POLITICS

‘ชูวิทย์’ ร่วมยินดีหลัง ก้าวไกล – เพื่อไทย หวานชื่น ชี้ การเมืองต้องดูกันยาวๆ

‘ชูวิทย์’ ร่วมยินดีหลัง ‘ก้าวไกล – เพื่อไทย’ มีซีนหวานชื่น ปัดให้ความเห็นไว้ใจเพื่อไทย ชี้ การเมืองต้องดูกันยาวๆ พร้อมอวยพรทั้ง 2 พรรค “ขอให้ไปดีเถอะนะ”

วันนี้ (31 พ.ค. 66) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีของพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ภายหลังจากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่แถลงหลังร่วมประชุมความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล ที่มีการโชว์จับมือ โอบไหล่ทำมือรูปหัวใจต่อหน้าสื่อมวลชน สยบข่าวรอยร้าวประเด็นเก้าอี้ประธานสภา พร้อมให้คำมั่นว่าเพื่อไทยไม่ทิ้งพรรคก้าวไกล รวมถึงเรื่องดีลลับที่นายชูวิทย์เคยออกมากล่าวอ้างว่า “ไม่มีดีลลับ มีแต่ดีลรัก”

นายชูวิทย์ กล่าวแสดงความยินดี พร้อมระบุว่า การเมืองยังเหลือระยะเวลาอีกกว่า 2-3 เดือน เมื่อเราเห็นภาพหวานนั้นจะให้พูดอะไรได้ ก็คงทำได้แค่ยินดี เพราะตนเองก็เคยบอกให้ทั้งคู่ผูกขาไปด้วยกัน ซึ่งตนตั้งคำถามว่าตำแหน่งประธานสภาฯ ตอนนี้ตกลงกันได้หรือยัง แต่หากทั้งคู่ไปดีก็ยินดีด้วย เพราะอยากให้ประเทศไทยมีประชาธิปไตย

อย่างไรก็ดี เมื่อทั้ง 2 พรรคจับมือร่วมรัฐบาล ตนเองในฐานะที่เป็นคนไทยก็สนับสนุน ส่วนจะมีดีลลับหรือดีลรักที่พยายามกระแนะกระแหนตนเอง มองว่าเวลาตอนนี้ยังไม่ถึง มีเวลาอีกกว่า 2 เดือน ขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล และคาดว่าอาจจะใช้เวลาในการจัดตั้งรัฐบาลนานกว่านั้น รวมถึงยังมีประเด็นเรื่องการถือหุ้นสื่อของนายพิธา และการโหวตของสมาชิกวุฒิสภา คุณสมบัติไม่ผ่านนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ ตนเองไม่ทราบก็จะขอไม่พูดให้เป็นประเด็น แต่จะขอสื่อสารไปถึงสังคมไทยว่า ในฐานะที่เป็นคนไทยขอแสดงความยินดีกับทั้ง 2 พรรค และพร้อมที่จะสนับสนุนไม่มีอะไรที่จะไปขัดขวาง

เมื่อถามว่า จากการตอบคำถาม โดยส่วนตัวยังไม่มั่นใจพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนคงตอบไม่ได้ เพราะที่เห็นก็มีแค่ นพ.ชลน่านที่ออกมาพูดอยู่เพียงคนเดียว เหมือนกับฝนยังไม่ตก แล้วออกไปกางร่ม การเมืองต้องดูกันยาวๆ วันนี้กอดคอกระหนุงกระหนิง รักกันตลอดไป หากรักกันแบบไม่หวาดระแวงก็สนับสนุน แต่การเมืองก็มีโอกาสทั้งนั้น หากพูดตอนนี้ก็จะโดนคนมาตำหนิ ถ้าเขาจะไปดีกันก็คงต้องอวยพร “ขอให้ไปดีเถอะนะ”

สำหรับเรื่องดีลนั้น ตนก็พูดถึงแค่เรื่องดีลเดียว ไม่ใช่ดีลที่สนามบอล ที่ด่ากันแล้วก็ไปยืนดูบอลด้วยกัน แต่เมื่อผู้ใหญ่ไม่ให้ตนพูด ให้พอแล้ว ตนก็พอ เพราะตนเป็นคนมีวินัย

Related Posts

Send this to a friend