POLITICS

‘กัญจนา’ ไม่ออกความเห็น ก้าวไกล – เพื่อไทย ป่วนตั้งรัฐบาล ขออยู่นิ่งในฐานะผู้ดู

‘กัญจนา’ ไม่ออกความเห็น ก้าวไกล – เพื่อไทย ป่วน ตั้งรัฐบาล ขออยู่นิ่งในฐานะผู้ดู ยังไม่ชัดท่าทีโหวตนายก แนะประธานสภาฯ คนใหม่ ต้องดู ‘ชวน’ เป็นแบบอย่าง เหตุทำมาตราฐานไว้สูงมาก

วันนี้ (25 พ.ค. 66) นางกัญจนา ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงท่าทีของพรรคชาติไทยพัฒนาต่อการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลว่า ขณะนี้พรรคชาติไทยพัฒนาขออยู่นิ่ง เพราะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาลขอเป็นฝ่ายดูทางพรรคที่มีการเซ็น MOU กันว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งส่วนตัวได้อ่านรายละเอียดของ MOU แล้ว แต่ไม่ขอออกความเห็น ขอให้เป็นเรื่องของพรรคที่ไปลงนามว่าจะดำเนินการอย่างไรใน 23 ข้อเพราะเราเป็นคนนอก

ส่วนจะกังวลในนโยบายใดนั้น ก็ไม่ขอออกความเห็น เช่นกัน เพียงแต่คอยรับฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งก็มีทั้งบวกและลบเป็นเรื่องธรรมดา มีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบ ก็ขึ้นอยู่กับพรรคที่ไปเซ็น MOU ร่วมกันว่าจะรับฟังหรือไม่อย่างไร

ส่วนการที่ไม่ได้ระบุเรื่องแก้ไขมาตรา 112 ไว้ใน MOU นั้น เรื่องนี้หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาได้พูดถึงจุดยืนไว้แล้วหลายครั้ง หากมีการเสนอเข้าไปในสภา ก็ย้ำว่า กฎหมายนี้ไม่ใช่ตัวปัญหา แต่อาจจะมีปัญหาบ้างในการบังคับใช้ ซึ่งก็ต้องไปพูดคุยกัน

สำหรับการโหวตเลือก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี นางกัญจนา กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา เพราะยังมีขั้นตอนอีกหลายอย่าง ทั้งต้องรอ กกต.รับรอง ส.ส.และต้องโหวตหาประธานสภาฯ ก่อน และเมื่อถึงเวลาแล้ว ทางพรรคจะมีการประชุมกันอีกทีว่าจะมีท่าทีอย่างไร

ขณะคนที่มาเป็นผู้นำรัฐบาลควรมีคุณสมบัติอย่างไรนั้น นางกัญจนากล่าวว่า แค่ทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองเจริญ ให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ดูแลระดับรากหญ้า จนไปถึงระดับสากล และทำในสิ่งที่ยั่งยืน ส่งต่ประเทศที่ดีงามไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน ซึ่งคิดว่านักการเมืองทุกคนน่าจะคิดดีกับประเทศไทยอยู่แล้ว แต่คนที่จะมาเป็นนายก จะต้องมีระดับดีกรีเรื่องนี้ที่สูงกว่านักการเมืองทั่วไป

ส่วนการโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ยังมีความไม่ชัดเจนระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลนั้น นางกัญจนา ยืนยันไม่ขอออกความคิดเห็น เพราะต้องเป็นเรื่องของ 2 พรรคที่จะต้องไปพิจารณากัน ในการวางตัวและคุณสมบัติ ของผู้ที่จะมาเป็นประธานสภาฯ แต่ส่วนเห็นว่าผู้ที่จะมาเป็นประธานสภาฯ จะต้องเก่งในเรื่องกฎหมายพอสมควร ต้องบอกตรงๆ ว่าที่ผ่านมา นายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาฯ ทำมาตราฐานไว้ดีมาก ทั้งเรื่องตัวบทกฎหมายและการแม่นข้อบังคับต่างๆ และยังมีลูกล่อลูกชน ในการควบคุมการประชุม ทำให้บรรยากาศการประชุมที่ตึงเครียดได้ผ่อนคลายลง รวมถึงบารมีของนายชวน ที่จะเบรกเรื่องต่างๆ ที่ดูไม่เหมาะสม ถือเป็นการวางมาตราฐานประธานสภาฯ ไว้สูงมาก จึงน่าจะเป็นตัวอย่างคนที่จะมาเป็นประธานสภาฯ คนต่อไป ที่จะได้ยึดนายชวน หลีกภัยเป็นตัวอย่าง

Related Posts

Send this to a friend