POLITICS

‘ทวี’ ไม่หวั่น สว.ยื่นถอน ชี้หากสอบสวนแล้วไม่ผิด ท่านจะสง่างาม

วันนี้ (7 มี.ค.68) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยืนยันถึงมติคณะกรรมการคดีพิเศษ (กพค.) รับคดีฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษฐานความผิดฟอกเงินว่า สามารถทำได้ เพราะจากการสอบสวนพยานสามารถเชื่อได้ว่ามีเงินสะพัดในการเลือก สว.กว่า 300 ล้านบาท มูลค่าเข้าข่ายเป็นการฟอกเงิน ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สามารถรับเป็นคดีพิเศษได้ด้วยเสียงเกินกึ่งหนึ่ง จึงไม่จำเป็นต้องพิจารณาความผิดเรื่องการจ้างให้ดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อั้งยี่ ซ่องโจร และความผิดฐานยุยงส่งเสริมไม่ให้ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ หรือการครอบงำอำนาจนิติบัญญัติ เพราะหากสืบสวนสอบสวนความผิดฐานฟอกเงินและพบการประทำที่เข้าข่ายความผิดเหล่านี้ รวมถึงความอาญาที่เกี่ยวข้อง กฎหมายก็ให้ถือเป็นคดีพิเศษไปได้เลย

เมื่อถามว่าหลักฐานอะไรที่ทำให้เชื่อได้ว่ามูลค่าเงินเกิน 300 ล้านบาท พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ใช้มูลฐานความเชื่อได้ว่า เช่น การออกหมายจับของศาล เขาให้ใช้หลักฐานพอสมควร กรณีนี้ใช้เกณฑ์ข้อบังคับของประธานศาลฎีกาในการออกหมายจับของศาลฎีกาที่บางครั้งใช้บันทึกสายลับไม่ได้มีการสอบพยานเลยก็ออกหมายจับได้ ดังนั้นในคดีนี้มีพยานยืนยันว่ามีการใช้เงิน 400-500 ล้านบาท

การจ่ายเงินเป็นช่วง ๆ เมื่อมีพยานจึงถือมูลฐานอันเชื่อได้ ที่ประชุมจึงมีมติรับเป็นคดีพิเศษตามกฎหมายฟอกเงิน ส่วนความผิดฐานอั้งยี่ การได้มาซึ่งสว. หรือการฮั้ว และความผิดอื่น ๆ เช่น ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งรัฐ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.116 (3) ที่มีการร้องทุกข์ไว้ หากมีความเชื่อมโยงก็ให้ถือเป็นคดีพิเศษ ซึ่งตอนนี้ดีเอสไอ มีพยานประมาณ 7,000 คน ซึ่งเป็นผู้ที่เข้าไปในพื้นที่การเลือก สว. ระดับประเทศที่เมืองทองธานี ถึง 3,000 คน เราก็จะดูพยานหลักฐานนี้โดยได้ส่งหนังสือขอให้พนักงานอัยการร่วมสอบสวนด้วย เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์และพิสูจน์ความผิดไม่ต้องห่วง โดยได้ให้นโยบายดีเอสไปแล้วจะต้องใช้เวลารวบรวมหลักฐานไม่เกิน 3 เดือน เพราะเขาสอบมานานแล้ว

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าการใช้เงินจูงใจให้เลือกเข้าข่ายเป็นการซื้อเสียงซึ่งอยู่ในอำนาจของ กกต. DSI ไม่ได้พยายามอ้างกฎหมายฟอกเงิน มันเหมือนบริษัทหลบเลี่ยงภาษีมันก็มีความผิดเป็นหลายกรรม แต่อันนี้เป็นความผิดอั้งยี่ มีการสมคบกันกระทำการไม่ชอบด้วยกฎหมายก็ถือเป็นหนึ่งความผิดแล้ว พร้อมกับปฏิเสธเรื่องการเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงเพื่อให้ได้คดีนี้มาอยู่ในมือ เพราะมีผู้มาร้องทุกข์และมีการสืบสวน และ กกต.เป็นฝ่ายมาขอให้เราทำ เราจึงต้องร่วมมือกับ กกต.และเมื่อพบพยานหลักฐานแล้ว กกต.ก็สามารถนำไปพัฒนาได้ และใช้ในการยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งเพื่อถอดถอนได้ คิดว่าหลักฐานที่มีการจ่ายเงินน่าจะถึง 20 คน ถ้า กกต.ร่วมมือกัน ซึ่งตอนนี้คิดว่าเขาร่วมมือเพราะเขาส่งหนังสือมา และเราไม่ได้ก้าวล่วงอำนาจเขาตราบใดที่เขายังไม่ยกเลิก DSI และตำรวจเข้าไปร่วมสืบสวนคดีฮั้วเลือก สว. เราก็พยายามรวบรวมพยานหลักฐานให้ เพราะอำนาจของ กกต.คือการเดินหน้าถอดถอนบุคคลที่ได้ซึ่งตำแหน่ง สว.โดยมิชอบ

พ.ต.อ.ทวี ยอมรับว่าไม่กังวลที่ สว.ตอบโต้ด้วยการยื่นถอดถอนจากตำแหน่งฐานกระทำความผิดด้านจริยธรรมอย่างร้ายแรง และเตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภา เพราะเรื่องความยุติธรรมไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่มีความสำคัญเท่ากัน แต่เรื่องนี้เราพิจารณาให้ดีมันกระทบต่อความมั่นคงด้านนิติบัญญัติ อำนาจในการออกกฎหมายก็ได้รับผลกระทบ จึงอยากเรียนถึง สว. ถ้าสอบสวนออกมาท่านมาผิด ก็จะได้สง่างาม ยืนยันจะไม่ใช่ความรู้สึกในการแก้ปัญหาจะใช้พยานหลักฐานเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลและไม่เกี่ยวกับรัฐมนตรี ต่อไปนี้จะเป็นเรื่องของพนักงานสอบ อัยการ และผู้ทรงคุณวุฒิ มาร่วมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ซึ่งต้องทำอย่างรวดเร็ว

Related Posts

Send this to a friend