POLITICS

‘สมศักดิ์’ ยอมรับ จนท.ควบคุมตัว ‘ประสิทธิ์ เจียวก๊ก’ หละหลวม จนเกิดเหตุหลบหนี

‘สมศักดิ์’ ตอบกระทู้ในสภาฯ ยอมรับ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว ‘ประสิทธิ์ เจียวก๊ก’ หละหลวม จนเกิดเหตุหลบหนี ระบุ คณะกรรมการตรวจสอบรวบรวมส่งข้อมูลวันนี้ ยืนยันให้ความเป็นธรรมผู้ต้องหาทุกคน

การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ (29 ธ.ค. 65) ที่มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา กรณีการหลบหนีของนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ออกจากศาลอาญา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน และฟอกเงิน ที่ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นผู้ตั้งกระทู้ถามว่า กรมราชทัณฑ์ จะตรวจสอบความจริงภายใน 7 วัน แต่ครบกำหนดแล้วยังไม่มีความคืบหน้า จึงต้องการสอบถามว่า ขณะนี้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว

ในส่วนของตำรวจที่จับผู้เกี่ยวข้องได้แล้ว 4 คน แต่วันควบคุมตัว ทำไมผู้คุมไม่ใส่เครื่องแบบในการควบคุมตัวนักโทษ กลับใส่สูท ไม่ใช่เครื่องแบบปกติ และเหตุใดนายประสิทธิ์ จึงเข้าห้องน้ำที่ชั้น 9 ได้ ทั้งที่เป็นห้องน้ำสำหรับผู้มาติดต่อราชการ ต่างจากนักโทษทั่วไปที่ต้องลงไปเข้าห้องน้ำเฉพาะสำหรับผู้ต้องหาในชั้นใต้ถุนศาล

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ชี้แจงถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เมื่อเวลา 09.00 น.ได้นำผู้ต้องหามาอยู่บริเวณห้องนักโทษและมีห้องน้ำ ซึ่งในระหว่างที่อยู่ในห้องนั้น นายประสิทธิ์ไม่ได้ขอใช้ห้องน้ำ แต่หลังจากนั้นที่ได้นำตัวนายประสิทธิ์ขึ้นมาที่ห้องพิจารณาที่ชั้น 9 นายประสิทธิ์ก็ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าปวดท้องหนัก เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจให้เข้าไปใช้ห้องน้ำสำหรับผู้มาติดต่อที่ศาล ต่อมาก็ได้พานายประสิทธิ์เข้าไปห้องพิจารณา และขณะอยู่ในห้องพิจารณา นายประสิทธิ์ได้พูดคุยกับกลุ่มคนที่มาให้กำลังใจ ว่า “จะมีคนได้ถูกปล่อยตัว มีเสื้อผ้ามาให้หรือยัง” และหลังจากออกจากห้องพิจารณา นายประสิทธิ์ได้ขอเข้าห้องน้ำอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จึงให้เข้าห้องน้ำชั้น 9 เช่นเดิม และนี่จึงเป็นเหตุที่ทำให้เกิดการหลบหนี โดยผู้ต้องหาได้เปลี่ยนเสื้อผ้า จนทำให้ผู้คุมไม่ได้สังเกตว่า มีการปลอมตัว

ส่วนคำถามที่ว่า ทำไมเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไม่แต่งเครื่องแบบตามปกตินั้น ขอแจ้งว่า เจ้าหน้าที่แต่งเครื่องแบบปกติแต่ใส่เสื้อคลุมไว้ ส่วนจะเป็นการพรางตัวหรือไม่นั้น คณะกรรมการที่สอบเรื่องเหล่านี้ จะสรุปวันนี้ ซึ่งจากการดำเนินการตรงนี้ จะต้องมีผู้รับผิดชอบที่ไม่เคร่งครัดเท่าที่ควร

จากนั้น นางอมรรัตน์ ได้ตั้งคำถามต่ออีกว่า กุญแจปลดเครื่องพันธนาการเอามาจากไหน ทำไมถึง 2 มาตรฐานในการควบคุมตัว เช่น คดีของกลุ่มที่เรียกร้องประชาธิปไตยไม่เคยได้เข้าห้องน้ำชั้น 9 หรือใครอ้างความจงรักภักดี ก็จะตามใจมากกว่าปกติ และไม่เคร่งครัดเท่าที่ควร

นายสมศักดิ์ กล่าวชี้แจงว่า เรื่องกุญแจปลดพันธนาการ นายประสิทธิ์รับสารภาพแล้วว่า ได้ปลดกุญแจในจุดควบคุมแดนกลาง แต่ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะเป็นความหละหลวม ทาง ราชทัณฑ์ก็ต้องตั้งกรรมการสอบในส่วนผู้ดูแลตรงนี้ แต่ยืนยันว่า ให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหาทุกคน และอำนวยความสะดวกให้ได้ดีที่สุด ไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชังหรือต้องเป็นคนจงรักภักดี ตนคิดว่าไม่ควรจะกระแนะกระแหนกันอย่างนี้ ส่วนการสอบข้อเท็จจริง วันนี้เป็นวันสุดท้ายเพื่อสรุปและรวบรวมส่งอธิบดี

นางอมรัตน์ ระบุว่า นายสมศักดิ์ อาจจะเข้าใจตนผิด ตนไม่ได้กระแนะกระแหน แต่เปรียบเทียบให้เห็นถึงการเลือกปฏิบัติของเรือนจำ ถ้าเข้าใจว่ากระแนะกระแหน อาจจะมีอคติกับคำถามนี้หรือไม่ ส่วนเรื่องกุญแจเป็นไปไม่ได้ที่จะปลดมาก่อน ดังนั้นจึงขอทราบว่า ใครบ้างที่ต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ พร้อมเสนอแนะกระทรวงยุติธรรมโดยเฉพาะ เรือนจำกลาง ซึ่งเป็นกรมที่ใหญ่ที่สุดในกระทรวงและได้งบมากที่สุด แต่กลับเป็นกรมที่โปร่งใสน้อยที่สุด เป็นแดนสนธยาที่ตรวจสอบยากที่สุด มีอำนาจนิยมมากที่สุด เอื้อให้ทุจริตได้ง่ายและตรวจสอบได้ยากที่สุด หรือแทบจะตรวจสอบไม่ได้

พร้อมกันนี้ ยังสอบถามว่า เรื่องแรงงานทาสในเรือนจำมีระบบการจ่ายเงินที่เป็นธรรมหรือไม่ มีการริดรอนสิทธิเสรีภาพของผู้ต้องขังหรือไม่ พร้อมถามนายสมศักดิ์อีกว่า เคยทำงานเชิงรุก เรื่องสิทธิเสรีภาพหรือไม่ มีแนวคิดให้นักโทษมีสิทธิเลือกตั้งได้หรือไม่ และมีวิสัยทัศน์อย่างไร ในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของคนในเรือนจำ

นายสมศักดิ์ ชี้แจงอีกว่า เรื่องกุญแจนั้น ในเรือนจำกลางมีที่เก็บอยู่ และในช่วงที่ผู้คุมเผลอก็ได้แอบไปหยิบกุญแจออกไปด้วย ส่วนแรงงานในเรือนจำนั้น เรามีการจัดค่าแรงขั้นต่ำให้ผู้ต้องขัง ส่วนเสรีภาพของผู้ต้องขัง ตนก็อยากทำให้ แต่คงทำไม่ทัน ถ้าผู้ต้องขังมีสิทธิเลือกตั้งได้ ตนคงได้คะแนนมาก เพราะตนดูแลผู้ต้องขังอย่างดี แต่คงทำไม่ได้เพราะมีเงื่อนไขอะไรหลายอย่าง ส่วนการคืนคนดีสู่สังคม ตนมีวิสัยทัศน์ในเรื่องนี้มาก ผู้ต้องขังจะกระทำผิดซ้ำมีน้อย เหตุผลหลักที่กระทำผิดซ้ำ คือความยากจน จึงเกิดโครงการสร้างนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ ยอมให้นักโทษที่เหลือโทษน้อย พักโทษเข้าไปทำงาน ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ว่าจังหวัดใดสามารถทำได้บ้าง โดยไม่จำเป็นต้องสร้างเรือนจำขึ้นใหม่ และให้นักโทษติดกำไลอีเอ็ม เพราะรู้แล้วว่า การปรับเปลี่ยนนิสัยในทางทฤษฎีหรือสอนอย่างเดียว เป็นไปได้ยาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายสมศักดิ์กำลังกล่าวตอบกระทู้อยู่นั้น คาดว่า มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางคน ทำท่าทีไม่สุภาพ จนทำให้นายสมศักดิ์ กล่าวก่อนจะจบการตอบคำถามว่า “ถ้าเราให้เกียรติกันในการทำงานในสภาฯ การนั่งส่ายหน้าหรือมีความรู้สึกที่ไม่สุภาพ เป็นการไม่ให้เกียรติสภา เราตั้งใจทำงานด้วยกัน แต่ไม่น่าจะทำความรู้สึกที่ไม่ดีต่อกันเพราะจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อสังคม”

Related Posts

Send this to a friend