POLITICS

‘ภูมิใจไทย’ ยื่นเอาผิด ‘ชูวิทย์’ หลังเคลื่อนไหวถล่มพรรค

‘ภูมิใจไทย’ เอาจริง เตรียมส่งผู้สมัคร 400 เขตทั่วประเทศ ยื่นเอาผิด “ชูวิทย์” หลังเคลื่อนไหวถล่มพรรค-รับงานมาใส่ร้าย เตือนสื่อหนุนชูวิทย์เสี่ยงถูกฟ้องด้วย

วันนี้ (16 มี.ค. 66) ที่พรรคภูมิใจไทย นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย แถลงข่าวถึงกรณีการเคลื่อนไหวของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ที่ออกมาโจมตีพรรค ว่า กรณีที่มีบุคคลมุ่งทำลายพรรค ทั้งออกข่าว โจมตี เพื่อทำลายกระแสนิยมของพรรคภูมิใจไทย ขอเรียนว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา รัฐมนตรีของภูมิใจไทยได้ปฎิบัติหน้าที่ ที่มีกระบวนการนิติบัญญัติในการตรวจสอบ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดำเนินการตามปกติอยู่แล้ว เช่นกรณีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ถูกกล่าวหา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการพยายามเกินกว่าตรวจสอบทั่วไป เป็นการสร้างศาลเตี้ยขึ้นมาเพื่อปลุกปั่นสังคมให้เกิดความหลงผิด เข้าใจผิด โดยไม่สนใจข้อเท็จจริง ที่อยู่ในกระบวนการตรวจสอบ

นายศุภชัย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยได้ปฎิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร หรือในฐานะรัฐมนตรี ที่ได้เข้าไปกำกับดูแลในกระทรวงต่างๆ ได้ใช้อำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติงานด้วยความทุ่มเท ไม่ให้มีการโกงบ้านโกงเมือง อย่างที่มีคนพยายามกล่าวหา วันนี้จึงต้องออกมายืนยันว่าสิ่งที่กล่าวหานั้นเป็นการกล่าวร้ายต่อพรรคภูมิใจไทย โดยมีวาระซ่อนเร้นอยู่ ที่ผ่านมาเราพยายามปกป้องผลประโยชน์ของชาติซึ่งปรากฏอยู่ในข่าวแล้ว

แต่แน่นอนว่าการปกป้องผลประโยชน์ของพรรคภูมิใจไทยก็อาจมีผลกระทบต่อกลุ่มคนบางกลุ่ม ที่ผ่านมาเราก็ทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ และเรายืนยันเสมอมาที่จะให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นว่าเราได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แบบ พรรคภูมิใจไทยได้ปฏิบัติตามกฏหมาย ดังนั้นเรื่องการถูกผิดก็จะต้องดำเนินการตามกระบวนการ

“…แต่ถึงวันนี้ได้มีกรณีอย่าง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ สิ่งที่เห็นคือการประกาศอย่างชัดเจนว่ารับงานมาเพื่อมุ่งร้าย มาทำลายพรรคภูมิใจไทย เรื่องนี้ต้องเรียนว่าเป็นการใช้สิทธิ์โดยไม่สุจริต มีเจตนาซ่อนเร้น ซึ่งเป็นการใช้เสรีภาพของประชาชนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ในการพูดอาฆาตมาดร้าย ไปตามสถานที่ต่างๆ…” นายศุภชัยกล่าว

จากนั้น นายศุภชัย ยังได้เปิดคลิปพฤติกรรมของนายชูวิทย์ ที่มีลักษณะไปพูดคุยกับชาวบ้านไม่ให้เลือกพรรคภูมิใจไทย และกล่าวต่อว่า กรณีนี้ส่อเจตนา ว่าเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชน ที่ไม่ชอบด้วยกฏหมายอย่างชัดเจน แสดงให้เห็นว่าเป็นไปอย่างที่นายชูวิทย์ ออกมาระบุว่ารับงานเข้ามาเพื่อทำลายล้างพรรคภูมิใจไทย

“…เมื่อถามว่ารับงานจากใคร ก็มีข่าวปรากฏออกมาค่อนข้างชัดว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่เสียผลประโยชน์ในสิ่งที่พรรคภูมิใจไทยออกมาปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ ต้องเรียนให้พี่น้องได้ทราบว่าในวันนี้พรรคจะดำเนินการกับบุคคลใดก็ตาม ที่เข้ามากล่าวร้ายพรรคภูมิใจไทย ในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง พรรคภูมิใจไทยเชื่อมั่นในหลักนิติรัฐนิติธรรม จะไม่ยอมให้มีการใช้ศาลเตี้ยเข้ามา จนทำให้สถาบันหลักของประเทศซึ่งคือกฎหมายสั่นคลอน วันนี้นายชูวิทย์หรือใครก็ตาม ที่นำประโยชน์จากเรื่องที่นายชูวิทย์แถลง ไปใช้ประโยชน์ในการมุ่งทำลายทางการเมือง ด้วยการบิดเบือนใส่ร้ายพรรคภูมิใจไทย เราจะดำเนินคดีทุกคดี กับใครก็ตามที่ใส่ร้ายป้ายสีพรรค โดยยึดหลักการเคารพกฏหมาย บ้านเมืองมีขื่อมีแปง เราจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆก็จะทำให้กฎหมายไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ เราไม่ได้ปิดปากคุณชูวิทย์ เราต้องการที่จะให้คุณชูวิทย์ ใช้เสรีภาพในฐานะประชาชน ถ้าจะมาติชมเรื่องนโยบาย เราไม่มีปัญหา แต่ถ้ามาใส่ร้ายป้ายสีแบบนี้ถือว่าเป็นการละเมิดพรรคภูมิใจไทย…” นายศุภชัยกล่าว

นายศุภชัย กล่าวว่า วันนี้เราจะเริ่มคดีแรก โดยจะยื่นกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ตาม พ.ร.บ. กกต. มาตรา 22 ที่กำหนดไว้ว่ากกต.จะต้องมีหน้าที่กำกับดูแลให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม จะต้องให้เกิดความเรียบร้อย และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 73 ห้ามไม่ให้ผู้ใดใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น ซึ่งจะมีผลทางคะแนนนิยม ทั้งหมดนี้เป็นโทษทางอาญา

และทั้งนี้ยังมีในส่วนของบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของนายชูวิทย์ จากการใส่ร้าย หมิ่นประมาท ก็จะดำเนินคดี เช่นพรรคภูมิใจไทย , หัวหน้าพรรค ,เลขาธิการพรรค เป็นต้น และนอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานที่พรรคภูมิใจไทยกำกับดูแล เช่นกระทรวงคมนาคม , การรถไฟ เป็นต้น ที่นายชูวิทย์ได้ดำเนินการหมิ่นประมาท หรือใส่ร้าย แต่ละหน่วยงานก็จะมีการดำเนินคดีกับนายชูวิทย์ รวมไปถึง ผู้สมัครในพรรคภูมิใจไทยทั้งหมด 400 เขต ที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำของนายชูวิทย์ ก็จะมีการดำเนินคดีกับนายชูวิทย์ในเเต่ละเขตเลือกตั้ง ทั้ง 400 เขต โดยจะมีการร้องต่อ กกต.ในแต่ละจังหวัด พร้อมทั้งยื่นฟ้องหมิ่นประมาทต่อศาลฯ ด้วย

นายศุภชัย ยังกล่าวต่ออีกว่า ตนเชื่อว่านายชูวิทย์ ไม่กลัวการติดคุก เพราะมีประสบการณ์ในเรื่องการติดคุกมาแล้ว เขาอาจจะเสพติดเรื่องการติดคุก เมื่อมีคดีมากๆก็คงจะชอบ แต่เราไม่ได้หวังที่จะทำในสิ่งที่นายชูวิทย์ชื่นชอบ แต่จะทำเพื่อปกป้องในสิทธิประโยชน์ของพรรค รวมถึงชื่อเสียงกิตติคุณ จะมีใครก็ตามมาล่วงละเมิดต่อกฏหมายไม่ได้ พร้อมยก สุภาษิตกฎหมาย ว่าทุกคนที่ไปศาลต้องไปด้วยมือที่สะอาด คือหน่วยงานใดก็ตาม หรือใครก็ตามหากเป็นตัวบุคคลที่ร้องศาลจะต้องเป็นคนที่สะอาด เพราะฉะนั้นการที่นายชูวิทย์ไม่ได้ใช้สิทธิ์ด้วยความสุจริต แต่ไปก็ทำด้วยความอาฆาตมาดร้าย นายชูวิทย์จึงไปร้องศาลด้วยมือที่ไม่สะอาด

“…แม้เรื่องประวัติในอดีต อาชีพที่คุณทำอาจจะถูกกฎหมาย แต่สังคมอาจมมองว่าเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรม เช่นการเปิดอาบอบนวด บางคนอาจจะมองว่าสกปรก หรือการรื้อบาร์เบียร์แล้วต้องติดคุก นั่นก็คือความสกปรก นั้นหากนายชูวิทย์จะไปดำเนินร้อง กล่าวหาพรรคภูมิใจไทยนายชูวิทย์ต้องมีความสะอาด ไปด้วยเจตนาของตัวเอง…” นายศุภชัย กล่าว

นายศุภชัย กล่าวว่า ของฝากไปยังนายชูวิทย์ถึงเรื่องที่ กระทรวงคมนาคมเคยสอบถามไป เรื่องเงินทอน 30,000 ล้าน ที่ถามว่าใครเป็นคนโอน หรือรับโอน ทั้งๆที่โครงการนี้ยังไม่ไปถึงไหนเลย และยังไม่เข้าครม. เลย แต่นายชูวิทย์ก็เฉไฉ ไม่ยอมตอบ เหตุผลเพราะข้อมูลที่นายชูวิทย์มี นั้นไม่มีอยู่จริงหรือไม่

ทั้งนี้ ขอฝากไปถึง บางสื่อที่มีเจตนานำถ้อยคำพูดของนายชูวิทย์ มาโควทและเผยแพร่ ว่าอาจจะความผิด และหากพบว่ามีเจตนาไม่บริสุทธิ์ก็อาจจะถูกฟ้องร้องไปด้วย และพรรคการเมืองบางพรรคที่ฉกฉวยโอกาสมาโจมตีพรรคภูมิใจไทย เช่น พรรคประชาชาติ มีการกล่าวหาว่า พรรคภูมิใจไทยโกงเงิน 30,000 ล้านบาท ซึ่งอ้างว่านำข้อมูลมาจากนายชูวิทย์ หากจะฟ้องก็จะฟ้องนายชูวิทย์ก่อน ดังนั้นก็เตรียมรับคำร้องได้เลย

เมื่อถามว่า หากพบว่านายชูวิทย์มีการรับงานจากบุคคลอื่นจริงจะมีการฟ้องร้องไปถึงบุคคลนั้นด้วยหรือไม่ นายศุภชัย ยืนยันว่า เชื่อมโยงไปถึงก็จะฟ้องร้องแน่นอน

ส่วนตอนนี้มีหลักฐานเพิ่มเติมหรือไม่ นายศุภชัย บอกว่า ตอนนี้มีพอสมควร แต่ตอนนี้ทีมกฎหมายมีคดีอยู่ล้น หากมีหลักฐานชัดเจนก็จะเร่งดำเนินการ

เมื่อถามถึง กรณีวันพรุ่งนี้ที่นายชูวิทย์ระบุว่าจะไปยื่นยุบพรรคต่อ กกต. นายศุภชัย ตอบว่าหากนายชูวิทย์คิดว่าใช้สิทธิ์เสรีภาพ ตามกฎหมายท่านก็มีสิทธิ์ แต่หากไม่มีข้อมูลอะไรใหม่ และหากรับฟังได้ว่าใช้สิทธิ์โดยไม่สุจริต เป็นการยื่นคำร้องอันเป็นเท็จ ก็จะทำให้มีความผิดอาญาได้เหมือนกัน 90% ของข้อมูลนายชูวิทย์ คือการไปคัดลอกคนอื่นมา และเป็นการมโนเอาเอง และเป็นไปตามสติปัญญาของนายชูวิทย์ที่มีอยู่

Related Posts

Send this to a friend