‘ปกรณ์วุฒิ’ ร้องประธานสภาฯ เร่งชี้ขาด พปชร.ปมยึดห้องหลังบัลลังก์

‘ปกรณ์วุฒิ’ ขอไม่โต้ ‘พล.อ.ประวิตร’ บอกไม่อยากเจอที่อื่นนอกจากสภา ร้องประธานสภาฯ เร่งชี้ขาด พปชร. ปมยึดห้องหลังบัลลังก์ ชี้ไม่ควรมีใครที่มีสิทธิพิเศษ

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่าหาก สส.พรรคก้าวไกลอยากพบ ก็ให้มาหาที่บ้าน โดยนายปกรณ์วุฒิ ตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า ตนเป็น สส.ที่ทำงานอยู่ที่สภาฯ ไม่อยากไปหาใครที่บ้าน

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า หากมองย้อนกลับไป พล.อ.ประวิตร เคยระบุว่าลงสมัคร สส.เพื่อความสง่างาม จึงขอถามกลับว่า “นี่หรือคือความสง่างาม” ส่วนการที่ พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ไม่มาสภาแล้วผิดตรงไหน ทุกอย่างเป็นคำตอบในตัวเองอยู่แล้ว ประชาชนคงพิจารณาได้ว่า วิธีคิดของ พล.อ.ประวิตร เป็นอย่างไร ทั้งนี้ ยืนยันว่าเป็น สส.ด้วยกัน ก็อยากเจอที่สภาฯ ไม่อยากเจอที่อื่น

สำหรับกรณีที่ถามว่าจะมีการตรวจสอบการขาดประชุมสภาฯ ถูกต้องตามตามขั้นตอนหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 อยากทำข้อมูลเพื่อเปิดเผยข้อมูลการเข้าทำงานของ สส.ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพราะการเซ็นชื่อในเอกสารต้องใช้เวลาขอข้อมูล ซึ่งหากทำสำเร็จจะเห็นได้ทันทีว่า สส.คนใดขาดประชุม กี่ครั้ง ถือเป็นประโยชน์ต่อประชาชน

อย่างไรก็ตาม การลาประชุมสภา หากขออนุญาตจากประธานสภาฯ ก็สามารถทำได้ เพราะบางคนอาจมีอาการเจ็บป่วยติดต่อกันนาน จะทำให้ไม่สิ้นสภาพ สส. แต่หากขาดประชุมโดยไม่แจ้ง ก็มีข้อบังคับจำกัดอยู่ว่าสามารถขาดประชุมได้กี่ครั้ง จึงจะสิ้นสภาพ สส.โดยอัตโนมัติ

เมื่อถามว่ามองการตอบโต้ของ พล.อ. ประวิตร ครั้งนี้อย่างไร นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ไม่ได้มองอะไร และไม่คิดว่าจะต้องตอบโต้อะไรด้วยซ้ำ เพราะคำพูดของ พล.อ. ประวิตร ก็ตอบโต้ในตัวเองอยู่แล้ว

สำหรับความคืบหน้าเรื่องห้องหลังบัลลังก์ที่ถูกพรรคพลังประชารัฐยึด นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า นายปดิพัทธ์ยืนยันแล้วว่าพรรคพลังประชารัฐไม่สามารถยึดไว้ได้ ถือเป็นการใช้ทรัพย์สินของราชการโดยไม่ได้รับอนุญาต หากประธานสภาฯ มีความเด็ดขาดและออกระเบียบชัดเจน ก็ต้องย้ายหรือขนของออกไป ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ย้ายออก พรรคพลังประชารัฐไม่ได้แจ้งว่าห้องมีไว้สำหรับ พล.อ.ประวิตร แต่ตนแค่ตั้งข้อสันนิษฐาน เพราะมีการกั้นห้อง และโต๊ะทำงานตัวใหญ่เพียงโต๊ะเดียว นึกไม่ออกว่าจะให้ใครได้อีก

ส่วนเรื่องเดดไลน์การเคลียร์ปัญหา นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนคงไม่มีอำนาจไปกำหนด จึงขอเรียกร้องไปยังประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ อีก 2 คน เข้าใจว่าคงจะมีการประชุมร่วมกันเพื่อความสง่างามของสภา มองว่าไม่ควรมีใครที่มีสิทธิพิเศษหรือทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล อยู่ ๆ ก็ประกาศยึดห้อง ซึ่งประธานสภาไม่ควรปล่อยให้เป็นแบบนี้