รศ.นพ. ฉันชาย สิทธิพันธุ์ รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า วิกฤตโควิด-19 ได้สอนให้ทุกคนรู้จักการเตรียมตัวในการรับมือและป้องกันล่วงหน้า ในอนาคตจะกลายเป็นสภาวะใหม่ที่เกิดขึ้น ทุกคนต่างต้องระวังและป้องกันตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม เพื่อป้องกันหากมีโรคใหม่ที่ไม่ใช่โควิด-19 เข้ามาในอนาคต หลังจากนี้ก็จะเป็นยุค New Norm ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่ดีให้กับประชาชนทั่วไป หันมาใส่ใจในดูแลสุขอนามัยมากยิ่งขึ้น
นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 กลุ่มบริษัทกัลฟ์ได้ช่วยเหลือและทำโครงการอย่างรอบด้านรวมกว่า 50 ล้านบาทแล้ว อาทิ บริจาคเงินและอุปกรณ์ทางการแพทย์แก่คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลราชวิถี สถาบันบำราศนราดูร สถาบันโรคทรวงอก โรงพยาบาลตำรวจและโรงพยาบาลพุทธชินราช มอบเจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อแก่โรงพยาบาลขนาดเล็กในจังหวัดปัตตานี และจังหวัดยะลา บริจาคหน้ากากผ้าแก่ชุดปฏิบัติการคัดกรองผู้ป่วยระดับตำบล ในพื้นที่ 10 จังหวัด และอสม. รวมถึงดำเนินการมอบข้าวกล่อง 150,000 กล่อง ให้กับชุมชนแออัดในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร อีกทั้งร่วมกับกฟผ. มอบถุงยังชีพแก่ชุมชนในพื้นที่จ.นนทบุรี นอกจากนี้ยังขยายความช่วยเหลือไปยังช้างไทย สู้ภัยโควิด-19 ผ่านการบริจาคให้แก่โครงการโอบช้าง ทั้งนี้กลุ่มบริษัทกัลฟ์มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและสนับสนุนประเทศไทยในการบรรเทาผลกระทบของโควิด-19 ต่อไป