POLITICS

เร่งอุดช่องโหว่ ส่งออกโซเดียมไซยาไนด์ไปเป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด

กระทรวงยุติธรรม เร่งอุดช่องโหว่ ส่งออก ‘สารโซเดียมไซยาไนด์’ ไปเป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด

วันนี้ (31 ต.ค. 65) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม หารือการแก้ไขปัญหายาเสพติดเร่งด่วนตามนโยบายรัฐบาล เพื่อหาแนวทางการควบคุมสารโซเดียมไซยาไนด์ ว่า ที่ผ่านมา พบการนำเข้ากว่า 1,150 ตัน ส่งออก 810 ตัน ไปยังเมียนมา เท่ากับมีการใช้ในประเทศเพียง 310 ตัน ในกลุ่มโรงงานชุบโลหะ ขณะที่สารจำนวน 810 ตัน หากคิดเป็นจำนวนยาบ้า จะได้กว่า 16,060 ล้านเม็ด

ด้าน นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า สารโซเดียมไซยาไนด์ เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ต้องมีการขออนุญาต แต่ที่ผ่านมา มีการลักลอบนำไปผลิตยาเสพติด โดยโซเดียมไซยาไนด์ 1 กิโลกรัม สามารถผลิตยาบ้า ได้กว่า 22,000 เม็ด เป็นสารที่ประเทศไทยไม่สามารถผลิตได้ จึงต้องนำเข้า-ส่งออก โดยสารนี้ สามารถนำไปทำปฏิกิริยากับสารเบนซิลคลอไรด์ รวมเป็นเบนซิลไซยาไนด์ กลายเป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด

ที่ผ่านมา การส่งออกโซเดียมไซยาไนด์ จะต้องมีการรับรองจากหน่วยงานรัฐของประเทศปลายทาง ว่า มีการใช้สารนี้เพื่ออุตสาหกรรมจริง โดยปัจจุบัน การอนุญาตให้ส่งออกจะพิจารณาเป็นราย โดยอนุญาตไม่เกิน 6 เดือน ส่วนแนวทางในการควบคุม เพื่อไม่ให้มีการนำไปผลิตยาเสพติด ต้องมีการทำคิวอาร์โค้ด เพื่อให้ผู้นำเข้า-ส่งออก ลงทะเบียนรายละเอียด ป้องกันไม่ให้รายย่อยลักลอบนำไปขายได้

อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวถึงข้อเสนอที่ว่า ให้มีการชะลอการส่งออกสารโซเดียมไซยาไนด์ ไปจนกว่าจะมีการจัดสรรโควต้าแล้วเสร็จ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน เชื่อว่าแนวทางนี้จะไม่กระทบกับผู้ใช้งานจริง หรือ ประเทศเมียนมา ที่สามารถนำเข้าได้โดยตรง เพราะในช่วงที่ไทยไม่อนุญาตส่งออก เมียนมาก็มีการนำเข้าโดยตรงจากจีน

ทั้งนี้ ที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่า ให้ชะลอการส่งออกสารโซเดียมไซยาไนด์ เพื่อจัดสรรให้รัดกุมก่อน โดยเฉพาะที่นำไปส่งออกต่างประเทศ ส่วนในประเทศ ที่ต้องการใช้สารโซเดียมไซยาไนด์ กว่า 310 ตัน จะมีการคุมเข้มการใช้ โดยมอบหมายให้ ป.ป.ส.จัดทำข้อสรุปชะลอการส่งออกฯ เพื่อรายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบโดยเร็ว

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat