นายกฯ เผย ที่ดินโรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ

ยัน ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะรัฐบาลเอาจริง บอก เฟส 3 ดิจิทัล วอลเล็ตเต็มรูปแบบ เชื่อ รัฐบาลนี้ ปกก็ตรง เป้าก็โดน

วันนี้ (25 มี.ค.68) การประชุมสภาผู้แทนราษฎร​ ครั้งที่ 26 พิจารณาเรื่องด่วน ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า ผ่านการอภิปรายมาแล้วหนึ่งวัน ฝ่ายค้านก็บอกว่าอยากให้ตนเองชี้แจงยาว ๆ หน่อย ซึ่งก็จะพยามชี้แจง และใช้เวลาของสภาฯ ให้คุ้มค่าที่สุด และอีกเหตุผลคือหลายท่านอภิปรายไปแล้วเมื่อวาน ได้อภิปรายถึงคนอื่น เรื่องของรัฐบาลชุดอื่น ไม่แน่ใจว่า จะตอบอย่างไรดี ซึ่งจะขออภิปรายในเรื่องของการครอบครองที่ดินโรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ ซึ่งมีรัฐมนตรีได้ชี้แจงไปแล้วทุกอย่างเป็นไปตามกฏหมาย ธุรกิจบริษัทของครอบครัวตอนนี้ทุกอย่างทำถูกต้องตามกฏหมายทั้งหมดในการประกอบกิจการโรงแรม เช่นเดียวกับผู้ประกอบการอื่น ๆ ในบริเวณนั้นซึ่งจริง ๆ ก็หาข้อมูลไม่ยากเพราะติดถนนเลย

นายกรัฐมนตรี ขอยืนยันว่า การประกอบการกิจการทำธุรกรรมใด ๆ ของครอบครัว เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ

ส่วนการอภิปรายเรื่องคอลเซ็นเตอร์ รัฐบาลได้ปฏิบัติการ และทำไปไกลกว่านั้นเยอะแล้ว โดยได้แก้ปัญหาไปได้ไกลมากพอสมควรแล้ว ถือว่าดี และเป็นประโยชน์ที่ได้อภิปรายเพื่อมาช่วยสรุปข่าว โดยการแก้ไขปัญหาเรื่องคอลเซ็นเตอร์ ได้ทำต่อเนื่องมาตั้งแต่ในสมัยยุครัฐบาลเศรษฐา มีการประสานมือ ประสานงาน ประสานแรง กำลังต่าง ๆ กับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งเมียนมา จีน กัมพูชา การปราบปราม การตัดไฟ ซึ่งตนเองได้เคยมาตอบไปแล้วในการตั้งกระทู้ถามสดที่สภา

เรื่องการตัดสัญญาณ ได้มีคำชมอย่างทันทีภายหลังหลังจากที่ตนเองเดินทางไปที่ประเทศจีนทันทีที่ตนเองไปเจอ ก็ได้รับคำชมว่าตัดสินใจเด็ดขาดมาก และดำเนินการอย่างรวมเร็ว ก็ได้คำชมจากสีจิ้นผิง จึงเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทุกคน โดยทางการจีนมีการสนับสนุนข้อมูลและการข่าวต่าง ๆ ซึ่งในวันนี้ก็พูดได้ว่าปัญหาคอลเซ็นเตอร์ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด มาจากความร่วมมือจากทุกประเทศที่เราขอความร่วมมือ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่เรามีความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน และให้ความร่วมมือกับเราอย่างเต็มที่

ส่วนเรื่องการซีลชายแดน เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะต้องขอความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน เพราะถ้าเราทำเดี่ยว ๆ จะเกิดความขัดแย้ง และเรื่องนี้ได้ผลดีมาก ๆ เราทำงานเป็นทีม และหวังว่าฝ่ายค้านคงเข้าใจการทำงานแบบทีมเวิร์ค และให้เกียรติซึ่งกันและกัน

กระทรวงดีอี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีววาการกระทรวงดีอี ได้ตั้งศูนย์ AOC 1441 เพื่อเป็นศูนย์กลางในการทำงานบูรณาการร่วมกัน รับแจ้งเหตุจากพี่น้องประชาชน ตลอด 24 ชั่วโมงจำนวน 100 คู่สาย ซึ่งสามารถระงับบัญชีม้าไปได้กว่า 1.92 ล้านบัญชี มีระบบติดตามบัญชีที่มีการทำธุรการที่ผิดปกติ ยกระดับการตรวจสอบการเปิดบัญชีใหม่ ตรวจสอบประวัติมากขึ้น เพื่อป้องกันต่อไปในอนาคตในการเปิดบัญชีม้า มีขั้นตอนมากมายที่ทำให้เปิดบัญชียากขึ้น และกวาดล้างซิมม้า 2.4 ล้านเลขหมาย และระงับซิมต้องสงสัย 2.8 ล้านเลขหมาย และมีการตรวจสอบ Mobile Banking จำนวน 3.176 ล้านเลขหมาย ตั้งแต่มีมาตรการที่จริงจังในการตัดน้ำ ไปจนตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต สถิติแจ้งคดีอาชญากรรมออนไลน์ทั้งหมดของประเทศไทยลดลงไป 20% โดยเฉพาะคดีคอลเซ็นเตอร์ ความเสียหายลดลงกว่า 50% ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ยืนยันว่า รัฐบาลจะทำให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น และเรื่องนี้ก็เร่งรัดเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ประมาณเกือบ 2 เดือนแล้ว สำหรับร่างพ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่อยู่ในขั้นตอนของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ส่วนเรื่องดิจิทัล วอลเล็ต ที่เป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาล ซึ่งเป็นที่ทราบว่าเรือธงเหล่านี้ กำลังเผชิญมรสุมการคัดค้านจากหลายองค์กร ซึ่งแน่นอนว่ารัฐบาลรับฟังความคิดเห็นต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นประโยชน์ก็รับฟัง ซึ่งสิ่งที่เป็นนโยบายใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นครั้งแรก จริง ๆ เราเคยชินกันอยู่แล้ว เพราะเราเป็นคนริเริ่มอะไรใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายในอดีตที่นำกลับมาใช้ใหม่ก็เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน

เราก็ไม่ได้อยากจะเอาขึ้นมาเพื่อจะเป็นการรำลึกความหลัง หรืออะไรอย่างเช่น โครงการ ODOS เป็นเรื่องของการศึกษาเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ ของประเทศเรา การเตรียมเด็ก และเยาวชนคนรุ่นใหม่เพื่อให้มีทักษะมีการศึกษาที่ดีที่พร้อมสำหรับอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ในอนาคต สำหรับการจ้างงานใหม่ ๆ อาชีพใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เรามีการลงทุนจากต่างประเทศมากมายที่เข้ามา และบีโอไอก็สูงสุดในรอบ 10 ปี ซึ่งเราต้องเตรียมพี่น้องประชาชน เพื่อที่จะให้เขามีการการศึกษา มีโอกาสที่เพิ่มมากขึ้น สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญถึงจะเป็นนโยบายที่เคยมีมาแล้ว แต่ว่าเราพยายามเพิ่มมิติใหม่ ๆ เพิ่มโอกาสให้คนกลุ่มใหม่ เพื่อที่จะได้ไม่เป็นคนกลุ่มเดียวหรือ โอกาสกระจายไม่ทั่วถึงพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเน้นย้ำ ว่าการเตรียมคนสู่โลกในอนาคตอีก 10 – 20 ปีข้างหน้า เราจะได้มีคนที่พร้อม ส่วนคนอายุปัจจุบันนั้น เราก็พยามแลกเปลี่ยนวิชาความรู้เวลาเราเอาบริษัทใหม่ ๆ มาบ้าง เขาก็สอนเราด้วยเราเรียนรู้จากเขา และเขารู้จักเราซึ่งถือเป็นทางลัดที่ทำให้คนมีศักยภาพที่ดีเพิ่มมากขึ้นถือเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก ๆ

“ดิจิทัล วอลเล็ต เราพยามประคับประคองอย่างดีเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเป้าหมายของเราคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้น ในสองรอบแรกเราจำเป็นจะต้องแจกเป็นเงินสด แม้จะถูกมองว่าไม่ตรงปก แต่ยืนยันว่าตรงเป้าแน่นอน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตามตัวเลขข้อมูลด้านเศรษฐกิจที่ท่านรัฐมนตรีได้พูดไปแล้วหลายรอบว่าทำให้เศรษฐกิจภาพรวมของประเทศดีขึ้น ส่วนการสื่อสารที่กำลังจะมาถึงก็จะเป็นดิจิทัล วอลเล็ต แบบเต็มรูปแบบ ซึ่งมีการพัฒนาระบบ และจะมีการลองใช้ให้ถูกต้อง รัดกุมอย่างดี เราจะมีการเริ่มต้นจากเยาวชนอายุ 16 – 20 ปี ซึ่งมีพลังในการบริโภค และมีความตื่นตัวทางเทคโนโลยี เรียนรู้รวดเร็ว ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการเรียนรู้ระบบต่าง ๆ ให้คุณพ่อคุณแม่ และอีกหลายหลายคนในบ้าน

“เป้าหมายระยะยาวของนโยบายนี้คือการยกระดับสังคมไทยเป็นสังคมดิจิทัล ดิฉันเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ภายในหนึ่งวาระของรัฐบาลนี้ จะเกิดผลเป็นรูปธรรม ปกก็ตรง เป้าก็โดน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เศรษฐกิจที่วิกฤตต่อเนื่องกันมาเป็น 10 ปี ถ้าทำแบบเดิมไม่มีวิธีการใหม่ ๆ อันนี้เป็นโอกาสที่เราจะพัฒนาได้ยาก เพราะฉะนั้นต้องมีการอัพเดทวิธีใหม่ และแนวของเศรษฐกิจด้วยดิจิทัลด้วยต้องมาควบคู่กัน