TRAVEL

แนะนำ 6 สถานที่ท่องเที่ยวโรแมนติกรับฤดูใบไม้ร่วง ก่อนสัมผัสบรรยากาศจริง ผ่าน Metaverse

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (KTO) จัดงานภายใต้ชื่อ “Korea Everywhere” หรือมหกรรม Korea Travel Festival เพื่อปักหมุดแนะนำ 6 สถานที่ท่องเที่ยว และกิจกรรมที่เหมาะกับการออกเดท ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังจะมาถึง เพื่อให้ชาวไทยได้อัพเดท สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ โดยเตรียมความพร้อม ก่อนไปสัมผัสบรรยากาศ การเที่ยวชมใบใม้เปลี่ยนสีของจริง ผ่านโลก Metaverse ในแอปพลิเคชัน Zepeto กับแผนที่ใหม่ “Korea Trendy Autumn” และภายในงานยังประกอบไปด้วยโปรโมชั่น จากหน่วยงานท่องเที่ยวเมืองต่างๆ ของเกาหลี ทั้งสายการบิน และบริษัททัวร์แบบจัดเต็ม โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 กันยายน -2 ตุลาคมนี้ พร้อมกันถึง 4 ห้างของกรุงเทพฯ อาทิ ไอคอนสยาม,สยามพารากอน,สยามเซ็นเตอร์,ดิ เอ็มควอเทียร์

1.อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน (Seoraksan National Park KTO ชวนชาวไทยเตรียมความพร้อมก่อนบินไปสัมผัสลมเย็น ชมความงดงามของฤดูใบไม้เปลี่ยนสี กับกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมอัดแน่นครบรส,설악산국립공원) ตั้งอยู่ที่เมืองซกโช จังหวัดคังวอนโด ที่นี่เป็นจุดที่ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นที่แรกๆ ของเกาหลี ซึ่งจะเริ่มในช่วงปลายเดือนกันยายน และจะพีคที่สุดในช่วงกลางเดือนตุลาคม ต้นไม้และต้นเมเปิ้ลที่อยู่รอบอุทยาน จะเปลี่ยนสีทั่วทั้งภูเขา ทำให้คู่รักชาวเกาหลีสายธรรมชาตินิยม มาท่องเที่ยวปีนเขากันในช่วงนี้ ซึ่งที่นี่ก็มีหลากหลายเส้นทางให้เลือกทั้งยากและง่าย แต่สำหรับใครที่ไม่ใช่สายแอดเวนเจอร์ ก็ยังสามารถชมวิวทิวเขาที่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีสีสันสดใสได้ด้วยกระเช้า ที่จะพาขึ้นไปเกือบถึงยอดเขา ควอนกึมซอง(Gwongeumseong, 권금성) ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยว จะได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ รับลมเย็นบนยอดเขา ชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีแบบ 360 องศา

2.สวนพฤกษศาสตร์ฮวาดัม (Hwadam Botanic Garden, 화담숲) สวนรุกขชาติเชิงนิเวศขนาด 65 ไร่ ตั้งอยู่ในเมืองควางจู จังหวัดคยองกีโด อยู่ห่างจากกรุงโซลเพียง 40 นาทีเท่านั้น สวนแห่งนี้รวบรวมพืชพันธุ์นานาชนิดกว่า 4,300 สายพันธุ์ จัดแบ่งออกเป็น 16 ธีม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในการชม ใบไม้เปลี่ยนสีของชาวเกาหลี โดยพระเอกของสวนฮวาดัมในช่วงฤดูใบไม้ร่วง คือต้นเมเปิ้ลกว่า 400 ชนิด ที่จะเปลี่ยนเป็นสีให้นักท่องเที่ยว ได้เพลิดเพลินกับสีสันอันอบอุ่น อากาศสดชื่น สวนเหมือนหลุดไปในทำนิยายเลยทีเดียว พลาดไม่ได้กับกิจกรรมคล้องกุญแจคู่รักบนสะพานรูปหัวใจ (Bridge of Promise) ก่อนจะขึ้นรถไฟโมโนเรล (Monorail) แคปซูลชมความสวยงามตระการตาของธรรมชาติ ทั่วทั้งสวนตลอด 20 นาที

3.ชองวาแด (Cheongwadae, 청와대) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘Blue House’ เป็นอดีตทำเนียบประธานาธิปดีของเกาหลี ตั้งอยู่ในเขตจงโน ใจกลางกรุงโซล สายซีรีส์น่าจะพอคุ้นตากัน เนื่องจากที่นี่เป็นโลเคชั่นของซีรีส์หลายเรื่อง อาทิ City Hunter,Vagabond รวมถึง Designated Survivor: 60 Days แต่เดิมที่นี่เป็นสถานที่ที่มีการคุ้มครอง แน่นหนาที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย แต่นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา ได้มีการประกาศให้ที่นี่เป็นสวนสาธารณะ ทำให้ชองวาแดกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต แห่งใหม่ของทั้งคนเกาหลีและนักท่องเที่ยว เพราะที่นี่ไม่เพียงอัดแน่นด้วยประวัติศาสตร์ อันยาวนานของประเทศเกาหลีใต้ แต่ยังเป็นสถานที่ที่ฮวงจุ้ยดีที่สุดในกรุงโซล ด้านหน้ามีแม่น้ำฮันไหลผ่าน ด้านหลังมีภูเขาบุกฮันซาน ภายในทำเนียบมีสวนเขียวขจี ทัศนียภาพสวยงาม ยิ่งช่วงฤดูใบไม้ร่วงบรรยากาศ จะยิ่งงดงามเป็นพิเศษ

4.ย่านอิกซอนดง (Ikseondong,익선동) ย่านหมู่บ้านเกาหลีโบราณ อายุกว่า 100 ปี ที่กลายเป็นแหล่งรวมคาเฟ่เก๋ๆ ร้านอาหารชิคๆ ใจกลางกรุงโซล ที่นี่ยังคงกลิ่นอายความคลาสสิคของบ้านเกาหลี ที่ก่อจากอิฐสีน้ำตาลวางเรียงกันเป็นก้อน กับหลังคาทรงเตี้ย ดัดแปลงให้ดูทันสมัยขึ้นด้วยการติดกระจกใส และเพนท์ผนัง กลายเป็นสเน่ห์ของผ่านที่มีความมินิมอล แต่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเองในตรอกเล็กๆ อัดแน่นไปด้วยร้านขายของ คาเฟ่ และร้านอาหารที่ตกแต่งอย่างสวยงาม มีเอกลักษณ์ แถมยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ กระจายตัวอยู่ทั่วทั้งย่าน โดยเฉพาะร้านคาเฟ่ลานดอกไม้ (카페 마당공간) คาเฟ่ที่ดังที่สุดในย่าน ที่นี่ยังเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์เรื่อง Guardian: The Lonely and Great God ที่นำแสดงโดยกงยูด้วย

5.ถนนฮงแด (Hongdae, 홍대) แหล่งช้อปปิ้งที่นักท่องเที่ยวไทยคุ้นเคยกันดี ตั้งอยู่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยฮงอิก นอกจากจะมีทั้งร้านค้า คาเฟ่ และร้านอาหารราคานักศึกษาแล้ว ยังเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมด้านดนตรี และศิลปะของคนรุ่นใหม่ ผลงานสตรีทอาร์ทบริเวณกำแพงเรียงรายอยู่เป็นระยะ ตกเย็นก็จะเริ่มมีการแสดงเปิดหมวก ทั้งร้องเพลง เล่นดนตรี เต้น รวมถึงการแสดงมายากลให้เลือกชม เป็นถนนอีกเส้นที่มีบรรยากาศโรแมนติกเหมาะกับการเดท ยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศไม่ร้อนไม่เย็นจนเกินไป

6.ไฮเกอร์ กราวด์ (HiKR Ground, 하이커 그라운드) สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมา ที่นี่จะพานักท่องเที่ยวสัมผัส และเข้าถึงวัฒนธรรมเกาหลี แบบล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง XR (Extended Reality) โดยทั้ง 5 ชั้นของไฮเกอร์กราวด์ แบ่งออกเป็นธีมต่างๆ เพื่อนำเสนอความเป็นเกาหลี ในหลากหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ศิลปะ ซีรีส์เกาหลี สำหรับใคร ทีเป็นสาวก K-pop กับโซน K-pop Ground บนชั้น 2 ที่นำเอาฉากฮิตใน MV อย่างรถไฟใต้ดิน ร้านซักผ้า และยานอวกาศมาให้ถ่ายกันแบบจุใจ ยังมีรายการเพลงที่สามารถ เลือกกราฟฟิคฉากได้กว่า 100 แบบ แถมยังเลือกเพลงที่อยากเต้นได้ตามใจชอบ

Related Posts

Send this to a friend