‘ภูมิธรรม’ เมินผลนิด้าโพล คะแนน ‘พิธา’ นำ ‘เศรษฐา’ – ชี้ 3 เดือนยังเร็วเกินไป
‘ภูมิธรรม’ เมินผลนิด้าโพล คะแนน ‘พิธา’ นำ ‘เศรษฐา’ ชี้ 3 เดือนเร็วเกินไป บอก รัฐบาลมีเวลา 4 ปี แต่หลังจากนั้นประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ใครพูดใครทำ - สร้างประโยชน์ ได้ดีที่สุด
วันนี้ (25 ธ.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังนิด้าโพลเผยคะแนนนิยมทางการเมืองปี 66 พบประชาชนยังสนับสนุน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี มากกว่านายเศรษฐา ทวีสิน ว่า ไม่ได้แปลกอะไร เพราะการสำรวจโพลขึ้นอยู่กับว่าสำรวจในสถาบันใดบ้าง หรือสำรวจในกลุ่มตัวอย่างใด ขณะนี้เราฟังผลโพลทุกส่วนว่าไปในทิศทางเดียวกันหรือต่างกัน แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ปัญหาเรื่องพื้นที่ของประชาชนโดยตรง ตนเองเชื่อว่า ประชาชนในพื้นที่ยังสนับสนุนนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ แต่ในพื้นที่เมือง หรือคนหนุ่มสาว เสียงสนับสนุนนายพิธายังมีความนิยมอยู่ แต่ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับการทำงานมากกว่า และหลังจากทำงานเสร็จแล้วประชาชนจะรู้สึกอย่างไร ความนิยมไม่เท่ากับผลงานที่ทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน
ส่วนระยะเวลาในการทำงานตลอดสามเดือนที่ผ่านมาน้อยเกินกว่าจะตัดสินผลงานหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า 3 เดือน ยังเร็วไป เหมือนอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ตนเองบอกว่ารัฐบาลกำลังเริ่มทำงาน ต้องเข้าใจว่ารัฐบาลนี้เข้ามาก็พบเจอกับปัญหาที่สะสมมาตลอดเกือบ 9 – 10 ปี ดังนั้นรัฐบาลตอนนี้กำลังปูรากฐาน ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือรัฐบาลยังไม่มีเงินในการทำงาน เพราะส่วนใหญ่เป็นงบประจำ เป็นการทำงานในช่วงงบรอยต่อ ที่ผ่านมาเราบริหารเงิน โดยเอาเงินธนาคารรัฐมาช่วย ดังนั้น การทำงานวันนี้คือการสร้างรากฐาน เตรียมพื้นที่แก้ไขปัญหาในอนาคตต่อไป คิดว่าปีนี้ ทุกคนจะได้เห็นว่าฝีมือทำงานเป็นอย่างไร และหลังจากต้นปีใหม่ จะเริ่มเข้าใจว่าใน 3 เดือนที่ผ่านมา เราปูรากฐานหรือทำอะไรไว้บ้าง
สำหรับความมั่นใจในผลงาน จะดึงคะแนนความนิยมกลับมานั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า ผลงานเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้น ๆ ในการดึงความนิยมกลับมา แต่ถ้าเห็นว่าเราตั้งใจจริง แก้ไขปัญหาได้ ประชาชนจะพึงพอใจ ตนเองเชื่อว่าเรามีความสามารถเหนือกว่าพรรคการเมืองอื่น ๆ คือการลงพื้นที่พบปะประชาชนโดยตรง สมาชิกพรรคเพื่อไทย และพรรคที่ลงพื้น เรายังเชื่อมั่นในเสียงสนับสนุน แต่เราต้องปรับปรุงการสื่อสารกับคนเมือง เยาวชนให้มากขึ้น อย่างการโซเชียลมีเดียก็ไม่แข็งแรงมาก เรื่องการสื่อสารของเรายังมีข้อจำกัดและหลังจากเรากลับโรงพักในครั้งนี้โดยมีหัวหน้าพรรคคนใหม่ยังนางสาวแพรทองธารชินวัตรและมีคณะกรรมการรุ่นใหม่ใหม่เข้ามาเชื่อว่าการปรับตัวให้ทั่วถึงกับเยาวชนหรือกลุ่มวิชาชีพจะมีมากขึ้น การสื่อสารที่สำคัญคือการนำข้อคิดเห็น วิสัยทัศน์ของเรา ผลงานของเรา สื่อสารให้พี่น้องประชาชนเข้าใจมากขึ้น และจะเป็นผลที่ทำให้สิ่งต่าง ๆ พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น
“ยังเร็วเกินไป เรามีเวลา 4 ปี หลังจาก 4 ปีแล้ว พี่น้องประชาชนจะเป็นคนตัดสินว่าใครพูด ใครทำ ใครสร้างประโยชน์กับพี่น้องประชาชนได้ดีที่สุด” นายภูมิธรรม กล่าว
