‘พิธา – เท่าพิภพ’ ลงพื้นที่ตลาดเดินเล่น เขตธนบุรี ชี้ การแบ่งเขตเลือกตั้ง ไม่กระทบมาก
วันนี้ (28 มี.ค. 66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อม นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ว่าผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรเขตธนบุรี (ยกเว้นแขวงวัดกัลยาณ์ แขวงหิรัญรูจี และแขวบางยี่เรือ), คลองสาน, ราษฎร์บูรณะ (เฉพาะแขวงบางปะกอก) ลงพื้นที่ตลาดเดินเล่น ท่าพระ พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
นายพิธา ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงเขตการเลือกตั้งสร้างความสับสนให้อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรที่ไม่เคยทำงานในพื้นที่มาก่อน ผู้สมัครที่พื้นที่ใหม่ หรือผู้ที่เคยหาเสียงในพื้นที่เดิมแต่ต้องไปหาเสียงใหม่ อีกทั้งยังส่งผลต่อคนที่จะมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งด้วย เพราะต้องมาเริ่มต้นกันใหม่ ทั้งที่เท่าพิภพเคยเป็นในพื้นที่เดิมแล้ว แต่ก็ไม่เป็นปัญหา เรานะทำให้ในพื้นที่ได้รับการแก้ไขปัญหา เป็นปากเป็นเสียงให้พี่น้องประชาชนได้
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าในพื้นที่ที่ไม่ทำการบ้านมาก่อนล่วงหน้า ทางพรรคมีการปรับอย่างไร นายพิธา ตอบว่า วิธีการแบ่งเขตการเลือกตั้งที่ยังไม่ชัดเจนของกกต. ทำให้เราวางแผนล่วงหน้าไว้แล้วทั้งในกรุงเทพมหานคร และนอกกรุงเทพมหานคร ในการเดินหาเสียงในพื้นที่ จะใช้การเดิน 2 – 3 คนพร้อมกัน ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาไปได้ในระดับหนึ่ง แต่ขณะเดียวกันพื้นที่ที่แบ่งเขตแล้ว แต่ก็ไม่มีความชัดเจนในกรอบเวลา 1-2 เดือนก่อนการเลือกตั้งก็ต้องท้วงติงไปทาง กกต. พอสมควร แต่ยืนยันว่าไม่ได้เป็นอุปสรรคในการทำงานเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ให้เต็มที่ได้
ส่วนเรื่องนโยบายหลักในพื้นที่เขตธนบุรีนั้น นายพิธา ระบุว่า พื้นที่นี้เน้นเรื่องกฎหมายอีไอเอ การอยู่อาศัยของพี่น้องในคอนโด เรื่องการก่อสร้างที่ยังไม่เรียบร้อย การคมนาคมในพื้นที่ อย่างที่เท่าพิภพพูดว่าเน้นเรื่องพื้นที่ดี สภาเด่น อีกทั้งยังมีในเรื่องสุราก้าวหน้าที่เด่นอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าคะแนนผลโพลที่ออกมาพรรก้าวไกลมีคะแนนอยู่ในลำดับต้น ๆ จะมีการขยายฐานเสียง ยุทธศาสตร์การหาเสียงเพิ่มอย่างไร นายพิธา ตอบว่า ต้องยืนยันกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ให้ความมั่นใจในตัวเรา ให้มั่นใจมากขึ้นว่าการเลือกก้าวไกลไปอยู่ในทำเนียบรัฐบาล ไปบริหารจัดการประเทศ สามารถแก้ไขปัญหาได้ ในสิ่งที่นักการเมืองเก่า ๆ ไม่เคยทำหรือยังทำไม่สำเร็จ สร้างความต่างของพรรคก้าวไกล สื่อสารให้ได้มากที่สุด ว่าการทำงานการเมืองของพรรคที่ซื่อตรงต่อประชาชนกล้าคิด กล้าทำ แก้ปัญหาที่คาราคาซัง ทั้ง PM2.5 การก่อสร้างที่ยังทำไม่เสร็จ และขยะ ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และคิดว่าพี่น้องประชาชนจะไม่ผิดหวังในการกาก้าวไกลทั้งสองใบ
“พรรคก้าวไกลยืนยันมาตลอดว่าจะส่งแคนดิเดตนายกเพียงคนเดียว คือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และจะเป็นส.ส.ตามที่เราต่อสู้กันมาตั้งแต่พฤษภา 35 จนเป็นรัฐธรรมนูญ 40 จึงอยากยึดหลักการว่า ส.ส. ต้องยึดโยงกับพี่น้องประชาชนในการเสนอชื่อเป็นปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 และเป็นอคนดิเดตเพียงคนเดียวของพรรค” นายพิธากล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสของประชาขนที่หากเลือกก้าวไกลแล้วจะเป็นการเลือกให้คะแนนเสียงตกน้ำจนแพ้หรือไม่ นายเท่าพิภพ ระบุว่า การทำงานลงพื้นที่ทุกวัน การทำงานหนักของพรรคขอยืนยันว่าหารเลือกตั้งครั้งนี้เป็นความหวัง ไม่ใช่ความกลัว แล้วตนเองก็เป็นเพียงไม่กี่คนในพรรคที่ลงเลือกตั้งทังอสองครั้ง ขอยืนยันว่ากระแสของพรรคก้าวไกลเป็นของจริง ไม่เหมือนตอนพรรคอนาคตใหม่ คนที่เคยเลือกอนาคตใหม่ก็เลือกก้าวไกลอยู่ ส่วนคนที่ไม่เคยเลือกก็หันมาเลือก จึงไม่เข้าใจว่าทำไมถึงกลัวแพ้ ยิ่งถ้ากลัวแพ้ก็ต้องยิ่งเลือกก้าวไกล โดยเฉพาะหัวเมืองหลักที่โพลเรามาเป็นอันดับหนึ่ง และพื้นที่ปริมณฑลด้วย
ด้านนายพิธา ระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ยิ่งต้องทำความเข้าใจกับประชาชน ว่าคร้นี้คือการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของประเทศ ไม่ใช่เปลี่ยนแค่นายกรัฐมนตรีเท่านั้น และหากกลัวว่าคะแนนเสียงจะตกน้ำ ก็ต้องเลือกก้าวไกลเยอะ ๆ ให้น้ำเต็มแก้วไปเลย
ซึ่งบรรยากาศในการลงพื้นที่ครั้งนี้ของพรรคก้าวไกล มีประชาชนมาขอถ่ายภาพร่วมกันตลอดการลงพื้นที่ ทุกช่วง ทุกวัย พร้อมให้การสนับสนุน และให้กำลังใจพรรคก้าวไกล