โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำท่วม จ.แพร่

วันนี้ (30 ก.ย. 66) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดแพร่จนเกิดน้ำปาไหลหลาก ท่วมบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่การเกษตร โดนระบุว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รับทราบรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงสั่งการให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์โดยเร่งด่วน พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง เพราะคาดว่าจะมีน้ำท่วมขังอีกประมาณ 1-2 วัน

นอกจากนี้ นายเศรษฐา ยังสั่งการให้ ผู้ว่าราชการ จ.สุโขทัย และพิษณุโลก เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ ซึ่งขณะนี้น้ำกำลังถูกระบายไปตามแม่น้ำยม และอาจเข้าท่วมพื้นที่ริมแม่น้ำในจังหวัดสุโขทัยและพิษณุโลก โดยกรมชลประทานได้เร่งระบายน้ำไปทางแม่น้ำน่านเพื่อลดผลกระทบแล้ว อีกทั้งได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ช่วยเหลือประชาชน

ทั้งนี้ นายเศรษฐา ย้ำว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชน และขอให้ประชาชนในพื้นที่เตรียมพร้อมรับมือโดยเก็บข้าวของขึ้นที่สูง หากขาดเหลืออะไร ให้ประสานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้การช่วยเหลือทันที ซึ่งทุกคนจะทำงานเต็มที่เพื่อให้ประชาชนทุกคนปลอดภัย

นายชัย กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงขอให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชน ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการ ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้ประชาชนสามารถแจ้งเหตุด่วนได้ที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ หรือนายอำเภอท้องที่เกิดเหตุ รวมถึงแจ้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดแพร่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่ เพื่อช่วยเหลือได้ทันท่วงที

“ตามที่ได้เกิดฝนตกหนักตลอดช่วงคืนของวันที่ 29 ถึงเช้าของวันที่ 30 ก.ย. 66 นั้น จังหวัดแพร่มีฝนตกหนักเกือบทุกพื้นที่ ส่งผลให้หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ตำรวจ ทหาร อบจ.แพร่ ได้เข้าไปร่วมกันกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ และช่วยประชาชนในการยกสิ่งของหนีน้ำ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกำชับให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ให้ประชาชนปลอดภัย ช่วยเหลือในการขนย้ายประชาชนผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัยและขนย้ายทรัพย์สินของราษฎรออกจากบ้านเรือน และให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำท่วมน้ำป่าไหลหลากอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก และให้สำรวจความเสียหายต่าง ๆ ภายหลังน้ำลด เพื่อให้การเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบตามระเบียบของทางราชการต่อไป” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว