POLITICS

ปชป.จัดงานดินเนอร์ทอล์ค ระดมทุน คาดได้ 200 ล. ‘จุรินทร์’ ขอบคุณผู้ร่วมสนับสนุนพรรค

ปชป.จัดงานดินเนอร์ทอล์ค ระดมทุน ‘จุรินทร์’ ขอบคุณ กก.บห. – ผู้สนับสนุน ร่วมสนับสนุน พรรคที่เป็นสถาบันการเมืองและเป็นพรรคดีที่สุดพรรคหนึ่งของประเทศ ด้าน ‘เฉลิมชัย’ ชี้ เป็นการหาเงินแบบเปิดเผย ลั่น ไม่เคยทำอะไรใต้ดิน ยืนยัน ใช้คุ้มค่า-โปร่งใส 

วันนี้ (25 มี.ค. 65) พรรคประชาธิปัตย์จัดงานดินเนอร์ทอล์ค ภายใต้ชื่องาน “Go Together, Go Further” เพื่อระดมทุนพรรค ที่ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ห้อง BCC Hall แกรนด์ บอลรูม โดยจัดที่นั่งโต๊ะละ 5 คน จำนวน 120 โต๊ะ โต๊ะละ 2 ล้านบาท รวมเป็นเงินประมาณ 150-200 ล้านบาท เพื่อเตรียมพร้อมในการสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งต่อไป โดยมีแกนนำพรรค เช่น นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคฯ และประธานกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ เป็นต้น รวมถึง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และสมาชิกพรรค 

นอกจากนี้ยังมีตัวแทนนักธุรกิจภาคเอกชน เข้าร่วมงานด้วยอย่างคึกคักภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 โดยผู้เข้ามาร่วมงานต้องผ่านการตรวจ ATK ก่อนเข้างานทุกคน ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เดินทางมาร่วมงาน เนื่องจากติดภารกิจอื่น

สำหรับเมนูอาหาร ประกอบด้วย ปูอลาสก้าและไข่ต้มในน้ำพร้อมซอสผงกะหรี่และไข่ปลาคาเวียร์ ซุปอาหารทะเลบุยยาเบสกับขนมปังกระเทียม ปลาหิมะอบซอสครีมมะนาวเนยสด มันฝรั่งบดและผักโขม ถั่วฟาว่า ขนมพานาคอตต้ากับมิกซ์เบอร์รี่เชื่อมเสิร์ฟพร้อมกับไอศครีมเลมอนเชอร์เบทบนอัลมอนด์บิสกิต

ทั้งนี้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดงานในครั้งนี้ว่า มั่นใจว่าเป็นพรรคเดียวที่ประชาชนทุกคน มีสิทธิ์เข้ามาเป็นเจ้าของ โดยการจัดงานวันนี้ คือ งานของทุกคน ทุกคนเป็นเจ้าของงาน และอยากให้บรรยากาศเป็นครอบครัว เป็นกันเอง แบบนี้ เหมือนการพูดคุยกันแบบญาติพี่น้อง ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่พรรคประชาธิปัตย์ จะเดินไปหาทุกคนต่อจากนี้ 

พรรคประชาธิปัตย์ ก่อตั้งมา 76 ปี เป็นสถาบันการเมือง ที่เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การจัดงานระดมทุน เรียกง่ายๆ ว่าเป็นการหาเงิน แต่ทำอย่างเปิดเผย เพราะประชาธิปัตย์ไม่เคยทำอะไรใต้ดิน การเชิญทุกคนมาวันนี้เพราะอยากให้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประชาธิปไตยบนดิน เป็นกิจกรรมที่เปิดเผยต่อสาธารณชน โดย พรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นหนึ่งตัวเลือกให้กับประชาชนและยืนยันว่าเงินที่ได้จากการจัดงานวันนี้ จะใช้อย่างคุ้มค่าและโปร่งใสที่สุด เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นของประชาชนทุกคน ยึดประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก และพร้อมเปิดบ้านเชิญชวนให้คนที่ให้ความสนใจและมีอุดมการตรงกันเข้ามาทำงานร่วมกัน 

เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์

ขณะที่นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ อังก์ถัด (UNCTAD) และอดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO) ได้บรรยายในหัวข้อเรื่องเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก ตอนหนึ่งว่า ตนชอบความหมายของ Together คือ เราจะไปด้วนกัน ซึ่งหมายถึงเราจะเดินไปด้วย เพราะสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ สงครามทุกด้าน ไม่ใช่สงครามที่ต้องสู้กันเอง แต่ยังมีสงครามเศรษฐกิจโลก โรคระบาด และอีกหลายๆ ด้าน พร้อมระบุว่า ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจโลก ไม่เคยมี ช่วงไหนที่หนักขนาดนี้ ซึ่งเป็นช่วงของการเปลี่ยนแปลงในหลายเรื่องพร้อมๆ กัน 

ทั้งนี้ แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ทุกคนมองว่ายาวเกินไปนั้น ตนคิดว่าทุกพรรคการเมืองจะต้องเข้าใจยุทธศาสตร์ชาติและผลักดันต่อไป เพราะจะเป็นการสร้างเกราะกำบังที่แข็งแกร่งให้บ้านเมือง โดยเฉพาะการปฏิรูปเรื่องการศึกษา ที่ต้องกระจายการศึกษาให้ทั่วถึงประเทศ และขณะนี้ มียุทธศาสตร์ชาติที่ชัดว่าการพัฒนาคนพัฒนาชาติ จะเป็นไปอย่างไร จึงต้องพัฒนาและสานต่อให้ทันสมัย 

ขณะเดียวกันยังได้แสดงความยินดีที่นายจุรินทร์ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายเฉลิมชัยในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างดี ผลักดันด้านการเกษตรและ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยส่วนตัวขอให้คะแนน ทั้งสองคนสูงมาก 

จากนั้นนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ “ยุทธศาสตร์ การนำเศรษฐกิจไทยผ่านพ้นวิกฤตโควิด” ว่า พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคที่เก่าแก่ที่สุด และต้องเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด สำหรับ 3 ปีกว่าที่ผ่าน ประเทศไทย ไม่ได้เจอเพียงโควิด แต่เจอทั้ง โควิด และการเมือง อีกทั้งยังพบกับปัญหาสงคราม อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ที่ผ่านมา เราสามารถผ่านวิกฤติ โควิด และเศรษฐกิจมาได้ ทั้งในฐานะกระทรวงเกษตรและกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งไม่ได้เกิดจากความบังเอิญแต่เป็นการตั้งหลักมาตั้งแต่ต้น ที่ยึดยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” รวมถึงนโยบาย “ประกันรายได้เกษตรกร” ซึ่งเป็นนโยบายหลักที่เป็นข้อต่อรองในการเข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งประสบความสำเร็จในการจับมือร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์กระทรวงเกษตร ตามยุทธศาสตร์ “เกษตรผลิต พานิชย์ตลาด” 

นายจุรินทร์กล่าวว่าขอให้ทุกคนสบายใจในฐานะที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประเทศไทยต้องยืนหยัดเผชิญวิกฤตผนึกกำลังกันให้เหนียวแน่นกับอาเซียน เพราะเป็นเพื่อนที่ใกล้เรามากที่สุด

พร้อมบอกว่าประเทศไทยต้องมีคำตอบว่าทิศทางและวิสัยทัศน์ที่จะพาเศรษฐกิจไทยเดินไปข้างหน้าอย่างไร ซึ่งเป็นโจทย์ที่ท้าทายที่ต้องมีคำตอบ แต่อย่างน้อยที่สุด แม้ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายหรือทั้งหมด ส่วนตัวคิดว่าประเทศไทยต้องเป็น เศรษฐกิจแบบผสมผสาน ไม่หนักไปทางใดทางหนึ่ง อีกทั้งต้องปรับรูปแบบเศรษฐกิจ รูปแบบใหม่ๆ แต่ต้องไม่ทิ้งเศรษฐกิจฐานเกษตร โดยต้องใส่เทคโนโลยีและนวัตกรรม sotf power เข้าไป

ขณะเดียวกัน พรรคการเมือง คือ กลไกสำคัญในการขับเคลื่อนโยบาย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เป็นหนึ่งในนั้น แต่แตกต่างจากพรรคการเมืองทุกพรรค เพราะเราเป็นสถาบันการเมืองมา 76 ปี เป็นพรรคการเมืองที่มีอดีตปัจจุบันและจะมีอนาคต เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองของคนทุกรุ่น และจะยังดำรงอยู่ต่อไปตราบชั่วฟ้าดินสลาย เพื่อทำงานเพื่อชาติ ประชาชน เพราะการบ้านประเทศคือการบ้านพรรคประชาธิปัตย์ พร้อม ขอบคุณผู้สนับสนุนพรรคทุกคน ย้ำในช่วงท้ายว่า “ขอให้มั่นใจว่าการสนับสนุนของท่าน ท่านได้มีส่วนสำคัญในการ สนับสนุนพรรคการเมือง ที่เป็นสถาบันทางการเมืองที่ยั่งยืนที่สุด และดีที่สุดพรรคหนึ่งของประเทศ”

Related Posts

Send this to a friend