับข้าหลวงใหญ่ฯ ที่แสดงความห่วงใย และตอกย้ำพันธกรณีระหว่างประเทศ ด้านสิทธิมนุษยชน ภายใต้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมือง ที่กำหนดให้รัฐห้ามโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อการสงคราม อีกทั้งได้แสดงความห่วงกังวลต่อการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ และบิดเบือนที่อาจทำให้เกิดการเผชิญหน้ามากขึ้น
นอกจากนี้ นายนิกรเดช ยังกล่าวอีกว่า ในวันนี้ นายมาริษจะพบหารือกับประธานคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ เพื่อแจ้งถึงการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ รวมถึงอนุสัญญาเจนีวาของฝ่ายกัมพูชาจากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายต่อพลเรือน และสถานที่พลเรือน จนเป็นเหตุให้พลเรือนผู้บริสุทธิ์ต้องบาดเจ็บ และเสียชีวิตหลายคน












