‘ไมค์ – ภาณุพงศ์’ ส่ง น้า ลงชิง ส.ส. เขต 5 ระยอง กับ ‘ไทยสร้างไทย’
‘ไมค์ – ภาณุพงศ์’ ส่ง น้า ลงชิง ส.ส. เขต 5 ระยอง กับ ‘ไทยสร้างไทย’ ย้ำชัด อุดมการณ์เดิม ยืนยันไม่มีปัญหากับ ‘เพื่อไทย’แค่เลือกคนที่เชื่อมั่น
วันนี้ (28 มี.ค. 66) ที่โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เข้าร่วมสังเกตุการณ์พรรคไทยสร้างไทยหลังส่งนายบรรเลง ศรีสุทธิ ลงสมัครชิงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่จังหวัดระยอง
นายภาณุพงศ์ ระบุว่า วันนี้เป็นคนหนึ่งที่มีส่วนร่วมในการส่งผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร เขต 5 จังหวัดระยองคือ นายบรรเลง ศรีสุทธิ มีความเกี่ยวข้องกันเป็นน้า ซึ่งเราในฐานะนักเคลื่อนไหว ต้องขอแยกการต่อสู้บนท้องถนน กับการต่อสู้ในสนามเลือกตั้ง ออกจากกัน เมื่อเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง สิ่งสำคัญที่สามารถทำได้และสู้อีกวิธีก็คือการส่งผู้สมัครลงชิงในพื้นที่เขตบ้านของตนเอง เพื่อให้ผู้สมัครคนนี้เข้าไปมีช่องทางในการต่อสู้เพื่อพี่น้องประชาชนมากที่สุด
“หากถามว่าเราทรยศหรือไม่ ต้องบอกว่าอุดมการณ์ก็ตั้งไว้เช่นเดิม ตราบใดที่คนยังอยู่ อุดมการณ์ก็อยู่ สิ่งสำคัญคือการที่เราทำทุกวิถีทางเพื่อให้ชนะระบบอำนาจนิยมหรือระบบทหารที่ปกครองประเทศอยู่”
นายภาณุพงศ์ ระบุต่อว่า ผู้สมัครคนนี้เป็นความหวังมาก ๆ เพราะเราเชื่อมั่นว่าสามารถต่อสู้เพื่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้ มีอุดมการณ์ที่ชัดเจนเหมือนกัน จึงตัดสินใจมาช่วย ทั้งที่พื้นที่ในเขต 5 ของจังหวัดระยองเป็นเขตใหม่ มีการแข่งขันสูงมาก การทำการบ้านจึงยากพอสมควร แต่มั่นใจว่าผู้สมัครของเรามีความรู้ ความสามารถในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ โดยมีคอนเซ็ปต์คือ “บรรเลงคนบ้านเรา” คือ เป็นคนในพื้นที่ ทำเรื่องการทวงคืนที่ดิน ปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ จึงเป็นคนที่เข้าใจปัญหามากที่สุด จึงมั่นใจว่าจะสามารถนำปัญหาในพื้นที่ไปสู่การแก้ปัญหาในระดับนิติบัญญัติได้ ซึ่งเราคาดหวังกับ ส.ส. ที่ผ่านมาตั้งแต่การแบ่งเขตเก่า จนปัจจุบันจึงมองว่าแต่ละพรรคเข้าไม่ถึงประชาชน ทำให้ต้องเลือกคนที่เข้าถึงประชาชน แก้ไขปัญหาให้ตรงกับบริบทของประชาชนในพื้นที่ จึงตัดสินใจช่วย แม้ว่าจะเจอกับใคร หรือผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ก็ตาม โดยสิ่งสำคัญที่สุดคืออุดมการณ์ที่จะสู้ได้
ผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมถึงกรณีส่งว่าที่ผู้สมัครกับพรรคไทยสร้างไทย มาจากความขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทยครั้งก่อนหรือไม่ นายภาณุพงศ์ ระบุว่า ไม่มีผลขนาดนั้น ยึดโยงอุดมการณ์เป็นหลัก เมื่อรู้ว่าใครมีอุดมการณ์มากที่สุด ชัดเจนที่สุด การที่เราจะเลือกเขาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเรามีอุดมการณ์ที่มั่นคงอยู่แล้ว อีกอย่างคือระบบการเลือกตั้งเป็นระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้ว ซึ่งเราต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่เราจะเลือกใคร ไม่ใช่เรื่องผิดบาปอะไร เป็นเรื่องปกติของระบบ และทำตามระบบที่มี เป็นความชอบธรรมในตัวเราที่สามารถเลือกใครสักคนเข้ามาเพื่อเป็นตัวแทนของเราในการเข้าสู่การปกครองในระบบนิติบัญญัติ พร้อมยืนยันว่าส่วนตัวไม่มีปัญหากับพรรค เป็นเพียงเฉพาะตัวบุคคลเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยแค่ไม่ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าอยู่เคียงข้างอุดมการณ์ประชาธิปไตย และการเห็นต่างก็เป็นเรื่องปกติของสังคม
