POLITICS

ดร.โภคินยืนยัน ‘ไทยสร้างไทย’ พร้อมสู้ทุกกติกา ไม่ขัดข้อง จะใช้แบบเบอร์เดียวหรือสองเบอร์

ดร.โภคิน ยืนยัน พรรคไทยสร้างไทย พร้อมสู้ทุกกติกา ไม่ขัดข้อง จะใช้แบบเบอร์เดียวหรือสองเบอร์ ชี้เรื่องใหญ่ที่ผู้มีอำนาจต้องทำ คือการยึดประโยชน์ประชาชน ไม่ใช่พรรคตนเองในการแก้ระบบเลือกตั้ง มอง ระบบ ส.ส.พึงมีควรอยู่ เพื่อให้การคำนวนคะแนนสัมพันธ์กับจำนวนที่นั่ง ส.ส.อย่างแท้จริง

ดร.โภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ขับเคลื่อนประเทศ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกระบวนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ที่อยู่ในชั้นกรรมาธิการว่า ปัญหาสำคัญที่ กรรมาธิการฯควรถกเถียง คือบทบัญญัติที่ไม่มีการกำหนด ส.ส.พึงมี เช่นพรรคการเมืองได้รับคะแนนเสียงเท่าใด เป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์เท่าใดของทั้งหมด ก็จะได้จำนวนที่นั่งตามเปอร์เซ็นต์นั้นๆควรถูกหยิบยกมาพูดคุยมากที่สุดหรือไม่ แต่ที่เห็นมีการแก้ไขใหม่ จะกลับไปใช้รูปแบบเหมือนรัฐธรรมนูญ ปี 2540 ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นบัตร 1 ใบหรือ 2 ใบ จึงไม่ได้ช่วยแก้ปัญหานี้

ดร.โภคิน เห็นว่าการกลับไปใช้บัตร 2 ใบก็สามารถคิดคำนวณส.ส.พึงมีได้ โดยใช้จำนวน 500 เป็นตัวหาร ออกมาเป็นส.ส.พึงมี ซึ่งหากพรรคใดได้ส.ส.เขตเท่ากับหรือเกินจำนวนส.ส.พึงมีหรือพึงได้แล้ว ก็จะไม่ได้รับการคํานวณส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ

แต่รัฐธรรมนูญที่แก้ไขใหม่กำหนดให้มีส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เพียง100 คน แม้มีการกำหนดส.ส.พึงมีสัดส่วนที่จะมาแก้ไขความไม่สอดคล้องระหว่างคะแนนที่ได้รับกับที่นั่งที่ได้จริงก็จะไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดระบบผู้ชนะกินหมด หรือ Winner take all เช่นที่เกิดขึ้นตามรัฐธรรมนูญ ปี 2540และ 2550

ดังนั้นพรรคขนาดเล็กที่เคยได้ 10 ที่นั่ง อาจจะเหลือเพียง 5 หรือ 6 ที่นั่งเท่านั้น หรืออาจจะน้อยกว่านั้นก็เป็นได้ เพราะความนิยมของพรรคขนาดเล็กที่ไม่สูงเท่าพรรคขนาดใหญ่ ส่วนการเลือกตั้งในครั้งนี้ส่วนตัวไม่ขัดข้องหากจะใช้เบอร์เดียวทั้ง 2 ระบบทั่วประเทศ แต่เรื่องใหญ่ที่ควรถกเถียงกัน คือระบบควรจะมีส.ส.พึงมีหรือไม่ ซึ่งหากกังวลว่าจะมีพรรคเล็กเช่นพรรคละไม่เกินหนึ่งคนมากเกินไป ก็สามารถกำหนดได้ว่าต้องได้คะแนนเสียงทั้งประเทศเท่าใด เช่น 1% หรือ 2%จึงจะได้รับการคำนวนหา ส.สบัญชีรายชื่อ

“ที่ถกเถียงกันขณะนี้คือประเด็นว่าตนเอง จะได้เปรียบหรือได้ประโยชน์มากน้อยเพียงใดจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญการถกเถียงไม่อยู่บนพื้นฐานของความยุติธรรม และการเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกสัดส่วนมีโอกาสที่จะได้ ส.สของตนเอง และหากประชาชนที่ต้องการมีทางเลือกอื่นๆไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ท้ายที่สุดก็จะเหลือเพียง 4 ถึง 5 พรรคใหญ่ หรือพรรคขนาดกลางเท่านั้น ดังนั้นควรเปิดช่องให้พรรคขนาดเล็กสามารถเติบโตได้” ดร.โภคิน กล่าว

ดร.โภคิน ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยพร้อมต่อสู้ทุกรูปแบบ ทุกกติกาการเลือกตั้ง แต่หากอยากเห็นประเทศไปสู่การเปลี่ยนแปลง ภายใต้กติกาที่เป็นธรรมอย่างแท้จริง ต้องคำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก ไม่ใช่คำนึงว่าพรรคของตนเองจะได้รับชัยชนะเพียงอย่างเดียว โดยหารูปแบบหรือกลไกเพื่อก้าวไปสู่สิ่งที่ต้องการ ทั้งนี้หากเริ่มต้นโดยไม่มีความเป็นธรรม ตั้งแต่กระบวนการหรือระบบเลือกตั้งแล้ว ปัญหาต่างๆก็ไม่สามารถจบสิ้นได้

Related Posts

Send this to a friend