‘ภัณฑิล’ แฉงบสภาฯ มีโครงการสร้างคลังแสง หรือเอามาปราบ สส.
‘ภัณฑิล’ แฉงบสภาฯ มีโครงการสร้างคลังแสงอาวุธ ถามจะมาสู้อะไรตอนนี้ หรือเอามาปราบ สส. เปิดชื่อ ผู้บริหาร พ.เอี่ยวโยกงบ ด้าน ‘พิเชษฐ์’ โต้กลับ ตร.สภาไม่มีอาวุธ บอกถ้ามีผู้ก่อการร้ายบุก เราตายกันหมด
วันนี้ (29 พ.ค. 68) นายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน อภิปรายงบประมาณรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569
นายภัณฑิล กล่าวไปถึง นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมว่า “ไม่ต้องโกรธกันครับท่านประธาน ผมก็อภิปราย เพื่อประโยชน์ของพวกเราและพี่น้องประชาชน และหากท่านจะชี้แจงอย่างไร ขอให้เป็นตอนจบทีเดียว ฟัง ใจร่ม ๆ”
นายภัณฑิล กล่าวเน้นไปที่งบของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร์ว่า ในฐานะผู้แทนราษฎร หน้าที่หลักคือ การตรวจสอบ ควบคุมการใช้เงิน ซึ่งต้องพิจารณาว่าเงินเหล่านั้น จะถูกใช้อย่างถูกต้องเหมาะสม และคุ้มค่ากับที่ประชาชนทุกคนต้องทำงานหนักเพื่อจ่ายภาษีหรือไม่ เราสามารถไปตัดงบหน่วยงานอื่นได้ทั่วประเทศ แต่หน่วยงานที่เราสังกัดอยู่เอง จะใช้ภาษีอย่างฟุ่มเฟือย ไม่คุ้มค่า แล้วเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ประชาชนและข้าราชการในหน่วยงานอื่น เขารับไม่ได้
ยกตัวอย่าง การใช้ประโยชน์พื้นที่สภาที่ไม่คุ้มค่ากับงบลงทุน โดยเฉพาะการปรับปรุงอาคารรัฐสภา ในส่วนการเปิดยื่นข้อเสนอ 10 วัน สำหรับการออกแบบอาคาร และพื้นที่จอดรถใต้ดิน ว่าทำไม เราจึงไม่คิดหาทางเลือกอื่น เนื่องจากยังมีทางเลือกที่ถูกกว่า คือการสร้างอาคารในพื้นที่ค่ายทหาร ที่อยู่บริเวณติดกันที่ยังใช้ประโยชน์จากพื้นที่ไม่เต็มศักยภาพ ซึ่งใช้เก็บรถถัง ปืนใหญ่ จริง ๆ แล้วก็ไม่รู้ว่าการนำมาเก็บตรงนี้ จะเอาไปออกรบกับใคร
และแม้จะมีการประกาศผู้ชนะการออกแบบไปแล้ว ก็มีคนมาคัดค้านว่า มีการเร่งรัดผิดปกติ ซึ่งคาดว่าเป็นคู่แข่งที่เข้ามาร้องกันเอง เนื่องจากกลุ่มกิจการร่วมค้าที่ชนะการประกวดนั้น เคยมีประวัติรับงานแล้วโดนยกเลิกสัญญา เพราะส่งมอบสัญญาณไม่สำเร็จ
ความพยายามใช้เงินด้วยกันโอนอื่นมาเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และคนทำเอง ก็ยังย่ามใจ พยายามดันให้สุดซอย ทั้งยังมีความพยายามสร้างอะไรประหลาดพิสดาร อย่างโครงการคลังแสงอาวุธยุทธภัณฑ์ และการบริหารจัดการด้านอาวุธของเจ้าหน้าที่ตำรวจสภา ที่อยู่บริเวณใต้ห้องประชุมสุริยัน จะนำมาทำเป็นคลังอาวุธ
“มีไปทำไมคลังแสงอาวุธ จะไปสู้รัฐประหารหรือ ท่านมาสู้อะไรตอนนี้ ท่านก็ไปแก้รัฐธรรมนูญเอา ถ้ามีคนทำรัฐประหาร หรือจะเอามาปราบพวกเรากันเอง อยู่ข้างใต้พวกเรา ขึ้นลิฟต์มาชั้นเดียว น่ากลัวจริง ๆ”
นายภัณฑิล ยังกล่าวถึงงบอบรมสัมมนาอีกว่า เงินในส่วนนี้มีการใช้แบบไม่บันยะบันยัง ในแผนยุทธฯ พัฒนาและเสริมสร้างการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้น 6 เท่า ในระยะเวลา 3 ปี พร้อมย้ำถึงข้อกฎหมายในรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ระบุว่า ห้ามกระทำด้วยประการใดๆ ที่มีผลให้ สส. มีส่วนไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม ในการใช้งบประมาณรายจ่าย ก่อนย้ำว่า “คุกนะครับ” พร้อมอธิบายว่า การของบในส่วนนี้เป็นไป เพื่อการนำไปแจก เป็นเงินทุน เงินบริจาค เงินสนับสนุนให้กับประชาชนโดยตรง ซึ่งมีลายเซนต์ของผู้บริหารสภากำกับไว้เรียบร้อย ขนาดข้าราชการเองยังลำบากใจเลย มาบอกกับตนว่า ผู้บริหารสภาชงแจกเงิน เพราะมันทำไม่ได้ แต่คนจะเอาก็จะเอาให้ได้ กดดันข้าราชการจนมีคำแนะนำว่า ถ้าจะทำให้ได้ก็ต้องจัดเป็นการอบรมสัมมนา จึงมีการแก้เอกสารในโครงการนี้ ซึ่งภายหลังเมื่อโดนคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตัดงบประมาณในส่วนนี้ออกไป ก็ไม่พอใจ ก็ยังมีการขอแปรเพิ่ม ได้มาครึ่งนึงของจำนวนเงินที่ขอไป
เมื่อได้งบมาแล้ว ก็ตั้งคณะกรรมการมาดูแลโครงการโดยตั้งตัวเอง ชื่อย่อ ‘พ.’ และเพื่อน สส.พรรคเดียวกัน จังหวัดเดียวกัน มานั่งติดกัน และในจังหวัดเชียงราย ก็มีโครงการของสภา ที่มีงบประมาณ ในทุกตำบล หมู่บ้าน โดยในเอกสารเหล่านั้น ก็ยังเหมือนกันทุกตัวอักษร
“ท่านประธานอาจจะคิด ว่าเป็นไปไม่ได้หรอกปีหนึ่งจัดสัมมนากว่า 1,300 งาน เป็นไปได้ครับ เพราะมีคนมากระซิบ ว่าเอาเงินไปก่อน ทำโครงการลงไป ให้เงินมันเหลือ เพื่อให้ถูกโยก ไปใช้ในโครงการอื่น”
นอกจากนั้น ยังมีการให้จัดตั้งกองเกียรติยศเจ้าหน้าที่ตำรวจสภา เพื่อใช้ในงานพิธีต่าง ๆ อย่างเท่ จะจัดสวนสนาม หรือทำอะไรกัน ทำไมต้องมีการลงบไปซ้อม แล้วเงินมาจากไหน นำมาจากโครงการที่ไปล้วงกระเป๋าเยาวชนมาหรือไม่ เพราะรู้อยู่แล้วว่าอย่างไรก็ใช้ไม่หมด และในอนาคต ก็ได้ยินมาว่า จะมีแผนโยกงบในส่วนนี้ไปใช้ในโครงการก่อสร้างอีก ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายชัดเจน การส่อทุจริตเช่นนี้ ต้องรีบจัดการ เพราะสภาควรเป็นแบบอย่างในการบริหารงบประมาณแผ่นดินอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้แนวคิดจากฐานศูนย์ที่จำเป็นเท่านั้น อย่าไปยึดติดกับอดีต ใครตั้งมาอย่างไร ก็บวกเพิ่มขึ้นไป
“ถ้าสภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้ ยังมีมโนสำนึก ความละอายต่อประชาชนที่เขาเลือกท่านผู้ทรงเกียรติเข้ามาทั้งหลาย เราควรสำรวจตัวเอง ติดตามประเมินการใช้งบประมาณในทุกรายการอย่างเข้มงวด ทำให้เป็นตัวอย่าง เข้าใจครับ เราไม่อยากมาเผาบ้านตัวเอง กวาดบ้านตัวเองให้สะอาด ก่อนไปตรวจสอบหน่วยงานอื่น ช่วยกันจับทุจริต ประหยัดงบสภา หาเงินช่วยรัฐบาลเขา อย่าคิดว่าไม่ได้เป็นรัฐมนตรี จะอยู่เหนือการตรวจสอบ ไม่มีใครสามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะหลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมดนี้ สามารถพาท่านไปทานข้าวแถวสนามบินน้ำได้แน่นอน เพราะถูกรางวัลทุจริต เจอกันที่ ป.ป.ช.ครับ”
ด้านนายพิเชษฐ์ กล่าวว่างบสภาเจ้าหน้าที่และข้าราชการคงมาชี้แจงไม่ได้ ตนเองจึงขออนุญาตอธิบายห้องสัมมนา 1,500 คน ขณะนี้มีแต่ความสวยงาม เครื่องเสียงอุปกรณ์ใด ๆ ยังไม่มี หลังจากรับมอบงานข้าราชการก็ได้ออกแบบหากจะใช้ประโยชน์ต้องจ้างเครื่องเสียงจากข้างนอกครั้งละหลายหมื่นหลายแสน หากปล่อยให้ห้องนี้เป็นแบบนี้ต่อไปก็จะไม่ตอบโจทย์การบริการประชาชน
สำหรับศาลาแก้ว ปัจจุบันมี 2 หลัง แต่อยู่ในสภาพนี้ไม่ได้ เพราะเราจะมีงานใหญ่ต้องมีการปรับปรุงให้เรียบร้อย งบประมาณ 113 ล้านบาท แบ่งครึ่งสำหรับศาลาแก้วทั้ง 2 หลัง สามารถตรวจสอบได้ในรายละเอียด ขณะที่พิพิธภัณฑ์บริเวณเครื่องยอด ยังไม่มีการจัดเรียงของ เพราะเรามีของประวัติศาสตร์ของสภาฯ เป็นจำนวนมากเก็บรักษาไว้ที่สถาบันพระปกเกล้า ยังไม่ได้ย้ายมา
ส่วนฉากหลังบัลลังก์ กรมศิลปากรมาออกแบบให้ แต่ตอนนี้ยังของบไม่ได้เพราะแบบยังทำไม่เสร็จ แต่ใกล้จะเสร็จแล้ว ประเด็นที่จอดรถของสภาฯ ถูกยกเลิกไป 1 ชั้น เนื่องจากถูกลดงบประมาณ ทั้งนี้ประเด็นที่นายภัณฑิลระบุว่าพื้นที่ใช้สอยในสภาฯ เยอะแยะมากมายแต่ถูกทิ้งร้าง อยากให้เดินไปดูบริเวณชั้น 5 จะมีห้องเปล่าเป็นพื้นที่สำหรับสโมสร สส. บริเวณอาคารรัฐสภาเก่า เราจะมีสโมสรให้สมาชิกได้ผ่อนคลายใช้ประโยชน์มีร้านตัดผม ร้านเสริมสวย มีทุกอย่าง สส.มาจากต่างจังหวัด จึงไม่มีเวลา เมื่อมาที่สภาฯ หากมีเวลาว่างก็จะใช้บริการ ซึ่งขณะนี้เราได้ประธานสโมสรแล้ว อยู่ระหว่างการร่างระเบียบก็จะมีตัวแทนทั้ง สส.และ สว.
ท่านพูดถูกต้องว่า สภาฯ กว้างขวางแต่ประโยชน์น้อยหากเดินไปดูตามกลุ่มงานต่าง ๆ จะเห็นว่านั่งหลังชนกันเดินแทบไม่ได้ การออกแบบเขาไม่ได้คิดว่าจะใช้ประโยชน์อย่างไร สำหรับห้องกระทู้ถามชั้น 1 จะเห็นว่าสายไฟเต็มพื้น เวลารัฐมนตรีมาชี้แจงก็จะมีกล่องดำกล่องหนึ่งวางไว้อยู่บนโต๊ะ ซึ่งไม่สมศักดิ์ศรี จึงตั้งงบทำห้องกระทู้ที่แยกออกมาเฉพาะ การตอบกระทู้รัฐมนตรีจะมาตอบโดยตรงตัวต่อตัว สำหรับเรื่องคลังแสง ตำรวจทุกคนไม่มีอาวุธ ถ้ามีผู้ก่อการร้ายมาคนหนึ่งเอาอาวุธครบมือเราตายกันหมด ขณะที่สภาฯ ทั่วโลกจะมีกองเกียรติยศ ซึ่งเป็นตำรวจที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง
”ยังไงขอให้ท่านติดตามต่อไป ถ้าผมจะคุยกับท่าน มีปัญหา อยากได้ข้อมูลก็ยินดี ถ้าไม่มีคำตอบผมก็ตอบแทนเจ้าหน้าที่สภาฯ“ นายพิเชษฐ์ กล่าว












