‘วันนองเลือดเมียนมา’ ยูเอ็นเผยกองทัพเมียนมายิงสลายการชุมนุมวานนี้ มีผู้เสียชีวิต 38 รายในวันเดียว ขณะมีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 59 รายแล้ว
เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 64 นางคริสทีน ชราเนอร์ บูร์เกเนอร์ ทูตพิเศษขององค์การสหประชาชาติ (UN) ประจำเมียนมาแถลงข่าวถึงสถานการณ์ในประเทศเมียนมาว่า เมื่อวานนี้มีผู้ประท้วงในเมียนมาเสียชีวิตถึง 38 รายในวันเดียว บาดเจ็บอีกจำนวนมาก หลังจากถูกกองทัพเมียนมาเปิดฉากยิงใส่ โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตดังกล่าวถือเป็นจำนวนสูงสุด นับตั้งแต่กองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารและเข้ายึดอำนาจการปกครองของรัฐบาลเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์นี้ถือเป็น “วันนองเลือด” ที่สุด
หนึ่งในผู้เสียชีวิต เป็นเด็กสาวอายุ 19 ปี ชื่อว่า “มะ แจซิน” (Ma Kyal Sin) ที่ถูกสไนเปอร์ยิงเข้าที่ศีรษะเสียชีวิตที่เมืองมัณฑะเลย์ และยังพบป้ายที่ แจ ซิน เขียนระบุกรุ๊ปเลือดของตน พร้อมบอกว่า หากเธอเสียชีวิต ขอให้บริจาคร่างกายให้กับโรงพยาบาล โดยหลังจาก แจ ซิน เสียชีวิต ได้มีชาวเมียนมาออกมาร่วมงานศพของเธอ พร้อมแสดงออกในการชูสามนิ้วหลายพันคน เต็มถนนในเมืองมัณฑะเลย์
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยข้อมูลว่า ผู้ชุมนุมเมียนมาได้รวบรวมตัวเลขผู้เสียชีวิตทั้งหมดอย่างไม่เป็นทางการ โดยขณะนี้มีอย่างน้อย 59 ราย ที่ถูกกองทัพเมียนมาปราบปรามด้วยการใช้กระสุนจริงเพื่อสลายการชุมนุม และมีผู้ที่ถูกจับกุมแล้ว ไม่น้อยกว่า 1,300 คน
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 64 กองกำลังทหารพม่า นำโดย “มิน อ่อง หล่าย” ได้ปราบปรามผู้ชุมนุมในหลายเมืองใหญ่ โดยเฉพาะในย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ มีการใช้สไนเปอร์สังหารผู้ชุมนุม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชน คนวัยหนุ่มสาว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 18 ราย และบาดเจ็บจากกระสุนอีกจำนวนมาก
ทั้งนี้ ทูตพิเศษ UN ได้เรียกร้องให้ประชาคมโลกร่วมมือกันเพิ่มแรงกดดันให้กองทัพเมียนมายุติการกวาดล้างผู้ชุมนุม เพราะจากการสนทนากับผู้นำทหารเมียนมา พวกเขาไม่เกรงกลัวในคำขู่คว่ำบาตรเลย