POLITICS

‘ปดิพัทธ์’ ตอบทุกข้อครหา ย้อน ไม่ปกติตั้งแต่พรรคอันดับ 1 ชวดประมุขบริหาร-นิติบัญญัติ

‘ปดิพัทธ์’ ตอบทุกครหา “สมคบคิด-เล่นการเมืองแบบเก่า-ไม่ตรงไปตรงมา” ย้ำ เป็นสิทธิที่จะวิจารณ์ ย้อน ไม่ปกติตั้งแต่พรรคอันดับ 1 ชวดประมุขบริหาร-นิติบัญญัติ เชื่อ สส. มีวุฒิภาวะ ปฏิบัติต่อตามหลักการ

วันนี้ (29 ก.ย. 66) นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ตอบคำถามสื่อมวลชน ณ อาคารรัฐสภา เกี่ยวกับข้อวิจารณ์ต่อการถูกขับออกจากสมาชิกพรรคก้าวไกล เพื่อรักษาตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง โดยเฉพาะข้อครหาเรื่องการสมคบคิดระหว่างพรรคการเมือง

นายปดิพัทธ์ กล่าวตอบรับว่า เป็นสิทธิที่จะวิพากษ์วิจารณ์ คิดว่าพรรคก้าวไกลตัดสินใจอย่างยากลำบากและรอบคอบ จึงไม่คิดว่าเป็นการสมคบคิดเรื่องผลประโยชน์กับใคร

“การขับออกครั้งนี้ ผมก็คิดว่าพรรคก้าวไกลตัดสินใจอย่างยากลำบากและรอบคอบ ดังนั้นถามว่าสมคบคิดเพื่อผลประโยชน์ของใครคงไม่ใช่ แต่ด้วยข้อจำกัดของรัฐธรรมนูญ เราจำเป็นต้องหาทางที่ดีที่สุดให้เกิดขึ้น และถ้าผมตัดสินใจจะยืนยันมติแบบนี้ ทางพรรคก้าวไกลก็ไม่มีโอกาสเลือกทางอื่น” นายปดิพัทธ์ กล่าว

ส่วนกรณีในอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคก้าวไกล เคยไปปฏิบัติกิจกรรมร่วมกับพรรคอื่น แต่ไม่ได้มีการขับออก ต่างจากกรณีของนายปดิพัทธ์ ที่ขับออกโดยไม่มีความผิดนั้น นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ให้เป็นเรื่องของสมาชิกและผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลตัดสินแล้วกัน ไม่สามารถตัดสินและวิจารณ์เรื่องอดีตได้

สำหรับข้อกังวลว่า การกระทำเช่นนี้ จะทำให้ไม่ได้รับการเคารพจาก สส. ในการทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมต่อไปนั้น นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า การที่พรรคที่ชนะอันดับ 1 ไม่เป็นฝ่ายบริหารและประธานสภาฯ มันก็ส่งเค้าถึงความไม่ปกติของสังคม จึงไม่คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น เชื่อว่า สส. ทุกคนเป็นมืออาชีพและมีวุฒิภาวะ เพราะฉะนั้น สิ่งไหนที่เป็นตามหลักการและระเบียบข้อบังคับ ทุกคนก็ต้องปฏิบัติตาม คงไม่กังวลถึงความกดดันและเกมการเมืองแต่อย่างใด ขณะเดียวกันก็ยืนยันว่า ไม่มีความกดดันมาจาก สส.รัฐบาล มีแต่กำลังใจให้ทำหน้าที่ให้ดี

นายปดิพัทธ์ กล่าวโต้ตอบข้อวิจารณ์ว่าเป็นการเล่นเกมการเมืองแบบเก่า ที่พรรคก้าวไกลเคยวิจารณ์พรรคการเมืองอื่นว่า ต้องไปถามพรรคก้าวไกล ส่วนตัวไม่สามารถตอบแทนพรรคได้ และเชื่อว่าทุกอย่าง การตัดสินใจทุกอย่างต่อสาธารณะ ทุกท่านสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้

สุดท้าย ยังมีข้อวิจารณ์เกี่ยวกับการถูกมองว่าพรรคที่รองรับนายปดิพัทธ์ในอนาคต จะเป็นนอมินีของพรรคก้าวไกล เหมือนกับที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ จากพรรคประชาชาติ เคยถูกมองว่าเป็นนอมินีของพรรคเพื่อไทย ซึ่งนายปดิพัทธ์ ตอบว่า ไม่เป็นธรรมกับพรรคอื่น เพราะแต่ละพรรคมีนโยบาย ศักดิ์ศรี และผู้นำของตนเอง

“ผมเองก็จะเป็นผู้นำของพรรคใดเลย ผมจะเป็นสมาชิกของพรรคไหนก็ให้เกียรติพรรคนั้นด้วย ไม่มีเรื่องของการเป็นนอมินี” นายปดิพัทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่าการตัดสินใจครั้งนี้ ถือว่าไม่ตรงไปตรงมาตามมาตรฐานพรรคก้าวไกลใช่หรือไม่ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิที่จะวิจารณ์

Related Posts

Send this to a friend