‘ทูตไทยในอิสราเอล’ ขอแรงงานที่จะกลับไทยยืนยันโดยด่วน หลังพบมีบางคนทิ้งตั๋ว

‘ทูตไทยในอิสราเอล’ ขอแรงงานที่จะกลับไทยยืนยันโดยด่วน หลังพบมีบางคนทิ้งตั๋ว และที่ยังอยู่ในที่เสี่ยงภัยขอให้เร่งอพยพ

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2566 น.ส.พรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เปิดเผยกับ The Reporters ถึงความคืบหน้าในการอพยพคนไทยจากอิสราเอล โดยได้พาติดตามการทำงานของศูนย์อพยพคนไทย ที่โรงแรม David Intercontinental ซึ่งเปิดเป็นศูนย์แรก และได้ขยายศูนย์พักพิงไปแล้ว 8 แห่ง ซึ่งเป็นโรงแรมในกรุงเทลอาวีฟ

เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เปิดเผยว่านับตั้งแต่เปิดศูนย์อพยพฯ มีแรงงานไทยลงทะเบียนเดินทางกลับแล้วประมาณ 8,000 คน และเดินทางมาถึงที่ศูนย์อพยพฯ แล้ว กว่า 2,000 คน เดินทางกลับไปแล้ว 11 เที่ยวบิน เป็นจำนวนกว่า 1,600 คน

“รัฐบาลพร้อมเปิดเที่ยวบิน อยากให้เดินทางกลับค่ะ เพราะสถานการณ์ไม่แน่นอน การรักษาชีวิตจึงสำคัญที่สุด ถ้าท่านไม่เดินทาง รัฐบาลจะเสียเงินไปฟรีๆ ทำให้คนที่รอขึ้นเครื่องรอไปอีก ตอนนี้เป็นปัญหาที่เริ่มกังวล เพราะมีคนยกเลิกตั๋วไม่เดินทางกลับ”

เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เปิดเผยว่า ขณะนี้พบปัญหาแรงงานไทยที่ลงทะเบียนแล้วยกเลิกเดินทาง เพราะคิดว่าสถานการณ์สงบลง แต่จริงๆ แล้วไม่ได้สงบ เพราะตามข่าวสารในหลายช่องทางบอกว่า สงครามภาคพื้นดินจะเกิด ขึ้น ถ้าอพยพช่วงนั้นจะลำบาก จึงอยากให้ยืนยันการเดินทางมายังสถานทูตฯ โดยด่วน ผ่านการกรอกแบบฟอร์มที่เผยแพร่ในเฟซบุ๊กของสถานทูตฯ

https://www.facebook.com/100064424930447/posts/723963699761121/?mibextid=K8Wfd2

“เราส่งคนไปรับในพื้นที่สีแดง พอไปถึงหลายคนไม่ออกมา ไม่ยอมกลับ ก็อยากวิงวอนอยากให้เร่งออกจากพื้นที่รัฐบาล พร้อมช่วยเหลือทุกคน ขอให้เป็นคนไทย ยืนยันการเดินทางเถอะค่ะ เราพร้อมส่งท่านกลับแน่นอน โดยเฉพาะในพื้นที่สีแดงขอให้เร่งอพยพออกมาดีกว่าค่ะ”

น.ส.พรรณนภา เปิดเผยว่า สถานทูตฯ และรัฐบาลไทยทำอย่างเต็มที่ จะทำให้คนไทยกลับบ้านอย่างปลอดภัย ต้องขอขอบคุณรัฐบาลจริงๆ ที่สนับสนุนทุกอย่างให้กับสถานทูต ซึ่งน่าจะเป็นรัฐบาลประเทศเดียวที่ให้คนไทยได้กลับฟรีๆ เพราะหลายประเทศที่อพยพต้องจ่ายค่าเดินทางกันเอง

ส่วนระบบในการจัดส่งคนไทย เริ่มเข้าที่ กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงแรงงานส่งคนมาช่วย จากที่ในสัปดาห์แรก มี 6 คน เป็นเจ้าหน้าที่ของสถานทูตฯ อาจจะมีปัญหาบ้าง แต่ขณะนี้วางระบบได้มากขึ้น สามารถแจ้งได้ว่า มาพักที่ไหน เที่ยวบินไหน และตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.66 มี 3 เที่ยวต่อวัน ทางศูนย์ฯพร้อมนำคนกลับ 600-700 คน จากเดิมมีคนลงทะเบียน 8,000 แต่เกือบ 7 เปอร์เซ็นต์ ยกเลิกไม่เดินทาง จึงยากที่จะคาดเดาว่าในที่สุดแล้วยังเหลือคนไทยกลับกี่คน

เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เปิดเผยด้วยว่าได้เปิดศูนย์พักพิง โดยที่โรงแรมเดวิดฯ เป็นศูนย์ใหญ่ ได้ขยายไป 8 แห่ง เพื่อรองรับแรงงานมารอพักก่อนขึ้นเครื่อง เพื่อให้กลับไทยได้เร็วที่สุด

“อยากให้มาโดยเร็วที่สุดในขณะที่เราจัดการได้ เพราะไม่รู้ว่าสงครามจะถึงไหน อย่างประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เลบานอน เริ่มอพยพคนต่างชาติออกแล้ว เริ่มมีสัญญานว่ารุนแรงมากขึ้น ถ้าส่งเครื่องบินมาไม่ได้ ทุกคนจะติดอยู่ที่นี่ พี่น้องชาวไทยติดต่อสถานทูตมาโดยเร็ว ถือว่าได้กลับไปพัก ถ้าสถานการณ์สงบ ทางอิสราเอลบอกแล้วว่าจะรับกลับมาทำงานแน่นอน”

น.ส.พรรณนภา เปิดเผยว่าที่ศูนย์พักพิงมีที่พักมีอาหารระหว่างรอมีการจัดรถพาไปสนามบิน เราทำครบวงจร แม้กระทั่งเอกสารเดินทางที่หลายท่านไม่มี เรามีจัดทำให้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายด้วย

“เราวางแผนเที่ยวบินไว้แค่สิ้นเดือน หลายคนเริ่มลังเลใจ ทำให้วางแผนต่อลำบาก พอคิดว่าเงียบลงก็อยากทำงานต่อ ดังนั้นไม่ว่าจะอยู่ที่นี่อย่างถูกกฎหมายหรือผิดกฎหมาย เรารับกลับหมด เราพาทุกคนกลับ“

เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทพอาวีฟ เปิดเผยว่าในพื้นที่สีแดง ชายแดนฉนวนกาซ่า ที่มีคนไทยประมาณ 5,000 คน เดินทางออกมาแล้ว แต่น่าจะคงเหลือหลายร้อยคนที่ยังไม่ออกมา จึงขอเน้นย้ำให้เร่งอพยพโดยด่วนเพื่อความปลอดภัย

“ในพื้นที่สีแดงยังมีเป็นร้อยคน อย่างที่ทราบว่ายังไม่อยากกลับเพราะมีหนี้สิ้นก็เข้าใจ แต่การรักษาชีวิตเพื่อกลับไปพบพ่อแม่พี่น้องสำคัญมากกว่า เพราะอิสราเอล ย้ำว่าจะรับกลับมาทำงานอยู่แล้ว”

เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ย้ำว่า ใครที่อยากกลับขอให้มาที่ศูนย์พักพิง มาพักรอที่นี่ ทางสถานทูตฯ ดูแลอย่างดี ถ้ากลับบ้านปลอดภัยแล้ว อยากเปลี่ยนหานายจ้าง กลับมาทำงานต่อไปได้ ถือเป็นทางเลือกของทุกคน และขอย้ำว่าความปลอดภัยของทุกคนสำคัญที่สุด ถ้าไม่คำนึงความปลอดภัยของตัวเอง ก็ขอให้คิดถึงครอบครัว เพราะเราบังคับให้ขึ้นเครื่องไม่ได้

สำหรับวันที่ 21 ตุลาคม 2566 ยังจะมีเที่ยวบินอพยพของกองทัพอากาศเที่ยวที่ 3 ออกจากประเทศไทยเวลาประมาณ 13.30 น. โดยเที่ยวบินกองทัพอากาศดังกล่าว มีกำหนดกลับถึงประเทศไทยในวันที่ 22 ตุลาคม 2566 เวลาประมาณ 13.40 น. โดยจะนำพี่น้องแรงงานไทยจำนวน 140 คนกลับสู่ประเทศไทย ซึ่งในวันเดียวกัน จะมีเครื่องบินของสายการบิน El Al พาคนไทยเดินทางกลับอีกประมาณ 311 คนด้วย (รอยืนยันเวลาเดินทางถึง)

ในห้วงตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป ทางการไทยจะจัดเที่ยวบินตรงจากอิสราเอลมายังประเทศไทยวันละ 2 เที่ยวบิน และจากอิสราเอล-เมืองดูไบ อีก 1 เที่ยวบิน แล้วมีเที่ยวบินรับจากเมืองดูไบมายังประเทศไทยอีกทอดหนึ่ง ซึ่งแผนดังกล่าวจะทำให้สามารถอพยพคนไทยออกจากอิสราเอลได้วันละกว่า 800 คน

ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศขอร้องให้พี่น้องคนไทยในอิสราเอลที่ยังตัดสินใจไม่เดินทางกลับ พิจารณาให้รอบคอบ และขอให้แน่ใจว่าอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย อีกทั้งขอให้ผู้ที่เคยแจ้งชื่อไว้กับสถานทูตและเปลี่ยนใจไม่เดินทางกลับ โปรดแจ้งสถานทูตล่วงหน้า เพื่อให้การบริหารจัดการที่นั่งบนแต่ละเที่ยวบินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และไม่ปิดโอกาสของท่านอื่น ๆ ที่ประสงค์จะเดินทางกลับด้วย