‘อิสราเอล’ หวัง 4 วันนี้ ‘ฮามาส’ ปล่อยตัวประกัน 50 คนแรก

เป็นเด็ก-ผู้หญิงอิสราเอล เพื่อคืนผู้ต้องขังปาเลสไตน์ 150 คน เปิดเงื่อนไขพักรบ 1 วันแลกตัวประกัน 10 คน ย้ำสงครามยังมีต่อไป ตามเป้าหมาย “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” พาตัวประกันทุกคนกลับบ้าน

เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 66 เวลา 18:00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศอิสราเอล ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง นายเอลอน ลีวี โฆษกรัฐบาลอิสราเอล แถลงข่าวประจำวัน เกี่ยวกับความพยายามในการนำตัวประกันออกจากฉนวนกาซา

นายเอลอน แถลงว่า เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 23 พ.ย. 66 รัฐบาลอิสราเอลเห็นชอบกรอบการปฏิบัติเพื่อนำตัวประกันทั้ง 240 คนกลับมา กรอบดังกล่าวได้รับความเห็นชอบโดยรัฐบาล และคณะรัฐมนตรี ตลอดจนได้รับการแนะนำโดยกองกำลังความมั่นคง ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเข้ามามีส่วนร่วมตามคำขอของนายกรัฐมนตรีอิสราเอล ในการนี้ จึงขอขอบคุณประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอย่างยิ่ง สำหรับการมีส่วนเกี่ยวข้องครั้งนี้

แผนระยะที่ 1 อิสราเอลคาดหวังจะเห็นฮามาสปล่อยตัวประกันเด็กและผู้หญิงชาวอิสราเอล 50 คน โดยแบ่งการปล่อยตัวเป็น 4 รอบ รอบละอย่างน้อย 10 คนโดยยังมีชีวิตอยู่ แล้วจึงจะมีการปล่อยผู้ต้องขังคดีความมั่นคงชาวปาเลสไตน์ 150 คนภายหลังเป็นการแลกเปลี่ยน ในห้วงการพักรบชั่วคราวเป็นระยะเวลา 4 วัน

แผนระยะที่ 2 หลังจากฮามาสปล่อยตัวประกัน 50 คนแรกแล้ว สำหรับตัวประกันทุก ๆ 10 คนที่ฮามาสปล่อยออกมา จะมีประกาศวันพักรบเพิ่ม 1 วัน และเมื่อมีการปล่อยตัวประกันครบอีก 50 คนในระยะที่ 2 รวมเป็นทั้งหมด 100 คนแรกแล้วนั้น จะมีการปล่อยผู้ต้องขังคดีความมั่นคงอีก 150 คน ตามสัดส่วนเดิม

ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งกลับตัวประกันทุก ๆ 10 คนต่อรอบ ก็จะเพิ่มวันพักรบให้ 1 วัน

สำหรับพิกัดการปล่อยตัวนั้น อิสราเอลจะยืนยันรายละเอียดการส่งตัวอีกครั้งว่า จะได้รับการปล่อยตัวประกันจากช่องทางใด เพราะสถานการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นและซับซ้อนมาก

อย่างไรก็ตาม เมื่อกองทัพอิสราเอลได้รับตัวประกันมาแล้ว ก็จะส่งตัวประกันที่ได้รับการช่วยเหลือ ไปเข้ารับการวินิจฉัยทางการแพทย์ในโรงพยาบาล เนื่องจากที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่กาชาดไม่อาจเข้าถึงตัวประกันในพื้นที่ได้ จึงไม่อาจทราบข้อมูลสุขภาพใด ๆ เกี่ยวกับตัวประกันเลย เราหวังว่าพวกเขาจะกลับมาสู่อ้อมกอดของครอบครัวได้อีกครั้ง

นายเอลอน ยังกล่าวถึงการปล่อยผู้ต้องขังชาวปาเลสไตน์เป็นการแลกเปลี่ยนนั้นว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมอิสราเอล เปิดเผยรายชื่อผู้ต้องขังคดีความมั่นคง 300 คนที่มีโอกาสได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ ตามเงื่อนไขหากฮามาสปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลครบ 100 คน โดยคณะรัฐมนตรีฝ่ายสงคราม (War Cabinet) จะตรวจสอบว่า เงื่อนไขของแต่ละรอบการปล่อยตัวประกันนั้นเป็นไปโดยสมบูรณ์ก่อนจะปล่อยคืนผู้ต้องขังคดีความมั่นคงเหล่านั้น

ทั้งนี้ ครอบครัวของผู้เสียหายจากผู้ต้องขังในคดีความมั่นคงเหล่านั้น มีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านการปล่อยตัวผู้ต้องขังต่อศาลฎีกาภายใน 24 ชั่วโมง โดยข้อหาในคดีความมั่นคงเหล่านั้นคือ ข้อหากระทำอาชญากรรมรุนแรง ข้อหาการก่อการร้าย ข้อหาพยายามฆ่า และข้อหาทำร้ายร่างกายให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งรวมถึงจำเลยที่ก่อเหตุโจมตีอย่างโหดร้าย ไล่แทงพลเรือนและตำรวจอิสราเอล จนได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วย

นอกจากนี้ นายเอลอน ยังย้ำว่า อิสราเอลยังคงอยู่ในภาวะสงครามกับฮามาส ที่ฮามาสก่อขึ้นจากการสังหารหมู่เมื่อวันที่ 7 ต.ค. สงครามจะดำเนินต่อไปจนกว่าอิสราเอลจะบรรลุเป้าหมาย ได้แก่

1.ทำลายฮามาส

2.ทำให้มั่นใจว่า กาซาไม่อาจคุกคามชาวอิสราเอลได้อีก

3.พาตัวประกันทั้งหมดกลับบ้าน

ดังนั้น การโจมตีในกาซายังคงดำเนินต่อไป เพื่อทำลายกองกำลังก่อการร้ายของฮามาสและญิฮาดอิสลาม ตลอดจนศักยภาพในการปกครอง อิสราเอลกำลังต่อสู้เพื่อพาตัวประกันทั้งหมดกลับบ้าน จะไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง รัฐอิสราเอลตระหนักในความรับผิดชอบที่จะพาตัวประกันทั้งหมดกลับบ้าน ไม่ว่าชายหรือหญิง เด็กหรือแก่ พลเรือนหรือทหาร

“นั่นคือเป็นหน้าที่ของเราในฐานะรัฐ และนั่นคือหน้าที่ของเราด้วยจริยธรรมสูงสุดของชาวยิว … ไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง” โฆษกรัฐบาลอิสราเอล กล่าว